เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 11-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือของประเทศไทย ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศแปรปรวน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 11 ? 16 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ในขณะที่ในช่วงวันที่ 11 ? 13 ก.พ. 65 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่งเกิดขึ้นได้ สำหรับลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ ตลอดช่วง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกในระยะนี้ไว้ด้วยตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 11 ? 16 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร ที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย




*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ 2565)" ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565

ในช่วงวันที่ 11?13 กุมภาพันธ์ 2565 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้


วันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2565


ภาคเหนือ: จังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด


วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดลพบุรี และสระบุรี

ภาคตะวันออก: จังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 11-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


วาฬเพชฌฆาต สอนวิธีขโมยปลาจากประมง


(Credit : CCO Public Domain)

คนทำประมงรู้มานานแล้วว่าวาฬเพชฌฆาตที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเล ไม่เกรงกลัวที่จะว่ายน้ำเข้าไปในพื้นที่ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่เพื่อขโมยปลาจากสายเบ็ดหรืออวน หรือกินซากปลาที่ทิ้งหลังจากที่ถูกควักไส้ออกแล้ว แต่ก็สร้างความสงสัยว่า กิจกรรมขโมยปลาของวาฬเพชฌฆาตนั้นเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื่องจากการหาเหยื่อด้วยตัวมันเองยากขึ้นเรื่อยๆ

มีการวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่าวาฬเพชฌฆาตในพื้นที่นอกชายฝั่งของหมู่เกาะโครเซต ในมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ ชอบกินปลาหิมะ (Patagonian toothfish) ล่าสุด ทีมนักวิจัยนานาชาตินำโดยมหาวิทยาลัยดีกิน ในออสเตรเลีย เผยแพร่งานวิจัยลงในวารสาร Biology Letters เกี่ยวกับการศึกษานิสัยการกินอาหารของวาฬเพชฌฆาต ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวระหว่างปี พ.ศ.2553-2560 เนื่องจากสงสัยว่ามีวาฬเพชฌฆาตจำนวนมากเข้าไปยังพื้นที่แห่งนี้เพื่อขโมยปลา หรือมีวาฬพวกเดียวกันอาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนั้นแล้วสอนกันให้ขโมยปลา ทีมเผยว่าได้ศึกษาภาพถ่ายของวาฬที่ชาวประมง นักวิทยาศาสตร์ และนักท่องเที่ยวในท้องถิ่นถ่ายไว้

ผลการวิจัยระบุว่า จำนวนวาฬเพชฌฆาตในพื้นที่นอกชายฝั่งหมู่เกาะโครเซต ได้เพิ่มจำนวนขึ้นจาก 17 ตัว เป็น 43 ตัว อีกทั้งยังพบว่าเจ้าวาฬเพชฌฆาตเหล่านี้มีการสอนกันและกันถึงวิธีการขโมยปลาและซากเหลือทิ้งของปลาจากการทำประมงของมนุษย์.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2311641

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 11-02-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


เก็บกู้บกพร่อง! น้ำมันรั่วรอบ 2 เหตุตกค้างท่ออ่อน 5,000 ลิตร

รองผู้ว่าฯระยอง สรุปผลสอบสวนน้ำมันรั่วทะเลระยองรอบแรกที่ตัวเลขยังคลาดเคลื่อน ชี้ 3 วิธีคำนวณพบค่าเฉลี่ย47,000-55,900 ลิตร ส่วนวันนี้เกิดน้ำมันรั่วซ้ำ เกิดจากน้ำมันเก่าค้างท่ออ่อนที่เคยมีปัญหาเมื่อ 25 ม.ค.ชี้การเก็บกู้เกิดความบกพร่อง



วันนี้ (10 ก.พ.65) เมื่อเวลา 16.00 น.ว่าที่ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปริมาณน้ำมั่นรั่วมาบตาพุด จ.ระยอง ของบริษัทสตาร์ปิโตรเลี่ยม กล่าวว่า จากผลการสอบสวนปริมาณน้ำมันรั่วลงทะเลบมาตาพุดช่วงวันที่ 25-26 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีตัวเลขที่สับสนและสร้างความกังวลใจกับสังคม

ทำให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา มีตัวเองเป็นประธานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการตรวจสอบโดยใช้การคำนวณเทียบจากน้ำมั่นที่ดิบที่ขนถ่าย เรือขนถ่ายกับถังรับ 2.ภาพถ่ายทางอากาศของจิสด้า เพื่อคำนวณความหนา และ3.การคำนวณน้ำมันรั่วทางวิศวกรรม ทำให้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบนาน

"ผลสอบสวนน้ำมันรั่วระยองรอบแรก มีตัวเลข 47,000-55,900 ลิตร เพราะไม่สามารถคำนวณเรื่องการค้างท่อ แรงดันในการแตกลักษณะแบบไหน แม้จะไม่ฟันธง 90-100 % แต่ก็อยู่ในค่าตัวเลขดังกล่าวที่เชื่อถือได้"


ชี้รั่วซ้ำเหตุจากน้ำมันค้างท่ออ่อน 5,000 ลิตร

รองผู้ว่าฯ ระยอง กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์น้ำมันรั่ววันนี้ ที่มีรายงาน 5,000 ลิตร พบว่าสาเหตุมามาจากรอยที่ท่ออ่อนที่มีน้ำมันจากการรั่วรอบแรกค้างอยู่ในท่อ เมื่อมีการยกท่ออ่อนขึ้นมา จะมีน้ำมันค้างท่อและรั่วไหลออกมาอีกครั้ง ตามข้อสันนิษฐานว่าเชื่อว่าจะเอาอยู่ เพราะเป็นน้ำมันจางๆที่ค้างท่อต่อรั่วออกมาประมาณ 5,000 ลิตร

"ไม่มั่นใจหลักวิชาการเก็บกู้ทางวิศวกรรม และการเก็บแต่เขาคงประเมินมาแล้ว แต่อาจเกิดความบกพร่อง ทำให้มีน้ำมั่นรั่วออกมา และยังไม่สรุปว่าจะคุมได้ภายใน 1-2 วันนี้แต่มีการส่งเรือ และเฮลิคอปเตอร์ลงไปแล้ว"

เมื่อถามว่ามีโอกาสจะมีคราบน้ำมันพัดเข้าฝั่งหรือไม่ รองผู้ว่าฯระยอง กล่าวว่า จากการรายงานพบว่าจุดที่น้ำมันรั่วห่างชายฝั่ง 20 กม. ตอนนี้มีเรือ 9 ลำลงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ ระดมกันเต็มที่ ถึงจะไม่น่ากังวล แต่ไม่ประมาท เบื้องต้น ทางปภ.จะพิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติโดยใช้ประกาศฉบับเดิม

ส่วนการเยียวยาประชาชน 4-5 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันรั่วครั้งแรก ทางบริษัทมีการทำแผนและรายละเอียดการเยียวยา ซึ่งมีความชัดเจนแล้วคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ก็จะชัดเจน


https://news.thaipbs.or.th/content/312576

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:29


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger