เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 14-01-2011
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default แมงกะพรุนกล่อง.....มฤตยูในสายน้ำ

อ้างอิง:

นิตยสาร Reader Digest ฉบับเดือนมกราคม ได้ลงเรื่องเกี่ยวกับอันตรายของ "แมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish)" ไว้ได้น่าสนใจมาก จึงขอนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานกับพวกเราค่ะ....

มฤตยูในสายน้ำ

โดย...เจมส์ ไนต์





นี่คือสัตว์มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ชื่อว่า Chironex fleckeri หรือแมงกะพรุนกล่องชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ในน่านน้ำตอนเหนือของออสเตรเลีย


คำว่า Chironex มีรากศัพท์จากคำว่า “chiro” ในภาษากรีก แปลว่ามือ กับคำว่า “nex”ภาษาละตินแปลว่าความตาย เมื่อโตเต็มที่ แมงกะพรุนพิษชนิดนี้จะมีหนวดมากถึง 60 เส้นซึ่งยืดได้ไกลถึงสามเมตร ถ้าหนวดของมันสัมผัสกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น กระเปาะเล็กๆหลายล้านอันซึ่งกระจายอยู่เต็มพื้นผิวของหนวดแต่ละเส้นจะแตกตัวออกแล้วปล่อยเหล็กในออกมาใส่เหยื่อ จากนั้นเหล็กในก็จะทำหน้าที่ฉีดสารพิษเข้าไปในร่างกายของเหยื่อ หากเหยื่อเป็นมนุษย์ พิษจะออกฤทธิ์รุนแรงทำให้หัวใจหยุดทำงานและคร่าชีวิตเหยื่อได้ภายในเวลาไม่กี่นาที


ปกติ แมงกะพรุนพิษชนิดนี้อาศัยอยู่ในทะเลลึก แต่บางครั้งก็อาจถูกกระแสน้ำซัดขึ้นไปในแม่น้ำถ้าระดับน้ำลดต่ำและกระแสน้ำไหลช้า มฤตยูเงียบแห่งท้องทะเลชนิดคร่าชีวิตชาวออสเตรเลียไปแล้วอย่างน้อย 64 รายตั้งแต่มีรายงานการค้นพบเมื่อ 100 กว่าปีมาแล้ว
__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 14-01-2011
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default



รูท แม็กคลิน เร่งเครื่องยนต์ไปตามถนนทางหลวงบรูซ เธอไม่เคยขับเร็วขนาดนี้มาก่อนในชีวิต มือหนึ่งกระชับพวงมาลัยรถของแฟน ส่วนอีกมือกดโทรศัพท์แนบหูขณะปากถ่ายทอดคำแนะนำในการปฏิบัติตัวที่ได้รับมาจากพนักงานตอบรับโทรศัพท์ฉุกเฉินอีกต่อ ทุกอย่างดูอลหม่านยิ่งขึ้นเมื่อราเชล ลูกสาววัยสิบขวบ หยุดหายใจ ขณะนี้หนูน้อยนอนเหยียดยาวไร้สติอยู่บนตักเจฟฟ์ ชาร์ดโลว์ที่เบาะหลัง ในใจของรูทมีเรื่องเดียวเท่านั้นคือ ลูกจะตายหรือไม่


อีกแค่หกวันก็จะถึงวันคริสต์มาส ปี 2552 แล้ว วันนั้นทุกอย่างเริ่มต้นอย่างเรียบง่าย แม้ว่าอากาศในฤดูร้อนทรมานอยู่ไม่น้อย พอบ่ายคล้อย อุณหภูมิก็สูงทะลุ 40 องศาเซลเซียส สมาชิกทุกคนในครอบครัวของรูทกับเจฟฟ์ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะบอยน์ ห่างจากบริสเบนไปทางเหนือ 530 กิโลเมตร ก็มีความปรารถนาตรงกันคืออยากเล่นน้ำเพื่อคลายร้อน หรืออย่างน้อยก็เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง


ทั้งครอบครัวเดินทางมาถึงเขตตั้งแคมป์ริมแม่น้ำคัลลิออปเมื่อประมาณ 16.00 น. จุดนี้ห่างจากทะเลลึกเข้าในพื้นดินถึง 23 กิโลเมตร จุดเด่นคือมีต้นยูคาลิปตัสขึ้นให้ร่มเงามากมาย และบรรยากาศเงียบสงบ จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งคนท้องถิ่นและต่างถิ่นนิยมมาเที่ยวพักผ่อนมากมาย มีคนแก่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ เด็กๆเล่นเกมขณะพ่อแม่นั่งจิบเบียร์เงียบๆ ก่อนที่ฤดูกาลพักผ่อนจะเริ่มต้นขึ้นจริงๆในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อากาศแห้งส่งผลให้ไม่มีกระแสน้ำจืดมาชะล้างระบบน้ำในแม่น้ำนานถึงราวสิบเดือน ขณะนี้น้ำในแม่น้ำกลายเป็นน้ำกร่อยและเค็มกว่าปกติ แต่นักเล่นเจ็ตสกีและนักว่ายน้ำหลายกลุ่มก็สมัครใจลงไปเล่นน้ำคลายร้อน มีเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนานดังมาเป็นระยะๆ


หลังจากผูกสุนัขสองตัวของครอบครัวเข้ากับรถกระบะเรียบร้อย เจฟฟ์กับรูทก็เอาเก้าอี้ออกมากาง ราเชลกับแซม พี่ชายวัย 13 และลาชลัน เพื่อนของเขา รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดว่ายน้ำ


“ในน้ำไม่มีอันตรายใช่ไหมคะแม่” ราเชลถาม

“ไม่มีหรอกลูก แต่อย่าว่ายออกไปไกลนักนะ” รูทตอบ


เด็กทั้งสามวิ่งหน้าตั้งไปลงแม่น้ำพร้อมกับกระดานโต้คลื่นในมือ ส่วนรูทกับเจฟฟ์รินไวน์ส่งให้กัน พวกเขามองไม่เห็นลูกๆเพราะมีสันตลิ่งบังอยู่ แต่ก็ได้ยินเสียงร้องอย่างมีความสุขของราเชลแหวกอากาศร้อนอบอ้าวดังมาเป็นระยะๆ ทำให้หมดห่วงได้ เด็กๆว่ายออกไปกลางแม่น้ำซึ่งห่างจากฝั่งประมาณ 30 เมตร


แซม ลาชลัน และราเชลเล่นอยู่ห่างกันแค่หนึ่งเมตรในน้ำลึกแค่เอว ทันใดนั้น แซมก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้าและเข่าซ้าย “เหมือนโดนแก้วบาด” เขาเอื้อมมือลงไปเบื้องล่างและดึงก้อนหยุ่นๆเหมือนวุ้นขึ้นมาหนึ่งก้อน แต่ไม่ทันจะรู้สึกเจ็บมากกว่านั้น เขาก็รู้สึกตกใจสุดขีดเมื่อเห็นน้องสาวเหวี่ยงแขนสะเปะสะปะพร้อมกับกรีดร้องเหมือนคนเสียสติ


รูทดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้ แล้วรีบวิ่งเต็มเหยียดไปที่แม่น้ำขณะแซมแบกร่างของราเชลขึ้นใส่กระดานโต้คลื่น จากนั้นก็ดันสุดแรงเกิดไปที่ชายฝั่ง


“เอาปลาตัวนี้ออกไปที” ราเชลตะโกนสุดเสียง


แซมลากน้องสาวขึ้นที่บริเวณหาดทรายริมน้ำ จังหวะนั้นมีสามีภรรยาคู่หนึ่งวิ่งรุดมาช่วยพอดี


“มันคือแมงกะพรุนกล่อง เราต้องใช้น้ำส้มสายชู” หญิงผู้นั้นกล่าวขณะรีบวิ่งไปรถพักแรมตัวเอง


รูทถึงกับเข่าอ่อนเมื่อเห็นสภาพของลูกสาว ขณะนั้นขาซ้ายของราเชลถูกหนวดแมงกะพรุนพันอยู่เกือบทั้งขา ยิ่งกว่านั้น หนวดบางส่วนยังพันลามขึ้นไปถึงต้นขาขวา ช่วงท้องและแขนซ้ายด้วย รูทพยายามดึงหนวดเหล่านั้นออกโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของตัวเอง แต่เหล็กในฝังแน่นมาก ดังนั้นเพียงไม่กี่อึดใจราเชลก็หยุดร้อง


“หนูจะตายไหมแม่” หนูน้อยถามอย่างอ่อนแรง


“ไม่ตายหรอก ลูกจะต้องปลอดภัย” รูทตอบทันทีขณะในใจเริ่มวิตกเพราะไม่แน่ใจ


หญิงสูงวัยกลับมาพร้อมด้วยน้ำส้มสายชูและกระดาษเช็ดมือ และพอรูทราดน้ำส้มสายชูใส่หนวดแมงกะพรุน มันก็ปล่อยหนวดให้คลายออกจากผิวของราเชล รูทรีบใช้กระดาษเช็ดหน้าขยุ้มแมงกะพรุนพิษออกจากร่างของลูกสาวด้วยความโล่งใจ แต่โล่งใจได้เพียงไม่กี่อึดใจ ราเชลก็หมดสติไป


แซมวิ่งตรงไปหาพ่อซึ่งกำลังวิ่งถือกระดาษมาเพิ่ม “เอารถออก”


แซมตะโกนบอก พอเจฟฟ์ขับรถมาเทียบ ราเชลเริ่มมีรอยแดงเป็นแนวยาวตรงบริเวณที่ถูกหนวดแมงกะพรุน ใบหน้าของหนูน้อยซีดขาว เธอนอนไม่ได้สติอยู่ในอ้อมแขนของแม่และปลุกอย่างไรก็ไม่ตื่น มีการลงความเห็นในทันทีว่า แซมกับลาชลันจะรออยู่ที่นี่พร้อมกับสุนัขทั้งสองตัวและสามีภรรยาวัยชราคู่นั้น ขณะที่เจฟฟ์จะขับรถไปดักรถพยาบาล และรูทรับหน้าที่ดูแลราเชลอยู่ที่เบาะหลังรถ


ออกเดินทางไปเล็กน้อย รูทก็ตะโกนลั่นว่า “ราเชลหยุดหายใจ ฉันทนต่อไปไม่ได้แล้ว” ดังนั้นรูทกับเจฟฟ์จึงสลับตำแหน่งกัน โดยเจฟฟ์รับหน้าที่ดูแลราเชล ส่วนรูทขับรถ ขณะรถแล่นผ่านลูกฟูกบนถนน เจฟฟ์ไม่สามารถกดนิ้วลงบนคอของราเชลให้นิ่งและนานพอจนพบการเต้นของชีพจร เขาจึงบอกให้รูทขับช้าลงหน่อย รูทตะโกนสวน ทั้งสองกำลังลนลาน


เจฟฟ์เริ่มปั๊มหัวใจซึ่งเขารู้จักวิธีทำเป็นอย่างดี พ่อลูกสองเป็นนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมซึ่งผ่านการฝึกอบรมด้านปฐมพยาบาลจากที่ทำงานมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเคยช่วยเหยื่ออุบัติเหตุด้วยวิธีเป่าปากมาแล้วถึงสองครั้ง แต่ประสบการณ์ที่ผ่านๆมาไม่ได้ช่วยให้พร้อมรับสถานการณ์นี้แต่อย่างใด เจฟฟ์นั่งขดอยู่เบาะหลัง มือซ้ายประคองแผ่นหลังและลำคอของราเชลไว้ และใช้มือขวาพยายามยื้อชีวิตลูกไว้อย่างสุดความสามารถ


กดหนึ่งครั้ง, สอง, สาม, สี่ ...15... เป่าปากหนึ่งครั้ง เรานับผิดไปหรือไม่ เจฟฟ์ไม่แน่ใจ เขารู้แต่ว่าตอนนี้ต้องพยายามเป่าอากาศเข้าไปในปอดของลูกสาวให้ได้ ขณะเดียวกันก็ต้องระวังว่าไม่กดหนักเกินไปจนทำให้กระดูกหัก ระหว่างพัก เขาบอกตัวเอง นี่คือลูกสาวของเรา


“เรากำลังไปที่สี่แยกคัลลิออป” รูทตะโกนใส่โทรศัพท์ขณะพูดกับเจ้าหน้าที่รับสายฉุกเฉิน


พวกเขาเลี้ยวเข้าถนนบรูซ อีกสี่กิโลเมตรจะถึงสี่แยกดังกล่าวแล้ว รูทเหยียบคันเร่งจนมิด


ใกล้ๆกับสี่แยก โจ คักคาวิเอลโล ผู้จัดการปั๊มน้ำมัน กำลังคุยสัพเพเหระกับลูกค้าสองคน ทันใดนั้นเขาก็เห็นรถกระบะตะบึงมาอย่างเร็วก่อนจะจอดสนิท แล้วมีผู้หญิงลงจากรถพลางตะโกนใส่โทรศัพท์


“ผมว่าเดี๋ยวมีอะไรสนุกๆให้ดูแน่” โจบอกลูกค้าทั้งสองคือบ็อบ ฮีทกับลีแอน เบอร์กูอิส ขณะนี้ผู้หญิงที่เพิ่งลงจากรถกำลังโบกมืออย่างบ้าคลั่ง “ไม่ใช่เรื่องสนุกแล้วล่ะ” โจบอก “สงสัยจะมีเรื่องร้าย” เขาวิ่งเข้าไปดูโดยมีบ็อบกับลีแอนวิ่งตามมาติดๆ



เจฟฟ์กำลังเหนื่อยอ่อน ความวุ่นวายที่ตามมาคือโจมารับหน้าที่กดหน้าอกแทนเจฟฟ์ และลีแอนเป็นคนเป่าปาก เมื่อ 30 ปีที่แล้ว โจเคยได้รับประกาศนียบัตรด้านการช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน ส่วนลีแอนซึ่งเคยเป็นทหารหญิงประจำกองทัพเรือมาก่อน ก็เคยผ่านการฝึกอบรมปฐมพยาบาลมาแล้วอย่างโชกโชนและผ่านหลักสูตรอบรมการช่วยเหลือผู้ป่วยในรถพยาบาลด้วย


“อย่าตายนะ” ผู้จัดการสถานีบริการน้ำมันวิงวอนคนไข้ตัวน้อย


ขณะเดียวกัน รูทยังง่วนอยู่กับโทรศัพท์และพยายามถ่ายทอดคำแนะนำอย่างสุดความสามารถ “อาการของลูกยังดีอยู่” เธอพูดน้ำเสียงสั่นๆ หลายนาทีต่อมา ทุกคนก็ได้ยินเสียงไซเรนของรถพยาบาล โคล เพอร์ทัน เจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าเวรกำลังปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือตามรหัสหมายเลขหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าเป็นตายเท่ากัน


แค่เห็นคนไข้เพียงไม่กี่วินาที เขาก็รีบแจ้งผ่านสัญญาณวิทยุกลับไปที่ศูนย์สื่อสาร ขอให้ส่งรถพยาบาลอีกคันไปรับยาแก้พิษจากศูนย์รถพยาบาลคัลลิออป
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ระหว่างนั้น อาการของราเชลก็ทรุดลงเรื่อยๆ ใบหน้าและท่อนขาเริ่มเขียวคล้ำ แสดงว่าร่างกายกำลังขาดออกซิเจน ห่างออกไปไม่กี่เมตร รถขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งบรรทุกนักท่องเที่ยวเต็มคันรถวิ่งฉิวผ่านไปคันแล้วคันเล่า ผู้โดยสารในรถไม่มีทางรู้เลยว่ากำลังเกิดเหตุร้ายที่อาจทำลายความสุขของคนทั้งครอบครัวไปตลอดกาล


โคลใส่หน้ากากออกซิเจนให้คนไข้ ขณะที่โจยังขะมักเขม้นกับการปั๊มหัวใจต่อไป สองนาทีผ่านไป โคลพบว่ามีชีพจรเริ่มเต้นแผ่วๆ ราเชลเองก็พยายามต่อสู้เพื่อจะมีชีวิตต่อไปอย่างสุดความสามารถเช่นกัน ไม่นาน สัญญาณชีพจรก็เต้นแรงขึ้นและเต้นช้าๆ ความดันเลือดซึ่งต่ำจนอยู่ในระดับอันตรายเริ่มกระเตื้องขึ้น ในที่สุด หนูน้อยก็สามารถหายใจด้วยตัวเอง


ราเชลยังอยู่ที่ด้านหลังรถพยาบาลตอนที่ยาแก้พิษมาถึงและเจ้าหน้าที่รีบฉีดยาให้เธอที่แขน ดังนั้น ตอนรถพยาบาลไปที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลฐานทัพแกลดสโตนซึ่งห่างออกไป 20 กิโลเมตร ราเชลก็รู้สึกตัวแล้ว เจ้าหน้าที่การแพทย์บอกรูทกับเจฟฟ์ว่าราเชลต้องอยู่โรงพยาบาลในห้องบรรเทาอาการโคม่าสักระยะเพื่อให้ร่างกายพักฟื้นจากผลข้างเคียงของการขาดออกซิเจน มิฉะนั้นโอกาสที่สมองจะถูกทำลายได้นั้นสูงมาก


เช้าตรู่วันต่อมา ราเชลถูกนำตัวขึ้นเครื่องบินไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเด็กในเมืองบริสเบน และสองวันต่อมา อาการก็ดีขึ้นจนถอดเครื่องช่วยหายใจได้
ราเชลพักอยู่ในโรงพยาบาลอีกสองสัปดาห์และพักฟื้นในบริสเบนต่ออีกหนึ่งเดือน ในที่สุดก็ได้กลับบ้าน นายแพทย์เฟรด เลดิตช์เค แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า อาการของหนูน้อยดีขึ้นอย่างมาก และระบุว่าหนูน้อยรอดชีวิตและหายป่วยเร็วเพราะได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธี รวมทั้งการปั๊มหัวใจด้วย “วีรบุรุษของเหตุการณ์นี้คือพ่อแม่ของราเชลซึ่งพยายามยื้อชีวิตของลูกสาวอย่างสุดความสามารถจนถึงมือหมอ” หมอเฟรดกล่าว


สิบสองเดือนหลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้น สุขภาพของราเชลดีเป็นปกติ ความกลัวจางหายไปเกือบหมดและจำเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้เลย เธอชอบเล่นเน็ตบอลกับวอลเลย์บอล ฝันว่าโตขึ้นจะเป็นครูหรือเชฟ




7 ขั้นตอนต่อเนื่องที่ช่วยชีวิตราเชล

สภาพธรรมชาติหลายอย่างนับตั้งแต่ความแห้งแล้ง ระดับน้ำลดต่ำ และกระแสน้ำ ทั้งหมดนี้ทำให้แมงกะพรุนกล่องพลัดหลงขึ้นในแม่น้ำไกลจากท้องทะเลถึง 23 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่วินาทีที่ราเชลถูกพิษ ทุกอย่างเหมาะเจาะลงตัวสำหรับหนูน้อยทั้งสิ้น


ต่อไปนี้คือรายชื่อบุคคลที่หาได้ยากและวีรกรรมที่ร่วมกันยื้อชีวิตของราเชลไว้จนสำเร็จ

1. ราเชลกำลังว่ายน้ำอยู่กับคนอื่นๆตอนที่ถูกพิษ พี่ชายรีบแบกเธอขึ้นฝั่งภายในเวลาหนึ่งนาที


2. ผู้เห็นเหตุการณ์รู้จักวิธีปฐมพยาบาลอย่างถูกต้องและมีน้ำส้มสายชูพอดี กรดน้ำส้มทำให้เซลล์พิษของแมงกะพรุนหยุดฉีดสารพิษเข้าไปในร่างกายของราเชล


3. พ่อของเธอเริ่มปั๊มหัวใจในช่วงนาทีแรกหลังจากเธอหยุดหายใจ ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากๆ


4. แม่ของเธอขับรถไปพบรถพยาบาลฉุกเฉิน ระหว่างนั้น รูทยังถ่ายทอดคำแนะนำของเจ้าหน้าที่การแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้พ่อของราเชลปฏิบัติตามด้วยตลอดเวลา


5. ผู้เห็นเหตุการณ์ผ่านการฝึกอบรมด้านปฐมพยาบาลและสามารถรับหน้าที่ปั๊มหัวใจต่อจากพ่อของราเชลได้ เพราะตอนนั้นเจฟฟ์เหนื่อยอ่อนเต็มทีแล้ว


6. เจ้าหน้าที่ประจำรถฉุกเฉินฉีดยาแก้พิษให้ราเชลหลังจากถูกพิษได้ไม่นาน ยาแก้พิษมีฤทธิ์สลายพิษของแมงกะพรุนกล่องซึ่งสามารถทำให้หัวใจหยุดเต้นและทำลายเนื้อเยื่อได้


7. พอไปถึงโรงพยาบาล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้ป่วยถูกพิษก็เอาใจใส่ดูแลการฟื้นตัวของราเชล



__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 14-01-2011 เมื่อ 15:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 14-01-2011
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default

แมงกะพรุนกล่องในประเทศไทย



แมงกะพรุนกล่อง (box jellyfish) หรือต่อทะเล (sea wasp) ก็เรียก มีลักษณะต่างจากแมงกะพรุนทั่วไป คือส่วนหัวค่อนข้างยาวและคล้ายสี่เหลี่ยม มีหนวดเฉพาะที่มุมทั้งสี่ซึ่งอาจเป็นหนวดเส้นเดียวหรือเป็นกลุ่มหนวดยาวได้ถึงสามเมตร เข็มพิษที่หนวดมีพิษร้าย แรงถึงชีวิต โดยออกฤทธิ์ กดทับระบบประสาททำให้หยุดหายใจ และยังมีผลต่อระบบหัวใจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหยุดเต้นเฉียบพลัน




จากรายงานของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลฝั่งอันดามัน พบว่าแมงกะพรุนกล่องเป็นสัตว์ดั้งเดิมในทะเลไทย ไม่ได้ถูกพัดพาเข้ามาจากทะเลภายนอกแต่อย่างใด ชาวประมงในพื้นที่จังหวัดสตูลเรียกว่า “จอกแก้ว” หรือ “ลูกจอก”


ในประเทศไทยแมงกะพรุนกล่องพบว่ามีอยู่ทั่วไปทั้งในทะเลฝั่งอันดามันและบริเวณอ่าวไทย ได้แก่ อำเภอละงู จังหวัดสตูล, อ่าวน้ำบ่อ จังหวัดภูเก็ต, เกาะลันตา จังหวัดกระบี่, เกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเกาะหมาก จังหวัดตราด


การป้องกันเบื้องต้น

ควรสวมเสื้อผ้ามิดชิดลงเล่นน้ำหรือดำน้ำ เพราะเข็มพิษของแมงกะพรุนไม่สามารถทะลุผ่านได้ หากถูกพิษหรือสัมผัสกับแมงกะพรุนกล่อง ให้รีบขึ้นจากน้ำ แล้วใช้น้ำส้มสายชูราดบนแผล ห้ามหยิบชิ้นส่วนของแมงกะพรุนกล่องออกด้วยมือเปล่า และไม่ควรถูบริเวณที่ถูกพิษโดยเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เข็มพิษแตกและปล่อยพิษออกมามากขึ้น จากนั้นให้รีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด


ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่... http://www.phuketaquarium.org/images/pdfs/montree.pdf


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก.... http://www.readersdigestthailand.co....ssininthewater
__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 14-01-2011 เมื่อ 17:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:07


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger