เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 21-06-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในวันที่ 21-24 มิ.ย. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ส่วนในช่วงวันที่ 25 ? 26 มิ.ย. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 21 ? 26 มิ.ย. 63 ประชาชนบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 21-06-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


น้ำดำเหม็นเน่าทั้งหาดแม่รำพึง วอนหน่วยงานเร่งแก้ไข

"หาดแม่รำพึง"ถึงคราวสะอื้น น้ำดำไหลจากคลองสู่ทะเล ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง วอนหน่วยงานเร่งแก้ไข ก่อนนักท่องเทียวหาย



เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปหาดแม่รำพึง บริเวณปากคลองหัวรถ ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีน้ำเสียไหลจากคลองหัวรถลงสู่ทะเล จนทำให้น้ำทะเลกลายเป็นสีดำไปทั่วบริเวณเมื่อเดินทางไปถึง ก็ถึงกับผงะ กับน้ำทะเลที่กลายเป็นสีดำส่งกลิ่นเหม็นไป ทั่วทั้งหาดยาวหลายสิบเมตร ตรวจสอบพบว่า น้ำสีดำได้ไหลลงมาจากคลองหัวรถ? ซึ่งไหลมาจากหมู่บ้าน? ก่อนจะลงสู่ทะเล



จากการสอบถามชาวบ้าน ได้เปิดเผยว่า โชคดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงหาดปิด เพราะสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ไม่ทีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อน มิเช่นนั้นคงจะแตกตื่นกันแน่ ส่วนสาเหตุน้ำสีดำนั้นไม่ทราบว่ามาจากไหนและมาได้อย่างไร และ เพิ่งเห็นเป็นวันแรก ทั้งๆที่ฝนก็ตกลงมาหลายวันแล้ว คาดคงจะมีน้ำเสียจากต้นคลองไหลปะปนลงมาในคลอง จนมาโผล่ที่ปากคลองจนกระทั่งไหลลงสู่ทะเล จนทำให้ผสมกับน้ำทะเลจนทำให้น้ำทะเลมีสีดำอย่างที่เห็น ด้านแม่ค้าริมหาด หวั่นกระทบต่อการท่องเที่ยวที่คาดว่าทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าคงจะเปิดในต้นเดือนหน้า หากยังแก้ไขไม่ได้ ก็เท่ากับซ้ำเติมพ่อค้าแม่ค้าเข้าไปอีก เพราะไม่มีใครมาท่องเที่ยวแน่หากน้ำทะเลเป็นสีดำอย่างที่เห็น วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด้วย.


https://www.dailynews.co.th/regional/780987

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 21-06-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


อุทยานฯ ธารโบกขรณี ปิดต่อ ดีต่อธรรมชาติ! ชมฉลามหูดำมาเยือนเป็นฝูง ที่เกาะห้อง



เมื่อวานก่อน (18 มิ.ย.2563) เพจเฟซบุ๊ก นายจำเป็น ผอมภักดี พนักงานพิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ ได้โพสต์คลิปชวนชมฝูงปลาหลายชนิด โดยเฉพาะฝูงฉลามหูดำ นอกจากนี้ ยังมีฝูงปลากระบอก ฝูงปลากระมง ฝูงปลากระโทง ฝูงปลาทู ที่เข้ามาเยือนใกล้ๆ ฝั่ง บริเวณท่าเทียบเรือ ที่เกาะห้อง ในเขตพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่

อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เป็น 1 ใน 28 อุทยาน ที่ยังคงปิดบริการต่อ ยังไม่เปิดบริการให้คนภายนอกเข้าไปท่องเที่ยวที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้



สำหรับอุทยานแห่งชาติโบกขรณี เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 86 ของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ 65,000 ไร่ หรือ 104 ตารางกิโลเมตร ในท้องที่อำเภออ่าวลึก และ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีสภาพภูมิประเทศเป็นป่าดงดิบที่มีธารน้ำไหลลอดภูเขาในลักษณะของธารน้ำใต้ดิน สภาพพื้นที่เป็นแบบลูกคลื่น ทั้งลอนลาดและลอนชัน มีเขาโดดเตี้ยของหินปูน ซึ่งมีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันกระจายอยู่ทั่วไป

สถานที่น่าสนใจ ประกอบด้วย ถ้ำสระยวนทอง ควนสอง เขาลูกบ้า ถ้ำทะลุฟ้า เขาลอดใต้ เขาช่องลม เขานอก เขาตากรด เขาอ่าวน้ำ เขาอ่าวม่วง เขาใสโต๊ะดำ เขาใหญ่ปากช่องลาด และพื้นที่บางส่วนเป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามันประกอบด้วย เกาะเหลาบิเละ (เกาะห้อง) เกาะเหลากา เกาะเหลาเหรียม เกาะปากกะ เกาะเหลาลาดิง เกาะยะลาฮูดัง เกาะเหลาบุโล๊ะ (เกาะผักเบี้ย) เกาะกามิด เกาะปาหุเสีย เกาะฮันตู เกาะจาบัง เกาะเมย เกาะกาโรส เกาะแตก เกาะมีไลย เกาะอ่าวช้างตาย เกาะเลาดัว เกาะรงมารง (เกาะขลุ่ย) เกาะแหลมค้างคาว เกาะแหลมทะลุ เกาะแหลมตุโดด เกาะช่องลาดใต้ และเกาะฮาม

ทั้งนี้ พื้นที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ถือว่าเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารของพื้นที่อำเภออ่าวลึกหลายสาย ที่สำคัญได้แก่ คลองมะรุย คลองกลาง คลองน้ำตก คลองอ่าวลึก และคลองกาโรส


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000063669


*********************************************************************************************************************************************************


ข่าวจริง! กรมประมงยืนยัน เชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ส่งผลกระทบต่ออาหารที่ผลิตจากสัตว์น้ำในประเทศไทย

กรมประมงขอยืนยันว่าสินค้าสัตว์น้ำของไทย สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยไร้การปนเปื้อนของเชื้อไวรัสโควิด-19 และประเทศไทยไม่ได้นำเข้าปลาแซลมอนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อการบริโภคในลักษณะปลาดิบแต่อย่างใด โดยการนำเข้าปลาแซลมอนของไทย ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าเพื่อนำมาแปรรูปและส่งออก ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตที่มีการควบคุมตามหลักมาตรฐานสากล



วันนี้ (20 มิ.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกรมประมงยืนยันเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ส่งผลกระทบต่ออาหารที่ผลิตจากสัตว์น้ำในประเทศไทย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

จากกรณีมีการเผยแพร่ข่าวการกลับมาระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน

โดยรายงานว่า พบเชื้อบริเวณเขียงแล่ปลาแซลมอนนำเข้าจากต่างประเทศในตลาดแห่งหนึ่งของกรุงปักกิ่ง นั้น ได้สร้างความกังวลใจให้กับผู้บริโภคและกระทบต่อตลาดอาหารของไทยด้วย เนื่องจากประเทศไทยติดอันดับต้นๆ ในการบริโภคปลาแซลมอน ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค กรมประมงจึงขอยืนยันว่าสินค้าสัตว์น้ำของไทย สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยไร้การปนเปื้อนของเชื้อไวรัสโควิด-19

และในส่วนของปลาแซลมอนประเทศไทย มิได้นำเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อการบริโภคในลักษณะปลาดิบแต่อย่างใด โดยการนำเข้าปลาแซลมอนของประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าเพื่อนำมาแปรรูปและส่งออก ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตที่มีการควบคุมตามหลักมาตรฐานสากล

เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เกี่ยวกับกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถติดตามได้ที่ www4.fisheries.go.th หรือโทร 02-562-0600-15


https://mgronline.com/factcheck/detail/9630000063737


*********************************************************************************************************************************************************


สะเทือนใจ! จระเข้บึงสีไฟตัวผอมโซ ประมงแจงป่วยเพราะกินขยะพลาสติกจากนักท่องเที่ยว


ภาพจระเข้ตัวผอมโซที่บึงสีไฟ ที่โลกออนไลน์แชร์กันเป็นจำนวนมาก

หลังจากโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพจระเข้ ที่บึงสีไฟ ในสภาพคอยาว ตัวผอมโซ ดูน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง ทางประมงจังหวัดพิจิตรได้ออกมาชี้แจงว่าจระเข้ตัวดังกล่าวป่วย เนื่องจากกินขยะพลาสติกที่นักท่องเที่ยวทิ้งลงไปในบ่อ

หลังจากโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพจระเข้ ที่บึงสีไฟแหล่งท่องเที่ยวดังในจังหวัดพิจิตร ในสภาพคอยาว ตัวผอมโซ ทำให้มีประชาชน นักท่องเที่ยว และชาวโซเชียล ต่างแสดงความคิดเห็น สงสาร และเป็นห่วงจระเข้ตัวนี้กันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด นายวัฒนา ริ้วทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด เขต 3 พิจิตร และ นาย สุธี สินสมุทร ประมงจังหวัดพิจิตร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณบ่อเลี้ยงจระเข้ ซึ่งตั้งอยู่ภายในบึงสีไฟ ภายใต้ความดูแลของศูนย์วิจัยฯ

หลังจากนั้น นายวัฒนา ริ้วทอง ได้เปิดเผยว่า จระเข้ที่เลี้ยงไว้ที่บึงสีไฟ มีทั้งหมด 84 ตัว จระเข้ที่นี่จะกินอาหาร เป็นโครงไก่ที่ทางเจ้าหน้าที่ทำการเลี้ยง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ประมงมีงบประมาณอาหารของจระเข้ปีละ 5,000 บาทสำหรับจระเข้ 84 ตัว โดยจระเข้เมื่อกินอาหาร 1 ครั้ง สามารถอยู่ได้ 7 วัน ซึ่งส่วนใหญ่จระเข้ที่เลี้ยงไว้ที่บึงสีไฟ จะมีลักษณะที่สมบูรณ์

ส่วนจระเข้ตัวผอมโซที่ปรากฏเป็นข่าวโด่งดัง ในวันที่ไปไม่พบจระเข้ตัวดังกล่าว ซึ่งทาง นายวัฒนา ระบุว่า จระเข้ตัวดังกล่าวมีอยู่จริงในบ่อเลี้ยง โดยเหตุที่มีสภาพผอมโซเป็นเพราะป่วย เนื่องจากกินขยะพลาสติกที่นักท่องเที่ยวทิ้งลงไปในบ่อ ทำให้พลาสติกไปเคลือบกับระบบภายในร่างกาย จนจระเข้ตัวนี้มีลักษณะผอมโซ แตกต่างกับจระเข้ตัวอื่นที่อ้วนท้วนสมบูรณ์

อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้มีจระเข้ตัวผอมโซที่มีลักษณะเช่นเดียวกันกับจระเข้ตัวที่ปรากฏเป็นข่าว ได้เสียชีวิตลง เมื่อทำการผ่าภายในได้พบเศษพลาสติกในร่างกายของจระเข้ตัวที่เสียชีวิต

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ประมงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ควบคุมการให้อาหาร และกำชับประชาชน และนักท่องเที่ยว อย่าโยนสิ่งของ และเศษขยะพลาสติก ลงในบ่อเพื่อเป็นอันตรายต่อจระเข้ที่เลี้ยงไว้


https://mgronline.com/travel/detail/9630000063746

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 21-06-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


เศร้า! พบซากเต่าทะเลลอยติดหาดบางเสร่ 'ชลบุรี'



เมื่อวันนี้ 20 มิถุนายน 2563 หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวและประชาชนพบซากเต่าทะเล ลอยเกยตื้นบนชายหาดบางเสร่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานอาสากู้ภัยเดินทางไปตรวจสอบ

บริเวณชายหาด พบซากเต่ากระเกยตื้นอยู่บนหาดทราย น้ำหนักตัวประมาณ 10 กิโลกรัม ไม่ทราบเพศ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ มาทำการเก็บซากไปตรวจสอบและจะทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตของเต่าทะเลตัวนี้ต่อไป

จากการสอบถามนักท่องเที่ยวที่มาพบซากเต่าทะเล ทราบว่า ได้ออกมาเดินบริเวณริมชายหาด ได้พบกับซากเต่าทะเล จึงได้รีบโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเพื่อให้ประสานยังหน่วยงานในพื้นที่มาตรวจสอบดังกล่าว


https://www.naewna.com/likesara/500466

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 21-06-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


คำตอบ! "จระเข้ผอมบึงสีไฟ" กินพลาสติก-ยันมีงบเลี้ยงปีละ 5 พัน



โซเชียล แชร์ภาพจระเข้ในบ่อเลี้ยงบึงสีไฟ จ.พิจิตร มีสภาพผอมโซ คอยาว ผอมแห้งผิดปกติ เจ้าหน้าที่ประมงลงตรวจสอบ ระบุจระเข้มีอาการป่วยจากการกินขยะพลาสติกที่ประชาชน นักท่องเที่ยวโยนลงในบ่อ ยันมีงบให้อาหารปีละ 5,000 บาทสำหรับจระเข้ 84 ตัวที่มีลักษณะสมบูรณ์

จากกรณีโลกออนไลน์ มีการแชร์ภาพจระเข้มีสภาพน่าสงสารคอยาว ผอมโซ นอนนิ่งๆ อยู่ใต้ต้นไม้ภายในบ่อเลี้ยงจระเข้ในพื้นที่บึงสีไฟ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญใจกลางเมืองพิจิตร จ.พิจิตร ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์วงกว้าง

วันนี้ (20 มิ.ย.2563) นายวัฒนา ริ้วทอง ผอ.ศูนย์วิจัยพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเขต 3 จ.พิจิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประมง บริเวณบ่อเลี้ยงจระเข้ในบึงสีไฟ โดยมีจระเข้ที่เลี้ยงไว้ทั้งหมด 84 ตัว พบว่าส่วนใหญ่จะมีลักษณะอ้วนตัวใหญ่ และกินโครงไก่ที่ทางเจ้าหน้าที่นำมาเลี้ยง

"ส่วนจระเข้ที่มีลักษณะที่คอยาว และผอม ยังไม่พบขึ้นมานอนบนดิน แต่เจ้าหน้าที่ประมง ยืนยันว่าจระเข้ตัวนี้อยู่ในบึงสีไฟจริง และมีสภาพผอม เนื่องจากป่วยกินจากการกินพลาสติกที่ประชาชนนักท่องเที่ยวโยนลงในบ่อ"



นายวัฒนา กล่าวอีกว่า จระเข้ตัวนี้ ที่มีอาการป่วยจากการกินพลาสติก จนทำให้พลาสติกไปเคลือบกับระบบภายในร่างกาย และมีลักษณะที่ผอมแตกต่างกับจระเข้ตัวอื่นที่มีลักษณะอ้วนสมบูรณ์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ประมงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการให้อาหาร และกำชับประชาชน และนักท่องเที่ยวอย่าโยนสิ่งของและเศษขยะพลาสติกลงในบ่อเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับจระเข้ที่เลี้ยงไว้

"สำหรับการให้อาหารจระเข้ที่เลี้ยงไว้ ประมงมีงบประมาณ 5,000 บาทต่อปี โดยจระเข้เมื่อกินอาหาร 1 ครั้งสามารถอยู่ได้ 7 วัน ยืนยันว่าจระเข้ที่เลี้ยงไว้ส่วนมากจะมีลักษณะที่สมบูรณ์"


https://news.thaipbs.or.th/content/293824

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:07


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger