เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 02-07-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 2 กรกฏาคม 2565

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 6 ก.ค. 65

อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง "ชบา" (CHABA) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 2?3 ก.ค. 65


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 1 ? 2 ก.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 3เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 3 ? 7 ก.ค. 65 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมาและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง "ชบา" มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 2?3 ก.ค. 65 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดอกจากฝั่งจนถึงวันที่ 6 ก.ค. 65



******************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุโซนร้อนกำลังแรง "ชบา" (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2565)" ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 02 กรกฎาคม 2565

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (2 ก.ค. 65) พายุโซนร้อนกำลังแรง "ชบา" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 20.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.9 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 17 กม./ชม. คาดว่าในช่วงวันที่ 2?3 ก.ค. 65 จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

อนึ่ง ในวันที่ 2 ก.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 6 ก.ค. 65


จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 02-07-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


?ยุทธพล? สร้างแนวร่วมอนุรักษ์ทะเล



ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดการประชุมความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ครั้งที่ 2 ที่ อบต.แหลมผักเบี้ย ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ว่า หน้าที่ของอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.) มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีจิตอาสา มีใจรักทรัพยากรธรรมชาติ สมัครเข้ามาเป็น อสทล.มีหน้าที่ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือการปฏิบัติงานราชการกับพนักงานเจ้าหน้าที่ ในการอนุรักษ์ สงวน คุ้มครองและฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในท้องถิ่น อีกทั้งช่วยสร้างความตระหนักให้ภาคประชาชนรับรู้สภาพปัญหาด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของท้องถิ่น รวมถึงการกระตุ้นให้เยาวชนและประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการปกป้อง รักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่หรือในชุมชนของตน ตลอดจนเป็นกำลังสำคัญในการประชาสัมพันธ์ รับแจ้งข่าวสารและเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายอีกด้วย

ที่ปรึกษา รมว.ทส.กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ทส.ได้ผลักดันให้การแก้ปัญหาขยะทะเลเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีความพยายามใช้มาตรการทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ เช่น การผลักดันการทดลองเก็บค่าใช้ถุงพลาสติก การออกมาตรการลดปริมาณขยะที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย การจัดทำและพัฒนาระบบฐานข้อมูลขยะทะเล การสนับสนุนโครงการอาสาสมัครเก็บขยะใต้ทะเลควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทางคือ การไม่สร้างขยะใหม่เพิ่ม การลดการผลิตขยะต้นทางแทนการสร้างเตาเผาหรือบ่อฝังกลบกำจัดขยะ ตลอดจนแก้ปัญหาในเชิงรุก ด้วยการส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้ให้กับชุมชนชายฝั่งทั่วประเทศ ในการคัดแยกขยะอย่างถูกต้องและปลอดภัย เป็นต้น.


https://www.thairath.co.th/news/loca...0wJnJ1bGU9MA==


******************************************************************************************************


ค้นพบซากเรือพิฆาตของสหรัฐฯในสงครามโลกครั้งที่ 2



เมื่อเร็วๆนี้ทีมนักสำรวจชาวอเมริกันและบริษัทสำรวจในอังกฤษเปิดเผยการค้นพบซากเรือของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่จมลงใต้ทะเลในสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นซากเรือที่อยู่ลึกที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ โดยอยู่ที่ระดับความลึกราว 6.9 กิโลเมตรนอกชายฝั่งฟิลิปปินส์

ซากเรือดังกล่าวถูกระบุว่าเป็นเรือพิฆาต ยูเอสเอส ซามูเอล บี โรเบิร์ตส (USS Samuel B. Roberts) หรือที่รู้จักในชื่อ ?แซมมี บี? (Sammy B) ด้านบริษัทคาลาดัน โอเชียนิก ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีทางทะเลที่ตั้งอยู่ในเมืองดัลลัสในสหรัฐฯ เผยว่า นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบเรือรบที่มีชื่อเสียงอย่างไม่น่าเชื่อลำนี้ ขณะที่การจมอยู่ที่ความลึก 6.9 กิโลเมตร ส่งผลให้ทำลายสถิติของซากเรือยูเอสเอส จอห์นสตัน ที่จมในพื้นที่เดียวกัน โดยอยู่ที่ระดับความลึกราว 6.5 กิโลเมตร

ทั้งนี้ เรือทั้ง 2 ลำมีส่วนสนับสนุนชัยชนะของสหรัฐอเมริกาในยุทธการที่เมืองซามาร์ในเดือน ต.ค.2487 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธนาวีที่อ่าวเลย์เต ได้รับการขนานนามว่าเป็นการรบทางเรือครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะแม้จะไร้อาวุธ แต่เรือแซมมี บี ก็โจมตีกองเรือของจักรวรรดิญี่ปุ่นที่นำโดยเรือรบยามาโตะ ซึ่งเป็นเรือประจัญบานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ก่อนที่แซมมี บี จะจมลงใต้กองเพลิงในทะเลฟิลิปปินส์ และได้ชื่อว่าเป็นเรือพิฆาตคุ้มกันที่ต่อสู้เหมือนเรือประจัญบาน โดยในบรรดาลูกเรือ 224 คน มี 89 คนเสียชีวิตในครั้งนั้น.


https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2433146


******************************************************************************************************


อย่างกับหนังไททานิค เรือสำราญพุ่งชนภูเขาน้ำแข็งเสียหาย



เกิดเหตุไม่คาดคิดกับเรือสำราญนอร์วีเจียน ซัน เมื่อจู่ๆ ก็ล่องไปชนกับภูเขาน้ำแข็งใกล้อะแลสกา จนเรือได้รับความเสียหาย ยังเคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

เรือสำราญนอร์วีเจียน ซัน ต้องยกเลิกทริปล่องเรือไปยังอะแลสกานาน 9 คืนกะทันหัน หลังจากประสบอุบัติเหตุชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งบริเวณชายฝั่งอะแลสกาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาในท้องถิ่น จนเรือได้รับความเสียหาย ทำให้กัปตันต้องตัดสินใจหันหัวเรือกลับเข้าฝั่งที่เมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามนับว่ายังโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และมีผู้โดยสารบนเรือสามารถถ่ายคลิปวิดีโอ ขณะที่ฝั่งด้านหน้าขวาของเรือชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งด้วย ซึ่งคลิปนี้กลายเป็นคลิปไวรัลในโลกออนไลน์ และถูกพูดถึงว่ามีความคล้ายคลึงกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเรือไททานิค เพียงแต่เหตุการณ์ล่าสุดนี้ไม่ได้ทำให้เรือสำราญขนาดยักษ์อับปางลง และมีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

ภูเขาน้ำแข็งที่ปะทะกับเรือครั้งนี้ นับว่าเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดเล็ก โดยมองเห็นส่วนของยอดน้ำแข็งลอยเหนือน้ำกว้างไม่ถึง 3.3 ฟุต หรือราว 1 เมตรเท่านั้น แต่มีขนาดน้ำแข็งที่อยู่ใต้น้ำกว้างราว 6.6 ฟุต หรือประมาณ 2 เมตร ทำให้ความเสียหายที่เกิดกับเรือไม่รุนแรงมากนัก แต่เพื่อความปลอดภัยก็จำเป็นต้องร่นระยะเวลาในการล่องเรือลง เพื่อให้มีการตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียดก่อน

สำหรับสาเหตุเบื้องต้นทางโฆษกของเรือสำราญนอร์วีเจียนระบุว่า ในช่วงเกิดเหตุมีหมอกลงหนาจัด ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นย่ำแย่ จนทำให้เรือไปชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งแต่ก็เป็นการปะทะที่ไม่รุนแรงมากนัก เพราะเรือล่องมาด้วยความเร็วค่อนข้างต่ำ โดยผู้โดยสารที่ถูกยกเลิกทริปจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน และยังให้เครดิตพิเศษสำหรับการใช้บริการครั้งต่อไปเพื่อเป็นการชดเชย

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับเรือสำราญที่ล่องเข้าไปในทะเลที่มีธารน้ำแข็งอยู่ใกล้เคียง เพราะมักจะเกิดการแยกตัวของก้อนน้ำแข็งและลอยออกมาในทะเล โดยกัปตันเรือจะมองเห็นภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้ล่วงหน้าในระยะไม่เกิน 1,000 ฟุต หรือราว 300 เมตรเท่านั้น.

ที่มา : เอบีซีนิวส์


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2433730

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 02-07-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ตะลึง! ญี่ปุ่นพบ "ปลาใต้ทะเลลึก" สุดยอดนักล่าที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกและอยู่ใต้ทะเลลึกกว่า 2,000 เมตร


ภาพจาก Jamstec.go.jp

ญี่ปุ่นเผยภาพปลาใต้ทะเลลึกสายพันธุ์ใหม่ "นาร์เซเตส โชนัน" ซึ่งค้นพบเมื่อปีที่แล้วในอ่าว Suruga นอกชายฝั่งของจังหวัด Shizuoka เป็นปลา Teleost ใต้ทะเลลึกที่ใหญ่ที่สุดที่อาศัยอยู่ที่ความลึก 2,000 เมตร หรือมากกว่านั้น

เฟซบุ๊กเพจครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น โพสต์ข้อความว่า ปลาทะเลน้ำลึก "Narcetes shonan" ถูกค้นพบโดยหน่วยงาน Japan Agency for Marine-Earth Science and Technology (JAMSTEC) ในอ่าว Suruga นอกชายฝั่งจังหวัด Shizuoka และได้รับการจดทะเบียนเป็นสายพันธุ์ใหม่ในปี 2021

ปลา Narcetes shonan ยาวประมาณ 2.5 เมตร ถูกถ่ายโดยกล้องที่ติดตั้งที่ความลึก 2,091 เมตร และเป็นปลา teleost ใต้ทะเลลึกที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่อาศัยอยู่ที่ความลึก 2,000 เมตรขึ้นไป

ซึ่งปลา "นาร์เซเตส โชนัน" เป็นที่รู้จักในฐานะนักล่าชั้นยอด ซึ่งเป็นสัตว์ที่อยู่บนสุดของระบบนิเวศน์และไม่มีอะไรให้ไล่ล่าพวกมัน และก่อนหน้านี้เคยคิดว่าจะอาศัยอยู่ในอ่าวสุรุกะ อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ถูกพบที่ภูเขา Genroku บนสันเขากลางมหาสมุทร ห่างจากอ่าว Suruga ไปทางใต้ 400 กิโลเมตร

ทางหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโลกใต้ทะเลแห่งประเทศญี่ปุ่น (JAMSTEC) กล่าวว่า "ผู้ล่าอันดับต้น ๆ ของแต่ละระบบนิเวศได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ซึ่งสามารถทำลายห่วงโซ่อาหาร และทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อระบบนิเวศทั้งหมดได้ในที่สุด เราอยากจะวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมทั่วโลกต่อระบบนิเวศใต้ทะเลลึก "


https://mgronline.com/travel/detail/9650000062726

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:37


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger