#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคง มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ กับมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.ย. 63 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลัง ค่อนข้างแรง โดยคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 17 ก.ย. 63 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีปริมาณฝนน้อยลง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคตะวันออกและภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนัก บางแห่ง ทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกจะเคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลาง และคาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้น เป็นพายุดีเปรสชันในระยะต่อไป โดยในช่วงวันที่ 18 ? 19 ก.ย. จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้อ่าวตังเกี๋ยและชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากว่า 3 เมตร และอ่าวไทยคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 14 - 15 และ วันที่ 18 ? 19 ก.ย. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรงดการเดินเรือในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ตะลึง พบซากเรือรบเยอรมัน 'คาร์ลสรูห์' โดนตอร์ปิโดจมก้นทะเล 80 ปีก่อนแล้ว เจอแล้ว..ซากเรือรบ 'คาร์ลสรูห์' ของกองทัพนาซี-เยอรมัน ถูกอังกฤษยิงโจมตีด้วยตอร์ปิโดจมก้นทะเล นอกชายฝั่งนอร์เวย์ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว หลังเป็นปริศนามายาวนานนับ 80 ปี เมื่อ 13 ก.ย.63 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงาน บริษัทไฟฟ้า 'สตัทเนตต์' ในนอร์เวย์ พบซากเรือรบ Karlruhe (คาร์ลสรูห์) ของกองทัพเรือนาซี-เยอรมัน สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกตอร์ปิโดของอังกฤษยิงจมก้นทะเลแล้ว ตั้งแต่เมื่อ 80 ปีก่อนแล้ว ที่บริเวณนอกชายฝั่งทางตอนใต้ประเทศนอร์เวย์ หลังจากปริศนาเรือ คาร์ลสรูห์ ซึ่งเป็นเรือลาดตระเวนเบาของกองทัพเยอรมัน จมหาย ณ ที่ใดได้เป็นคำถามมายาวนาน โดยการพบซากเรือ คาร์ลสรูห์ครั้งนี้ของบริษัท สตัทเนตต์ ขณะกำลังดำเนินการตรวจสอบสายเคเบิลใต้ทะเล ที่บริเวณช่องแคบ Skagerrak สำหรับชะตากรรมของเรือลาดตระเวนเบา คาร์ลสรูห์ ได้ถูกเรือรบอังกฤษ 'HMS Truant' ยิงโจมตีด้วยตอร์ปิโด ขณะกำลังมุ่งหน้ากลับประเทศเยอรมนี หลังจากได้เข้าร่วมในสมรภูมิรบ ทหารนาซี-เยอรมันบุกโจมตีนอร์เวย์ในปี ค.ศ.1940 โดยหลังเรือคาร์ลสรูห์โดนตอร์ปิโดโจมตีจนได้รับความเสียหายหนัก ทำให้บรรดาทหารเรือเยอรมันต้องหาทางหนีออกมา ภาพสแกนจากระบบโซนาร์ แสดงให้เห็นซากเรือรบ ?คาร์ลสรูห์? Frode Kval? เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ทางทะเลในนอร์เวย์กล่าวว่า เราสามารถศึกษาอ่านชะตากรรมของเรือรบ คาร์ลสรูห์ได้จากหนังสือประวัติศาสตร์ แต่ไม่มีใครรู้แท้จริงว่าจุดที่เรือรบลำนี้จมนั้นอยู่ที่ไหน และมากไปกว่านั้นคือ นี่เป็นเรือรบขนาดใหญ่ของกองทัพนาซี-เยอรมันเพียงลำเดียวที่สูญหายและไม่รู้ว่าจมที่ไหน ระหว่างที่กองทัพเยอรมันบุกโจมตีนอร์เวย์ และในที่สุดเราก็รู้ว่าเรือคาร์ลสรูห์จมที่ก้นทะเลในระด้บความลึก 490 เมตร ขณะที่ปากกระบอกปืนใหญ่ที่อันตรายชี้ไปยังทะเล เดลี่เมล เผยว่า บริษัทสตัทเนตต์ ได้พบซากเรือ คาร์ลสรูห์ เป็นครั้งแรก ระหว่างการตรวจสอบใต้ท้องทะเลด้วยระบบโซนาร์ ในปี 2560 โดยพบซากเรืออยู่ก้นทะเล ห่างจากเมือง Kristiansand ทางตอนใต้ของนอร์เวย์ไปประมาณ 13 ไมล์ทะเล แต่ก็ไม่ได้มีการสำรวจเพิ่มเติม จนกระทั่งมาถึงเดือนมิถุนายน ปี 2563 เมื่อ นาย Ole Petter Hobberstad วิศวกรของบริษัทสตัทเนตต์ ได้รับโอกาสให้ตรวจสอบซากเรือด้วยการใช้เรือดำน้ำที่ควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรล และเมื่อผล ROV แสดงให้เห็นว่าเรือลำนี้ถูกยิงด้วยตอร์ปิโด จึงทำให้พวกเราตระหนักขึ้นมาได้ว่า มันเป็นซากเรือรบตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 'ขณะที่เราได้เห็นกระบอกปืนใหญ่จากหน้าจอ ทำให้เราเข้าใจว่ามันเป็นเรือรบลำใหญ่ พวกเราตื่นเต้นกันมาก และประหลาดใจที่ซากเรือลำนี้มีขนาดใหญ่โตมาก' นาย Hobberstad กล่าวด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับพูดว่า การค้นพบซากเรือรบที่มีความพิเศษเช่นนี้เป็นเรื่องนานๆ ครั้งที่จะเกิดขึ้น จึงทำให้การสำรวจใต้น้ำที่สร้างความตื่นเต้นให้กับทีมงานของเรามาก. https://www.thairath.co.th/news/foreign/1929217
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก โพสต์ทูเดย์
ยิ่งกว่าในหนัง! กำแพงพายุทรายกลืนเมือง ภาพที่บันทึกไว้ได้โดยสมากชิกโซเชียบเน็ตเวิร์กแสดงให้เห็นแนวฝุ่นขนาดมหึนมาที่กำลังเขมือบเมืองหลวงของตุรกี เกิดแนวพายุทรายขนาดใหญ่ในเขตโปลาตลี (Polatl?)ของกรุงอังการา ประเทศตุรกี ทำให้ท้องฟ้าของเมืองมืดลง ไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ถูกตัดขาดในบางส่วนของเมือง จากนั้นก็กลืนกินทั้งเมืองให้อยู่ภายใต้พายุฝุ่น นายกเทศมนตรีเมือง มือร์เซล ยิลดิซกายา กล่าวว่า "ผมไม่ได้เห็นเรื่องแบบนี้มา 50 ปีแล้ว" และเตือนให้ประชาชนในภูมิภาคอยู่บ้าน ต่อมาเขายังเผยว่าฟ้าผ่าระหว่างเกิดพายุให้เกิดไฟไหม้แต่สามารถควบคุมได้ ขณะที่วาซิป ซาฮิน ผู้ว่าการเมืองหลวงอังการากล่าวในทวิตเตอร์ว่า เบื้องต้นระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 6 คนเนื่องถูกสิ่งของและวัตถุที่กระแสลมพัดปลิวมา https://www.posttoday.com/world/632851
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|