การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่องผลกระทบจากปรากฏการปะการังฟอกขาว

[สายชล]

สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการดำน้ำและผู้ที่สนใจเกี่ยวกับปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวและอยากทำความเข้าใจในแง่มุมต่างๆ ทั้งทางนิเวศวิทยา เศรษฐศาสตร์ สังคม การท่องเที่ยว เพื่อเตรียมรับมือและปรับตัว เกี่ยวกับปรากฎการณ์นี้ในอนาคต

มีสอง workshop คือ วันที่ 14 ต.ค. สำหรับกลุ่มทางอ่าวไทย จัดที่พัทยา และวันที่ 16 ต.ค.สำหรับฝั่งอันดามัน จัดที่ภูเก็ต

[สายชล]

วัตถุประสงค์ และ กำหนดการ

[สายชล]

วัตถุประสงค์ และ กำหนดการ

[สายชล]

ไปร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่องเกี่ยวกับปะการังฟอกขาวครั้งนี้ สองสายได้ทั้งความรู้ ความสนุกสนาน ได้พบทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้างเครือข่าย เพื่อร่วมกันดูแลแนวปะการังทั้งในยามปกติและในยามเจ็บป่วย ทั้งจากการฟอกขาวและการถูกคุกคามในทุกรูปแบบ ที่อาจจะเกิดขึ้นนได้ต่อไปในอนาคต เมื่อได้รายการผลการสัมมนาอย่างเป็นทางการแล้ว จะมาแจ้งให้ทราบต่อไปค่ะ...

การสัมมนาครั้งนี้ จัดขึ้นที่พัทยา ซึ่งเป็นการจัดเพื่อให้หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ธุรกิจดำน้ำ และองค์กรอิสระต่างๆ ทางซีกอ่าวไทย ได้มาร่วมระดมความคิดกัน เพื่อเก็บข้อมูลและค้นหาแนวทางในการบริหารจัดการกรณีเกิดวิกฤตปะการังฟอกขาว

แต่น่าเสียดาย ที่ไม่มีตัวแทนธุรกิจดำน้ำในพัทยาไปร่วมสัมมนาเลยแม้แต่รายเดียว....

[สายชล]

ประเทศไทยเคยเผชิญกับปัญหาปะการังฟอกขาว ในปี 2553 ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง และทุกภาคส่วนพยายามระดมความคิดเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาซึ่งเกิดจากผลปะการังฟอกขาว ซึ่งหาอ่านข้อมูลได้ที่


http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=1337

[สายชล]

ตอนระดมความคิดแก้วิกฤตปะการังฟอกขาว มีตัวแทนเข้าร่วมประชุมกันทุกภาคส่วน แต่ก็พบว่าผู้ประกอบการดำน้ำ ที่หากินอยู่แถวทะเลอันดามันซึ่งเกิดปะการังฟอกขาวรุนแรงมาก แถวหมู่เกาะสุรินทร์และสิมิลัน ก็ไม่ได้มาร่วมแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกับการสัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ ที่ผู้ประกอบกการดำน้ำที่พัทยา ก็มิได้ให้ความร่วมมือเช่นกัน...

http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=1355

[Thoto_Dive]

http://m.thaihealth.or.th/about
คิดไปคิดมา ถ้าเรามีหน่วยงานสนับสนุนและพัฒนาสิ่งแวดล้อม บ้างเหมือนที่เรามีหน่วยงานพัฒนาสุขภาพอย่าง สสส. คงจะดีนะครับ คงทำให้การทำงานทั้งหมดเป็นไปอย่างยั่งยืนครับ
สสส.ได้รับรายได้จากภาษีบาป หน่วยงานพัฒนาสิ่งแวดล้อมก็น่าจะแบ่งรายได้จากภาษีพลังงานนะครับ

[สายชล]

เห็นด้วยค่ะ น้องเติม...ดีกว่าแต่ละหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมจะตั้งคณะกรรมการของตัวเองขึ้นมาเอง ต่างพวกต่างคิด ต่างพวกต่างทำบ้างไม่ทำ(อะไรเลย)บ้าง ไม่มีการร่วมมือร่วมใจกันทำอย่างจริงๆจังๆ ทั้งที่อยู่กระทรวงเดียวกันแท้ๆ แถมบางแห่งยังกีดกัน ไม่ยอมให้ประชาชนคนธรรมดาที่เขาอยากจะช่วย เข้าไปร่วมทำงานด้วยอีก...น่าเศร้าจริงๆค่ะ...