#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 12 เมษายน 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 11 - 12 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 13 - 15 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงลดลง และมีอากาศร้อนขึ้น สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ฝั่งตะวันออกออกจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณบริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง แต่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีลมตะวันตกพัดเข้ามาปกคลุมทำให้มีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 17 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 11 - 12 และ 16 ? 17 เม.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
สะเทือนใจ! ทช.เผยภาพเต่าตนุ กินขยะพลาสติกเข้าไปจำนวนมาก สัตวแพทย์เร่งช่วยเหลือ "กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" เผยภาพสะเทือนใจของที่เต่าตนุ ที่กินขยะถุงพลาสติกเข้าไปเป็นจำนวนมาก สัตวแพทย์ได้เก็บชิ้นส่วนขยะ เพื่อใช้เผยแพร่เป็นกรณีตัวอย่าง ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงผลกระทบของขยะ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เพจ "กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" เผยภาพสะเทือนใจของที่เต่าตนุตัวหนึ่ง กินขยะถุงพลาสติกเข้าไปเป็นจำนวนมาก โดยสัตวแพทย์ได้เก็บชิ้นส่วนขยะที่เต่าขับถ่ายออกมา เพื่อใช้เผยแพร่เป็นกรณีตัวอย่าง ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงผลกระทบจากขยะทะเลที่มีต่อเต่าทะเล โดยทางเพจระบุข้อความว่า "ศูนย์?วิจัย? ทช. อ่าวไทย?ตอน?บน?ฝั่ง?ตะวันตก? นำภาพการรักษาอาการป่วยของเต่าตนุ ที่เกยตื้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 จากการติดเครื่องมือประมงโดยบังเอิญ บริเวณ ม.4 บ้านบางปลา ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยนายสัตวแพทย์พบว่า เต่าตนุตัวดังกล่าวกินขยะทะเลเข้าไปเป็นจำนวนมาก เช่น ถุงพลาสติก เชือก บรรจุภัณฑ์? และหลอดพลาสติก โดยนายสัตวแพทย์ได้เก็บชิ้นส่วนขยะที่เต่าขับถ่ายออกมา เพื่อใช้เผยแพร่เป็นกรณีตัวอย่าง ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงผลกระทบจากขยะทะเลที่มีต่อเต่าทะเล และสัตว์ทะเลหายากชนิดอื่นๆ โดยกรม ทช. จะดูแลรักษาจนกว่าเต่าตนุจะหายป่วย และมีสุขภาพเเข็งเเรง ก่อนจะนำไปปล่อยกลับคืนสู่ทะเลต่อไป" https://mgronline.com/onlinesection/.../9640000034641
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
ตราดจี้จัดโซนจับหอยเม่น หวั่นทำลายระบบนิเวศพัง "เกาะกูด" ตราด หวั่นกระแส นักท่องเที่ยวแห่ลิ้มลอง "หอยเม่น" ตัวละ50-100 บาท นายก อบต.ค้านจับขายเชิงธุรกิจ กลุ่มอนุรักษ์เตรียมประชาคมหมู่บ้านหาทางออก กำหนดโซนนิ่งของแต่ละหมู่บ้านแบบสมดุล นายเดชาธร จันทร์อบ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวไทยโพสต์คลิปวิดีโอ แนะนำเมนูหอยเม่นที่เกาะกูด จังหวัดตราด เกรงว่าอาจจะมีกระแสนิยมรับประทานหอยเม่นแพร่ออกไปกว้างขวาง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อระบบเชิงนิเวศในทะเล เพราะหอยเม่นช่วยกำจัดน้ำและของเสียในทะเล หรือหากจับมาบริโภคมาก ๆ อาจจะทำให้สูญพันธุ์ได้เพราะนิยมบริโภคไข่หอยเม่น ทั้งนี้ อบต.เกาะกูดได้มีหนังสือ การพูดคุยขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการร้านอาหาร นักดำน้ำ ให้งดการจับหอยเม่นให้นักท่องเที่ยวบริโภคสดเป็นเชิงธุรกิจ ซึ่งหลังจากการขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการร้านอาหารประเภทซีฟู้ดที่มีขายอยู่จำนวนไม่มากนักให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ยังต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ชาวประมง เนื่องจากหอยเม่นพบอยู่ทั่วไปทุกหมู่บ้าน รวมทั้งการเผยแพร่ทางโซเชียลที่ทำให้เกิดกระแสต้องการลิ้มลอง "พื้นที่เกาะกูดไม่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ไม่มีกฎหมายห้าม ควบคุมกำหนดโทษ ไม่มีหน่วยงานทางการประมง และหอยเม่นไม่ใช่สัตว์สงวนห้ามจับ ห้ามมีไว้ในครอบครอง มีเพียงธรรมนูญเกาะกูดที่ไม่ใช่กฎหมาย ไม่มีบทลงโทษ อาศัยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของอำเภอตักเตือน และขอความร่วมมือ หอยเม่นพบทั่วไปเขตชายฝั่งรอบเกาะที่มีจำนวนมาก คือ หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 6 แหล่งอาศัยอยู่ในเขตดำน้ำดูปะการัง บริเวณอ่าว เกาะห่างไกล การควบคุมจึงเป็นไปค่อนข้างยาก ความนิยมลิ้มลองหอยเม่นที่มีไข่มาจากกระแสโลกโซเชียล เริ่มจากนักท่องเที่ยวจีน ญี่ปุ่น มาถึงนักท่องเที่ยวไทยมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอช่วง 2 เดือนที่แล้ว ทำให้ร้านอาหารซีฟู้ดบางแห่งจับหอยเม่นที่มีไข่มาขังไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว หรือมีเรือบริการไปกินที่เกาะ จากที่ไม่มีราคาซื้อขาย ขายได้ตัวละ 50 บาท หรือ100 บาท" นายเดชาธรกล่าว ทางด้านชาวบ้านท้องถิ่นเกาะกูดหมู่ที่ 3 ต.เกาะกูด กล่าวว่า การอนุรักษ์หอยเม่นในการทำประชาคมหมู่บ้าน ควรกำหนดโซนนิ่งของแต่ละหมู่บ้าน อย่างเช่น หมู่ 3 หมู่ 6 พบหอยเม่นมาก และต้องคำนึงถึงชาวบ้านให้ทำมาหากินตามวิถีชาวบ้านด้วย แต่ร้านอาหารซีฟู้ด รีสอร์ตทำเป็นธุรกิจ เมนูอาหารโพสต์ขายก็ไม่เห็นด้วย เช่นเดียวกับชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.เกาะกูด กล่าวเพิ่มเติมว่า หอยเม่นหากให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติ ควรคำนึงถึงความพอดี ไม่ส่งเสริมให้บริโภคมากเกินไป และไม่ห้ามจับมาบริโภค โดยให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตชาวบ้านที่ส่วนใหญ่ที่เป็นประมงพื้นบ้านที่มีเรือเล็ก ๆ ได้ทำมาหากิน ที่ช่วงมรสุม 4-5 เดือนออกทะเลไม่ได้ เรือประมงพื้นบ้านหมู่ 3 และหมู่ 6 ประมาณ 20-30 ลำ ถ้าจัดระบบให้มีการเช่าเหมาเรือเที่ยวละ 4-5 คนไปกินหอยเม่นในทะเล ตามเกาะต่าง ๆ จะสร้างรายได้ลำละประมาณ 2,000-2,500 บาท และเป็นการจำกัดปริมาณการกินหอยเม่นได้ด้วย ว่าที่เรือตรีจักรกฤช หงษ์ร่อน เลขาฯกลุ่มตัวแทนภาคประชาชนตำบลเกาะกูด กล่าวว่า ร้านอาหารที่นำหอยเม่นมาประกอบอาหาร บางแห่งผู้ประกอบการไม่ใช่คนพื้นบ้าน จ้างชาวประมงจับมาขายให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศตัวละ 50-150 บาท ในลักษณะรับผ่ารับประทานเนื้อ และไข่ ทั้งสด ปิ้ง ย่างทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดคล้ายวาซาบิ แต่ในช่วง 2-3 เดือนนี้มีนักท่องเที่ยวมากินไข่หอยเม่นเลียนแบบอูนิของญี่ปุ่น และทำคลิปลง Facebook สร้างกระแสให้อยากลองชิม จึงเกรงว่าจะมีการจับหอยเม่นมาเป็นเมนูอาหารเชิงพาณิชย์ เป็นผลกระทบต่อวงจรสัตว์ทะเล เนื่องจากหอยเม่นช่วยกำจัดของเสีย น้ำเสีย ทำความสะอาดปะการัง ดังนั้น อบต.เกาะกูด กลุ่มตัวแทนภาคประชาชน กลุ่มอาสาสมัครทรัพยากรธรรมชาติเกาะกูด ตระหนักถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศในทะเล หากมีการบริโภคเชิงพาณิชย์ โดย อบต.เกาะกูดได้ขอความร่วมมือกับชาวบ้าน ร้านอาหารที่ชูเป็นเมนูอาหารการเผยแพร่ทางโซเชียล ได้รับความร่วมมืออย่างดี ?ส่วนกลุ่มภาคประชาชนทั้งหมด 6 หมู่บ้าน จะเร่งทำประชาคมภายในเดือนเมษายน แต่ละหมู่บ้านกำหนดชนิดสัตว์น้ำที่อนุรักษ์ ช่วงเวลาอนุญาตทำการประมง การกำหนดโซนนิ่ง รวมทั้งวิธีการให้บริการหอยเม่นกับนักท่องเที่ยวในท้องทะเล เกาะ เพื่อไม่ให้กระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านเกาะกูด ซึ่งจะช่วยจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวและการบริโภคหอยเม่นด้วย รวมทั้งความเห็นอื่น ๆ เพื่อเสนอให้สภาตำบล อำเภอเกาะกูด และกำหนดไว้ในธรรมนูญเกาะกูดประกาศใช้ต่อไป? เลขาฯกลุ่มตัวแทนภาคประชาชนตำบลเกาะกูดกล่าว นายสุเทพ อยู่ลออ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล จ.ระยอง ที่ดูแลพื้นที่ จ.ระยอง จันทบุรี ตราด กล่าวถึงหอยเม่นทางวิชาการว่า เป็นสัตว์น้ำที่ช่วยทำให้น้ำทะเลสะอาด ชอบอยู่ตามแนวปะการังในทะเล การมีหอยเม่นแสดงถึงความสมบูรณ์ของพื้นที่ ถ้าจับเฉพาะตัวโต ๆ ในปริมาณเหมาะสม เว้นจับในฤดูวางไข่ไม่ทำให้สูญพันธุ์ เชื่อว่าการบริโภคนี้ตามกระแสเลียนแบบญี่ปุ่น หรือกินโชว์จำนวนไม่มาก คนในท้องถิ่นไม่นิยม และบางคนอาจจะมีอาการแพ้ และการจับมีอันตรายหนามที่แหลมคมมาก จึงไม่ควรกินตามกระแส ต่างประเทศกินเพราะกุ้ง ปู ราคาแพง ด้วยหลักการนิเวศควรมีไว้บ้าง เกื้อกูลกัน ซึ่งตามกฎหมายหอยเม่นไม่ใช่สัตว์สงวน สามารถจับในพื้นที่ไม่ใช่พื้นที่อนุรักษ์ได้ https://www.prachachat.net/local-economy/news-646829
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|