#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่พายุโซนร้อน "มู่หลาน" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อนึ่ง พายุโซนร้อน "มู่หลาน" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 11 ส.ค. 65 นี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 10 ? 13 ส.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 14 ? 15 ส.ค. 65 ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อน ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามันคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 10-11 ส.ค. 65 ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 10 ? 13 ส.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุโซนร้อน "มู่หลาน"" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2565 เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (10 ส.ค. 65) พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน "มู่หลาน" แล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 150 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 18.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศเหนือค่อนทางตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 11 ส.ค. 65 ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 11 ? 13 ส.ค. 65 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ วันที่ 11 สิงหาคม 2565 ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ และอุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด วันที่ 12 สิงหาคม 2565 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลกตาก สุโขทัย และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด วันที่ 13 สิงหาคม 2565 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลกตาก สุโขทัย และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี และบึงกาฬ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
จนท.เร่งให้วิตามินช่วยวาฬเบลูกาพลัดหลงอยู่ในแม่น้ำแซนนานหลายวัน ทางการฝรั่งเศสยังคงเร่งหาทางช่วยเหลือวาฬเบลูกา ที่พลัดหลงว่ายน้ำเข้าไปในแม่น้ำแซนของฝรั่งเศส ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา โดยหาทางให้วิตามินเสริมหลังพบว่าร่างกายของมันเริ่มอ่อนแอลง เจ้าหน้าที่กู้ภัย และผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมของฝรั่งเศส ยังคงไม่สามารถต้อนวาฬเบลูกาที่พลัดหลงเข้ามาในแม่น้ำแซนตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา กลับไปสู่ทะเลได้ โดยทุกฝ่ายต่างร่วมกันประเมินสุขภาพของเจ้าวาฬเบลูกา และพบว่ามันกำลังอ่อนแอลงทุกที เนื่องจากมันไม่ยอมกินอาหาร ไม่ว่าจะเป็นปลาเฮร์ริ่งแช่แข็ง หรือปลาเทราต์เป็นๆ ที่เจ้าหน้าที่นำมาให้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหากลยุทธ์ใหม่ในการให้วิตามินเสริมกับมัน เพื่อให้เจ้าวาฬมีเรี่ยวแรงพอที่จะกลับออกไปสู่ทะเลโดยเร็ว โดยคาดว่าหากวาฬเบลูกาได้รับวิตามินแล้ว จะช่วยทำให้มันอยากอาหาร และจะแข็งแรงพอที่จะว่ายออกจากแม่น้ำไปยังช่องแคบอังกฤษซึ่งมีระยะทางยาวถึง 160 กิโลเมตร และว่ายกลับไปยังทะเลอาร์กติกซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของมันได้ ขณะที่อีกทางเลือกหนึ่งคือการที่เจ้าหน้าที่จะต้องนำตัวมันออกจากแม่น้ำไปยังปลายทาง แต่การจะใช้วิธีนี้ วาฬเบลูกาจะต้องมีความแข็งแรงมากพอที่จะรอดชีวิตจากการเดินทางที่มีความเสี่ยงมากกว่า โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่พบว่ามีจุดบางอย่างบนผิวหนังของมัน ซึ่งยังไม่แน่ขัดว่าเกิดจากการที่มันเข้ามาอยู่ในน้ำจืด หรือมันมีอาการของโรคบางอย่างเกิดขึ้น ทั้งนี้ นับเป็นเรื่องผิดปกติ ที่วาฬเบลูกาจะว่ายเข้ามาในแหล่งน้ำจืด เนื่องจากวาฬเหล่านี้เหมาะสมที่อาศัยอยู่ในทะเลอาร์กติก ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น โดยยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เจ้าวาฬตัวนี้ ว่ายพลัดหลงเข้ามาอยู่ในแม่น้ำที่ห่างไกลจากถิ่นที่อยู่ของมันได้อย่างไร โดยช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีวาฬเพชฌฆาต พลัดหลงเข้ามาในแม่น้ำแซนก่อนที่มันจะตาย เนื่องจากไม่สามารถอาศัยอยู่ในแม่น้ำได้ ขณะที่ในปี 2019 ก็พบวาฬพลัดหลงลอยตายอยู่ในแม่น้ำเธมส์ของอังกฤษเช่นกัน. https://www.thairath.co.th/news/foreign/2466364
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
โรมาเนียเผชิญ ?ภัยแล้งรุนแรง? แม่น้ำดานูบแห้งเหือด-พืชไร่ล้มตายเกลื่อน โรมาเนียเผชิญ "ภัยแล้งรุนแรง" ? ซินหัว เผยแพร่ภาพผลกระทบจาก ภัยแล้ง ในหลายพื้นที่ของเขตเตเลออร์มัน ประเทศโรมาเนีย ทั้งทุ่งดอกทานตะวันที่เหี่ยวเฉา ต้นข้าวโพดแคระแกร็น ไฟป่า ตลอดจนแม่น้ำดานูบที่เหือดแห้ง ภัยแล้งในโรมาเนียเป็นผลกระทบจากคลื่นความร้อนรุนแรงที่หลายประเทศในภูมิภาคยุโรปเผชิญหน้า โดยคลื่นความร้อนระลอกแรกของยุโรปในปีนี้เกิดขึ้นช่วงเดือนมิ.ย. ส่งผลให้สภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิพุ่งสูงระหว่าง 40-43 องศาเซลเซียส คลื่นความร้อนระลอกสองเกิดขึ้นช่วงกลางเดือนก.ค. กับพื้นที่ได้รับผลกระทบที่แผ่กว้างขึ้นสู่ตอนเหนือของยุโรป ขณะที่โปรตุเกสมีอุณหภูมิสูงถึง 47 องศาเซลเซียส สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนสหราชอาณาจักรมีอุณหภูมิแตะ 40 องศาเซลเซียสเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ ส่วนคลื่นความร้อนระลอกสามเริ่มเมื่อต้นเดือนส.ค. โดยบางพื้นที่ของฝรั่งเศสและสเปนมีอุณหภูมิสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่าคลื่นความร้อนในปีนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 11,968 ราย เยอรมนีสูงสุดที่ 8,138 ราย สเปน 2,742 ราย โปรตุเกส 1,063 ราย สหราชอาณาจักร 13 ราย ฝรั่งเศส 5 ราย ไอร์แลนด์ 4 ราย และโปแลนด์ 3 ราย https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_7203835
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
นักดำนํ้าเศร้า! 'ฉลามวาฬ'ลอยตายปริศนาริมทะเลกระบี่ เบื้องต้นไม่พบบาดแผล 9 สิงหาคม 2565 นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการ รร.ซายังบีชรีสอร์ท ว่า พบซากฉลามวาฬเกยตื้นบริเวณชายหาดลองบีช ใกล้กับโรงแรมซายังบีชรีสอร์ต ม.3 ต.ศาลาด่าน อ. เกาะลันตา จ. กระบี่ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาจำนวนกว่า 10 คน ร่วมกับหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ (นรภ.ทร.) เกาะลันตาน้อย ประมงอำเภอเกาะลันตา เข้าร่วมตรวจสอบพร้อมทั้งประสานข้อมูลจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก จ. ตรัง โดยจากการตรวจสอบพบซากฉลามวาฬ มีความยาว 5 เมตร น้ำหนักประมาณ 2.5 ตัน เพศผู้ สภาพเน่าเปื่อย ไม่พบร่องรอยบาดแผลใดๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ขณะที่นักดำน้ำหลายคน หลังทราบข่าวดังกล่าว ก็ได้มีการโพสต์ในโลกโซเชี่ยล ซึ่งเป็นการไว้อาลัยและสลดใจกับการสูญเสียฉลามวาฬยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลกระบี่ เช่น นักดำน้ำชื่อไก่โต้ง ที่เกาะพีพี เผยว่า ฉลามวาฬตัวดังกล่าว น่าจะเป็นฉลามวาฬที่ว่ายไปมาระหว่างเกาะพีพีและเกาะลันตา ซึ่งพบเห็นได้บ่อยในช่วงที่ผ่านมา แต่ช่วง 10 วันมานี้ ไปดำน้ำก็ไม่เจอแล้วด้วย ด้านนายสมบูรณ์ แข็งแรง ผู้จัดการโรงแรมซายังบีช รีสอร์ท ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทราบว่ามีฉลามวาฬขนาดใหญ่ ถูกคลื่นซัดลอยมาติดชายหาด ลองบีช ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมจึงได้เดินออกมาดู พบว่าซากฉลามวาฬ เริ่มเน่าเปื่อย มีกลิ่นเหม็น คาดว่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน จึงได้แจ้ง จนท.เข้าตรวจสอบ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเดือน ต.ค.ปี พ.ศ. 55 ได้มีซากฉลามวาฬ ขนาดใหญ่ ถูกคลื่นซัดลอยมาเกยหาดหาดคลองนิล ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา โดยซากฉลามวาฬดังกล่าว มีขนาดยาว 7.8 เมตร และหนักประมาณ 8 ตัน ผลจากการพิสูจน์การตาย คาดว่าติดอวนเรือประมงอวนลาก https://www.naewna.com/local/672340
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|