เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 31-08-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 31 สิงหาคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างเข้าสู่ หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศกัมพูชา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฟ้าคะนองเกิดขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 30 ? 31 ส.ค. 64 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้

ส่วนในช่วงวันที่ 1 ? 5 ก.ย. 64 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 31-08-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


คร่าชีวิตทัวริสต์วัย 9 ขวบ ไปแล้ว! 'เกาะพะงัน' เตือนระวังแมงกะพรุนกล่อง

ชมรมผู้ประกอบการหาดริ้น และฝ่ายปกครอง อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ออกโรงเตือนผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวชาวไทย ต่างชาติ ระวังแมงกะพรุนกล่องพิษร้ายแรง หลังเกิดเหตุ เด็กหญิงชาวอิสราเอลวัย 9 ขวบ ออกไปเล่นทะลนอกพื้นที่จัดไว้ให้ พลาดถูกพิษแมงกะพรุนกล่องถึงขั้นเสียชีวิต



เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายทวิชสมหวัง ประธานที่ปรึกษาชมรมผู้ประกอบการหาดริ้น อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ว่าภายหลังจากที่มีเด็กหญิงสัญชาติอิสราเอลวัย 9 ขวบ ลงไปเล่นน้ำทะเลบริเวณหาดริ้น เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้ถูกพิษจากแมงกะพรุนกล่องบริเวณขาและแขน ทำให้เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลเกาะพะงัน เนื่องจากทนพิษไม่ไหว โดยพบบริเวณขาและแขนมีรอยไหม้จากการถูกพิษที่อยู่บริเวณหนวดของแมงกะพรุนกล่อง ทั้งนี้จุดที่ลงไปเล่นน้ำ อยู่ในทะเลนอกตาข่ายที่ทางชมรมได้กั้นบริเวณไว้ให้ลงเล่น จึงทำให้เด็กถูกแมงกะพรุนกล่องโจมตีพร้อมปล่อยพิษที่มีความรุนแรง

สำหรับแมงกะพรุนกล่องนั้น ไม่ได้เป็นสัตว์ทะเลประจำถิ่นแต่จะเข้ามาหากินบริเวณอ่าวไทยโดยเฉพาะเกาะพะงัน และเกาะสมุย ซึ่งจะพบแมงกะพรุนชนิดนี้บ่อย ๆ ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม สิงหาคม และกันยายน แม้จะติดป้ายให้ระวังและห้ามออกเล่นทะเลนอกพื้นที่ แต่ก็ยังพบมีชาวต่างชาติไม่ปฏิบัติตาม เหตุการ์ณที่เกิดขึ้นชมรมผู้ประกอบการหาดริ้นได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวของเด็กผู้เสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์และประสานผู้ประกอบการให้ชาวต่างชาติพึงระมัดระวังแมงกะพรุนกล่อง เพื่อป้องกันการสูญเสียอีก ขณะเดียวกันทางฝ่ายปกครองก็ได้ติดป้ายเตือนเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการตรวจสอบตาข่ายป้องกันแมงกะพรุนและอุปกรณ์ปฐมพยาบาล บริเวณชายหาดเพื่อให้มีความพร้อมในการป้องกันและช่วยเหลือ

"แมงกะพรุนกล่อง" จะมีลักษณะโปร่งใสรูปร่างทรงสี่เหลี่ยมมีหนวดยื่นออกมาในแต่ละมุม และหนวดอาจยาวเท่ากับความสูงของคน แมงกะพรุนกล่องแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ชนิดที่มีหนวดเพียงเส้นเดียวในแต่ละมุม และชนิดที่มีหนวดหลายเส้นในแต่ละมุม ซึ่งกลุ่มนี้มีหนวดรวม ๆ แล้ว ประมาณ 12-15 เส้น โดยผู้ที่ถูกโจมตีส่วนใหญ่จะทนพิษไม่ไหว เพราะถูกสายหนวดที่มีกระเปาะพิษเล่นงาน แมงกะพรุนกล่องหนึ่งตัวอาจมีกระเปาะพิษถึงล้านถุง ทำให้แมงกะพรุนชนิดนี้ถือเป็นสัตว์มีพิษร้ายแรงที่สุด พิษของแมงกะพรุนกล่องมีพิษ 3 แบบ คือ 1. ทำให้เซลล์ผิวหนังตาย 2. มีอาการปวดรุนแรง 3. หากได้รับพิษในปริมาณมากพิษเข้าสู่กระแสเลือดและจะเข้าสู่หัวใจทำให้หัวใจหยุดเต้น และระบบหายใจล้มเหลว อาจเสียชีวิตได้ภายใน 2-10 นาที


https://www.dailynews.co.th/news/218399/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 31-08-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ศรชล.นครศรีฯ เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ยึดลอบพับไอ้ไง่อื้อ

นครศรีธรรมราช - ศรชล.ภาค 2 และประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครื่องมือประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ทะเลชายฝั่ง ก่อนยึดลอบพับไอ้โง่ได้ 2 วันกว่า 1 พันลูก



วันนี้ (30 ส.ค.) น.อ.(พิเศษ) สมกียรติ ทรงสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการ ศรชล.นครศรีธรรมราช นายพระศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช นำกำลังเจ้าหน้าที่ ศรชล. พร้อมด้วยประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าสนธิกำลังกับตำรวจน้ำ และฝ่ายปกครอง เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครื่องมือประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ทะเลชายฝั่ง ในท้องที่ ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง และเขตเชื่อมต่อ อ.เมืองนครศรีธรรมราช

โดยการปฏิบัติการนั้นเจ้าหน้าที่ได้เปิดปฏิบัติการตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งชุดติดตามได้เข้าตรวจสอบการลักลอบใช้เครื่องมือประมงที่เรียกว่า "ไอ้โง่" หรือลอบพับ หรือลอบตัวหนอน ซึ่งเป็นเครื่องมือประมงทำลายล้างสูง พบว่า มีการลักลอบนำมาวางดักจับสัตว์น้ำจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดมากกว่า 600 ลูก โดยชาวประมงที่ลักลอบได้เปลี่ยนแปลงวิธีการเพื่อหลบสายตาเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงพบร่องรอย และผิดสังเกต เมื่อตรวจสอบจึงพบว่าเป็นแนวของลอบไอ้โง่ทั้งหมด จึงทำการตรวจยึด

นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้ทำการตรวจยึดไปแล้วราว 700 ลูก รวมมูลค่าเครื่องมือประมงกว่า 1 ล้านบาท ส่วนผู้ที่ลักลอบทำประมงนั้นไม่ได้ปรากฏตัวในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด และทำบันทึกการเก็บรักษาของกลาง ก่อนส่งมอบให้เจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปากพนัง ดำเนินคดีสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว


https://mgronline.com/south/detail/9640000085597

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 31-08-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ฉลามขาวยักษ์รุมโซ้ยซากวาฬ นักวิทย์ชี้อันตราย-พบเห็นห้ามเข้าใกล้



ฉลามขาวยักษ์รุมโซ้ยซากวาฬ ? วันที่ 30 ส.ค. บอสตันเฮอรัลด์รายงานว่า เกิดเหตุฝูงฉลาม ในจำนวนนี้ มีฉลามขาวยักษ์ รุมกัดกินซากวาฬหลังค่อมที่ลอยอยู่นอกชายฝั่งแหลม เคป ค็อก เบย์ ใกล้เมืองพรอวินส์ทาวน์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกภาพไว้ได้โดยกัปตันจอห์น กอกกิน จากเรือชมวาฬที่แล่นมาจากเมืองพลีมัธ โดยขณะที่กำลังชมซากวาฬอยู่นั้นก็มีฉลามขาวยักษ์ 2 ตัว ที่มีขนาดใหญ่มากลำตัวยาวกว่า 5.4 เมตร โผล่มากัดกินซากวาฬ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวบนเรือ

กัปตันกอกกิน กล่าวว่า นักท่องเที่ยวบนเรือตื่นเต้นกันมาก แม้แต่ตนก็เพิ่งเคยพบเหตุการณ์เช่นนี้ ขณะที่นายจอห์น คริสฮอล์ม ผู้เชี่ยวชาญด้านฉลาม ระบุว่า ฉลามขาวยักษ์ที่พบเห็นนั้นมีขนาดใหญ่มหึมาอย่างมาก

"สิ่งที่ยากที่สุดในการบรรยายเกี่ยวกับฉลามขาวยักษ์ให้นักท่องเที่ยวฟัง คือ การให้พวกเค้าตระหนักครับว่ามันใหญ่ยักษ์ขนาดไหนกัน จนกว่าจะได้เห็นจะๆ ด้วยตาตัวเองถึงจะเข้าใจ" คริสฮอล์ม ระบุ

ด้านนายปีเตอร์ คอร์เครอน หัวหน้าคณะนักวิจัยวาฬจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ นิว อิงแลนด์ กล่าวว่า เหตุฝูงฉลามรุมกัดกินซากวาฬเกิดขึ้นเป็นระยะบริเวณนอกชายฝั่งแหลมเคป ค็อด แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นการรุมกัดกินแมวน้ำ ส่วนซากวาฬนั้นถือว่าเป็นแหล่งอาหารชั้นยอดของฉลาม

นายคอร์เครอน กล่าวว่า ซากวาฬเป็นอาหารที่ฉลามชื่นชอบเพราะไม่ต้องลำบากออกล่าเอง หาพบได้ง่าย และลอยอืดอยู่บริเวณผิวน้ำไม่หนีไปไหน เทียบได้กับมื้อใหญ่อิ่มอร่อยของพวกมัน

ด้านศูนย์ศึกษาชายฝั่งทะเล หรือซีซีเอส ระบุถึงเหตุการณ์ข้างต้นว่า ซากวาฬที่พบนั้นเป็นวาฬหลังค่อม โดยเป็นลูกของวาฬที่นักวิจัยรู้จักกันดี ชื่อ เวน่อม ค้นพบเมื่อปี 2563 ส่วนสาเหตุที่มันตายนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด

"พวกเรารู้สึกเศร้ากับการตายของมัน แต่การบันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้ถือเป็นเรื่องสำคัญเพื่อใช้เป็นข้อมูลร่วมกับการศึกษาประชากรของวาฬ"

ซีซีเอส เตือนด้วยว่า หากพบเห็นซากวาฬที่เกยตื้น หรือลอยอยู่กลางทะเลนั้นไม่ควรเข้าใกล้เพราะอาจเกิดอันตราย โดยเฉพาะหากมีสัตว์นักล่าอยู่ในพื้นที่ รวมทั้งห้ามสัมผัสซากของพวกมัน เพราะผิดกฎหมายที่ห้ามสัมผัสพวกมันไม่ว่าเป็นหรือตาย


https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6592767

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:38


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger