สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน 2563

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวตอนบน ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

อนึ่ง พายุโซนร้อน "นูรี" (NURI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองหยางเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 63)


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 14 - 16 มิ.ย. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น เนื่องจากพายุโซนร้อน "นูรี" ที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน และมีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย. 63 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 17 - 19 มิ.ย. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ทำให้ด้านรับมรสุมของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 14 - 16 มิ.ย. 63 ขอให้ประชาชนในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนในช่วงวันที่ 17 - 19 มิ.ย. 63 ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ "นูรี" (NURI)" ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2563

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (14 มิ.ย. 63) พายุโซนร้อน "นูรี" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 90 กิโลเมตรทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหยางเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 21.3 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.7 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กม/ชม พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 18 กม/ชม คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองหยางเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 63)

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวตอนบน ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้


ในช่วงวันที่ 14 - 15 มิถุนายน 2563

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม และพระนครศรีอยุธยา

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่


วันที่ 16 มิถุนายน 2563

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม

ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม

ภาคตะวันออก: จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก PPTV


เช็กที่นี่ อุทยานฯ 155 แห่ง ที่ใดเปิดบ้างในวันที่ 1 ก.ค. นี้

กรมอุทยานฯ เปิดรายละเอียดอุทยานแห่งชาติ 155 แห่ง พร้อมจำนวนนักท่องเที่ยวที่รองรับได้


ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะมีการเปิดให้บริการอุทยานแห่งชาติ 127 แห่ง จะมีอุทยานแห่งชาติ 64 แห่ง เปิดให้บริการได้ 100% และอุทยานแห่งชาติอีก 63 แห่ง จะเปิดให้บริการแค่บางส่วนของพื้นที่ ส่วนอีก 28 แห่ง จะยังคงปิดให้บริการอยู่

นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่เท่ากันในแต่ละอุทยานอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19










ข้อมูลและภาพจาก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/127274

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก PPTV


1 ก.ค. นี้ เที่ยวอุทยานวิถีใหม่ สร้างความปลอดภัย ใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติ

หลังประเทศไทยจะมีการคลายล็อกระยะ 4 ในวันที่ 15 มิ.ย. นี้ ทำให้กิจการและหลาย ๆ ภาคส่วนสามารถกลับมาเดทำการได้อีกครั้ง ซึ่งรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติอย่างอุทยานต่าง ๆ เช่นกัน



1 ก.ค. นี้ เที่ยวอุทยานวิถีใหม่ สร้างความปลอดภัย ใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติ
ข้อมูลจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่า ตั้งแต่วันที่? 1 กรกฎาคม 2563? จะมีการเปิดท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติวิถีใหม่ หรือ New Normal? โดยจะแบ่งออกเป็น? 3? ส่วน? คือ? เปิดทั้งหมด? 63? แห่ง? เปิดบางส่วน? 64? แห่ง และปิดต่ออีก? 28? แห่ง

โดยอุทยานบางพื้นที่ยังคงปิดให้บริการอยู่ด้วยปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น อุทยานแห่งชาติทางทะเลทางด้านฝั่งอันดามัน เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ช่วงมรสุม หรืออุทยานแห่งชาติภูกระดึงที่ปัจจุบันอยู่ในช่วงของฤดูฝน เป็นต้น

สำหรับอุทยานที่เปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยว 100% นั้น จะเปิดให้บริการตามช่วงเวลาปกติ? และมีการจำกัดจำนวนท่องเที่ยวซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในอุทยานแต่ละแห่ง

และก่อนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ทางกรมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งพัฒนาระบบต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เช่น นักท่องเที่ยวต้องตรวจสอบได้ว่าอุทยานแห่งชาติที่ต้องการจะไปนั้นเปิดให้บริการหรือไม่

ส่วนการไปท่องเที่ยวอุทยาน? ยังคงต้องตระหนักถึงการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ซึ่งมีความสำคัญมาก ?เพื่อไม่ให้อุทยานแห่งชาติกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติจะเตรียมความพร้อม และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบถึงมาตรการและขั้นตอนการป้องกันโควิด-19 ด้วย เช่น แต่ละจุดจะต้องมีการจำกัดนักท่องเที่ยว มีการตรวจสอบการเข้าออก (Check In - Check Out )

รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก? และไม่ให้นักท่องเที่ยวรวมกลุ่มกันมากจนเกินไป โดยให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ



ซึ่งในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่จะถึงนี้ จะเป็นการเริ่มต้นเปิดอุทยานในรูปแบบ New Normal ?การท่องเที่ยววิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม?

ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงที่มีการปิดอุทยานเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-?19? ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มีนาคม 2563 นั้น ส่งผลให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว สัตว์ป่าทั้งสัตว์บก? สัตว์น้ำ ต่างออกมาปรากฏตัวให้เห็นบ่อยครั้ง มากกว่าเมื่อครั้งที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่

อุทยานแห่งชาติยังขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยว ให้ทิ้งขยะในที่ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ เพราะช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่าไม่มีข่าวสัตว์เสียชีวิตเพราะขยะ หากเปิดอุทยานแต่นักท่องเที่ยวขาดจิตสำนึก ยังทิ้งขยะไม่เป็นที่ทาง ปัญหาสัตว์ป่าเสียชีวิตเพราะขยะอาจกลับมาอีก

อย่างไรก็ตาม หากเปิดการท่องเที่ยวแล้วพบว่านักท่องเที่ยวทิ้งขยะจำนวนมาก มีสัตว์ตายจากขยะพลาสติก ก็พร้อมจะปิดอุทยานฯ อีกครั้ง

ดังนั้น ร่วมกัน เที่ยวอุทยานวิถีใหม่ สร้างความปลอดภัย ใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติ แบบ New Normal เพื่อให้ธรรมชาติยังคงสวยงาม และตัวเราเองก็ปลอดภัยจากโควิด-19


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/127272