![]() |
#1
|
||||
|
||||
![]()
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับภาคใต้และอ่าวไทยมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณหัวเกาะสุมาตรา ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 19 - 22 มี.ค. 65 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 24 มี.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก มีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณใกล้เกาะสุมาตรามีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น โดยคาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเมียนมาและปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน ในช่วงวันที่ 19 - 24 มี.ค. 65 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 19 - 24 มี.ค. 65 ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 24 มี.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ![]() ![]() ![]() ![]()
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
![]()
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
เจออีก! 'หินภูเขาไฟ'ลอยเกยหาดแหลมเจริญ คาดพัดมาจากญี่ปุ่น ![]() 18 มีนาคม 2565 เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจบริเวณชาดหาดแหลมเจริญ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง กรณีชาวบ้านและนักท่องเที่ยว พบกรวดหินลอยมาเกยชายฝั่งเป็นจำนวนมากมองเห็นระยะยาวนับ 10 กม. ตั้งแต่หัวหาดแหลมเจริญจนถึงปลายหาดสุชาดาขึ้นอยู่ประปรายตลอดเส้นทาง ผลการตรวจสอบและสัมผัสดูพบว่า เป็นก้อนหินขนาดเล็กมีรูพรุน สีน้ำตาล น้ำหนักเบา สามารถลอยน้ำได้ ขนาดประมาณก้อนครึ่งซม. - 1 ซ.ม. ลอยน้ำทะเลและถูกพัดพา โดยคลื่นเกยหาดช่วงน้ำขึ้น สามารถมองเห็นกรวดก้อนหินยาวเป็นแนวริมชายฝั่ง นางบัวบุษกร บุญธรรม อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 41 ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นักท่องเที่ยว บอกว่า ไม่เคยเห็นก้อนหินแบบนี้มาก่อน ถ้าจะเห็นประจำก็จะเป็นเม็ดทราย ก้อนใหญ่ก้อนเล็ก พึ่งพบเห็นเป็นครั้งแรกรู้สึกประหลาดดี จึงเก็บใส่ถุงพลาสติกเอาไปล้างน้ำ ลองไปใส่กระถางต้นไม้ดู พบมีน้ำหนักเบา โปร่ง เอาไปใส่กระถางต้นไม้คาดว่าดินจะร่วนซุย รากต้นไม้เดินอาหารได้ดี ที่เก็บไปจะทดลองดูก่อนว่าได้ผลจริงหรือไม่ ถ้าได้ผลดีจะกลับมาเก็บอีกครั้ง ![]() ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง นายธานี จารุนัฎ ผอ.ศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง กล่าวว่า ตนพร้อมกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตะวันออก ( ศวทอ.) หลังทราบเรื่องได้ลงตรวจสอบตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้และเก็บตัวอย่างของก้อนหินดังกล่าวมาสอบดู ปรากฏพบว่าเป็นก้อนหิน ลักษณะเดียวกันกับที่ลอยเกยมาติดชาดหาดสวนสน ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งลอยมาขึ้นฝั่ง เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมาเป็นระยะทาง 5.5 กม. จากนั้นได้ประสานยังศูนย์วิจัยทรัพยากรแร่และหิน จังหวัดระยอง โดย นางสาวสุธารัตน์ สีรอด นักธรณีวิทยาปฏิบัติการ ได้นำไปตรวจสอบหินแปลกปลอมดังกล่าว พบว่าคือหินพัมซัม มีลักษณะรูพรุน น้ำหนักเบา ลอยน้ำได้ หรือหินภูเขาไฟหรือกรวดภูเขาไฟ ผลจากการวิเคราะห์ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ โดยคาดว่าเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำที่ประเทศญี่ปุ่น และถูกพัดพามาโดยกระแสน้ำเข้าหาชายฝั่งบริเวณอ่าวไทย ไม่มีผลกระทบที่ก่อให้เกิดอันตรายหรือไม่ได้เป็นสัญญาณบอกเหตุร้ายใดๆ ทั้งนี้จะให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการทุกแห่งซึ่งอยู่บริเวณชายฝั่งต่อไป. https://www.naewna.com/likesara/642372
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
![]()
ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย
เดินหน้าโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา จ.กระบี่ กรุงเทพฯ 18 มี.ค.- "ศักดิ์สยาม" จูงมือ รมว.ท่องเที่ยวฯ วางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา จ.กระบี่ ดันเป็นเส้นทางเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยว คาดเปิดใช้บริการได้ในปี 2569 ![]() นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ร่วมงาน นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ปัจจุบันการเดินทางไปเกาะลันตาจะต้องผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4206 เพื่อลงแพขนานยนต์ที่ท่าเรือบ้านหัวหินไปยังท่าเรือบ้านคลองหมาก ท่าเรือดังกล่าว เชื่อมระหว่างเกาะกลางไปยังเกาะลันตาน้อย หลังจากนั้นจะมีสะพานสิริลันตาเชื่อมเกาะลันตาน้อย-เกาะลันตาใหญ่ จึงจะถึงตัวเมือง ย่านชุมชนการค้า และตรงต่อไปยังหาดต่าง ๆ ซึ่งการใช้แพขนานยนต์บรรทุกรถได้น้อย มีจำนวนและเวลาการให้บริการจำกัด ส่งผลให้การเดินทางเป็นไปอย่างล่าช้าในช่วงเวลาเร่งด่วน กระทรวงคมนาคมจึงได้มอบนโยบายให้ กรมทางหลวงชนบท ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา บรรเทาปัญหาจราจรที่ล่าช้าบริเวณทางเชื่อมเกาะระหว่างตำบลเกาะกลางและตำบลเกาะลันตาน้อย จังหวัดกระบี่ เพิ่มศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่และกระจายความเจริญ สู่ท้องถิ่นและภูมิภาค สนับสนุน และอำนวยความสะดวกทาง ด้านพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว พัฒนาและยกระดับมาตรฐานทางหลวงชนบทเพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมและการขนส่ง และแก้ไขปัญหาจราจร ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเป็นการก่อสร้างสะพานและถนนเชื่อมต่อ มีแนวเส้นทางโครงการ เริ่มต้นจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4206 (กม.ที่ 26+620) ตำบลเกาะกลาง ไปบรรจบกับทางหลวงชนบทสาย กบ.5035 ตำบลเกาะลันตาน้อย ขนาด 2 ช่องจราจร ระยะทางรวม 2,200 เมตร ส่วนของสะพานเป็นการก่อสร้างในรูปแบบสะพานคานขึง (Extradosed Bridge) และสะพานคานยื่น (Balanced Cantilever Bridge) มีความยาวของสะพาน 1,920 เมตรใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 1,854 ล้านบาท โดยผ่านการพิจารณาการประเมินผลกระทบสิ่งเเวดล้อมจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานประเมินผลกระทบสิ่งเเวดล้อม (คชก.) แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566 เปิดให้ใช้บริการได้ในปี 2569 ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้พบปะกับประชาชนในพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางสัญจรและภาคการขนส่งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ซึ่งเกาะลันตาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แต่ปัจจุบันการเดินทางไปยังเกาะลันตาต้องใช้แพขนานยนต์ซึ่งมีความล่าช้าและค่าใช้จ่ายสูง ประกอบกับ มีข้อจำกัดด้านปริมาณการบรรทุกและช่วงเวลาการให้บริการ ส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่ กระทรวงคมนาคม โดย กรมทางหลวงชนบท จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามเกาะลันตา เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง รวมทั้งยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิต ของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งช่วยส่งเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและบริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกด้วย. https://tna.mcot.net/business-905746 ********************************************************************************************************************************************************* ฝูงวาฬเกยตื้นในนิวซีแลนด์ ตายแล้วกว่า 31 ตัว ![]() เวลลิงตัน 18 มี.ค. ? ฝูงวาฬว่ายมาเกยตื้นที่ชายหาดทางเหนือสุดบนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ทำให้มีวาฬตายแล้วอย่างน้อย 31 ตัว ขณะที่ทางการนิวซีแลนด์ระบุว่า เหตุดังกล่าวเป็นเรื่องโชคร้ายและเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่ชายหาดแห่งนี้ เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าของนิวซีแลนด์เผยกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ว่า เกิดเหตุฝูงวาฬนำร่องเกยตื้นบนหาดยาว 3 กิโลเมตรของแหลมแฟร์เวลล์ สปิต (Farewell Spit) ซึ่งมีลักษณะเป็นสันดอยจะงอยทรายที่ยื่นออกไปในทะเล บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์เมื่อวันพฤหัสบดี ขณะที่วันนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พยายามช่วยเหลือวาฬนำร่อง 5 ตัวที่มีชีวิตรอดจากเมื่อคืนที่ผ่านมาให้ว่ายลงสู่ท้องทะเล แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็มีวาฬอย่างน้อย 2 ตัวเกยตื้นเข้าฝั่ง และทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจใช้วิธีการุณยฆาต เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังระบุว่า ชายหาดแห่งนี้มักเกิดเหตุฝูงวาฬเกยตื้นอยู่บ่อยครั้งเมื่อไม่นานมานี้ เหตุดังกล่าวถือเป็นเรื่องโชคร้าย และเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้วาฬเกยตื้น แต่มักพบวาฬนำร่องเกยตื้นมากกว่าวาฬชนิดอื่น โดยที่วาฬนำร่องไม่จัดอยู่ในบัญชีสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ (endangered species) แต่ยังไม่มีรายงานแน่ชัดเกี่ยวกับจำนวนประชากรวาฬนำร่องทั้งหมด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของนิวซีแลนด์คาดการณ์ว่า ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของแหลมแฟร์เวลล์ สปิต ที่เป็นสันดอยจะงอยทรายยื่นออกไปในทะเลยาว 26 กิโลเมตร ทำให้พื้นดินใต้ทะเลมีความตื้นจนสร้างความสับสนให้แก่ระบบการสื่อสารด้วยคลื่นเสียงของฝูงวาฬนำร่อง. https://tna.mcot.net/world-905550
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
|
|