เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 23-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศเย็นลง และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ในขณะที่มีลมตะวันออกยังคงพัดนำความชื้น เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมียังคงฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ขอให้เกษตรกรบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตรียมการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย0

ในช่วงวันที่ 23 ? 25 พ.ย. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 26 ? 28 พ.ย. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 22 ? 23 พ.ย. ขอให้เกษตรกรบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ให้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและตกสะสม ตลอดช่วง






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 23-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


ฮือฮา!สาวเมืองคอนพบก้อนประหลาด คาด"อำพันทะเล"

สาวเมืองคอน พบก้อนประหลาดคล้าย "อำพันทะเล" ระบุผู้เป็นพ่อพบลอยทะเลมาเกยชายหาด ขณะที่ชาวโลกออนไลน์รอลุ้นใช่ไม่ใช่ ถ้าใช่เป็นเศรษฐีในพริบตา


?
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก "ลัลล์ลลิล ทองวิโรจน์" ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่มแฟนเพจ "ประเทศคอน" โดยระบุว่า "พอดีพ่อพบก้อนประหลาดลอยทะเลมาเกยชายหาด มีกลิ่นคาวกำลังสงสัยว่าเป็นก้อนอำพันทะเลหรือเปล่าเราจะส่งหน่วยงานไหนตรวจสอบได้บ้างคะ" ซึ่งภายหลังจากที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยสมาชิกเพจประเทศคอน ต่างวิจารณ์กันไปต่างๆนานา โดยบางคนเห็นว่าจะเป็นอำพันทะเล? หรือ อ้วกปลาวาฬ ที่มีราคาแพง พร้อมกับบอกว่าคนที่ครอบครองรวยเละแน่งานนี้

สำหรับอ้วกวาฬ ซึ่งเรียกกันว่าอำพันทะเล เป็นของหายาก ราคาแพง เกิดจากการสำรอก และอึของวาฬหัวทุย โดยมีราคาสูงมากเนื่องจากมีความจำเป็นในอุตสาหกรรมการทำน้ำหอม


https://www.dailynews.co.th/regional/808446


*********************************************************************************************************************************************************


"ฉลาม"ขย้ำหนุ่มใหญ่ออสซี่ ดับสยองเป็นรายที่8ของปี

ชายวัย 55 ปีถูกปลาฉลามดอดขย้ำ บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ขณะลงเล่นน้ำชายหาด บนชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ทางภาคตะวันตกของออสเตรเลีย เมื่อเช้าวันอาทิตย์ นับเป็นผู้เสียชีวิตจากคมเขี้ยวของฉลาม รายที่ 8 ของประเทศ ในปีนี้



สำนักข่าวเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์ รายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ว่า สำนักงานตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ได้รับแจ้งเหตุประชาชนถูกปลาฉลามทำร้าย จึงส่งชุดเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่ชายหาดเคเบิล ในเขตเมืองบรูม พบชายวัย 55 ปี ได้รับการช่วยเหลือจากประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ นำร่างขึ้นจากน้ำมาบนชายหาด และทำการปฐมพยาบาล แต่ผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิตลง เนื่องจากเสียเลือดมาก และบาดแผลฉกรรจ์ ที่ขาและมือ จากคนเขี้ยวฉลาม ก่อนที่หน่วยแพทย์พยาบาลฉุกเฉินจะไปรับตัวส่งโรงพยาบาล

นายยีน เพียร์ส หัวหน้าสำนักงานตำรวจเขตคิมเบอร์ลีย์ เผยว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 8.40 น. ผู้ตายกำลังเล่นโต้คลื่นด้วยบอดี้บอร์ด ห่างจากฝั่งชายหาดประมาณ 30 ? 40 เมตร จู่ๆ ถูกฉลามตัวเขื่องพุ่งเข้าโจมตี สามีภรรยาคู่หนึ่งที่เล่นน้ำอยู่ไม่ไกล รีบเข้าช่วยเหลือ ประคองร่างขึ้นฝั่ง

เบื้องต้นยังไมีทราบชนิดของฉลาม แต่ประชาชนท้องถิ่นเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า น่าจะเป็นฉลามเสือ ซึ่งพลัดหลงเข้าสู่เขตน้ำตื้น เนื่องจากไล่ติดตามฝูงปลาขนาดเล็ก นายเพียร์สเผยอีกว่า ตำรวจใช้ปืนยิงฉลามเพชฌฆาต ซึ่งยังว่ายน้ำวนเวียนอยู่ที่บริเวณเกิดเหตุเกือบครึ่งชั่วโมง

สำหรับ เคเบิล บีช หาดทรายขาวความยาว 22 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในชายหาดยอดนิยม สำหรับทั้งชาวออสเตรเลียและชาวต่างชาติ?นับเป็นผู้เสียชีวิตจากการถูกฉลามทำร้าย รายที่ 8 ของออสเตรเลียในปีนี้ จากการโจมตีทั้งหมดอย่างน้อย 22 ครั้ง และจำนวนผู้เสียชีวิตปีนี้นับว่าสูงสุด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2472 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวม 9 ราย




https://www.dailynews.co.th/foreign/808436

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 23-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ฮือฮา! นักท่องเที่ยวพบหมึกยักษ์หายาก สีแดงทั้งตัวที่กระบี่



กระบี่ - ฮือฮา! นักท่องเที่ยวพบปลาหมึกยักษ์หายาก สีแดงทั้งตัวโผล่ชายหาดหลังเกาะปอดะ ยาวประมาณ 2 ฟุต หนักกว่า 2 กก.เจ้าของบริษัททัวร์นำไปปล่อยทะเลลึก นักวิชาการเผยเป็นหมึกไดม่อนหายาก เคยพบครั้งแรกเมื่อ 30 ปีก่อน

กำลังกลายเป็นที่ฮือฮาในกลุ่มผู้ประกอบการนำเที่ยว จ.กระบี่ เมื่อนักท่องเที่ยวเจอปลาหมึกตัวสีแดงขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 2 ฟุต หนักกว่า 2 กก. หลังโผล่ขึ้นมาบริเวณน้ำตื้นบนอ่าวบุหยา ใกล้กับเกาะปอดะ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ สร้างความตื่นเต้นแก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการนำเที่ยวเป็นอย่างมาก ต่างพากันถ่ายภาพเป็นทีระลึก เนื่องจากไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน จากนั้นผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวจึงได้นำไปปล่อยกลางทะเล ก่อนที่หมึกตัวดังกล่าวได้ดำน้ำหายไป

นายอภิวัฒน์ เหลืองอ่อน อายุ 36 ปี เจ้าของ บริษัทนำเที่ยวกระบี่ จิงเฉิง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ที่นำหมึกดังกล่าวไปปล่อยกลางทะเล เปิดเผยว่า เจอหมึกตัวดังกล่าวเมื่อประมาณ กลางเดือนที่ผ่านมา ขณะนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้นที่บริเวณอ่าวบุหยา ซึ่งอยู่ด้านหลังเกาะปอดะ ขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังเล่นน้ำชายหาด ปรากฏว่า มีปลาหมึกตัวดังกล่าวลักษณะสีแดงทั้งตัว เวียนว่ายหากินบริเวณน้ำตื้นชายหาด นักท่องเที่ยวพากันมามุงดูด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากไม่เคยพบเห็นมาก่อน ขณะที่ตนทำบริษัททัวร์มากว่า 10 ปี ก็เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมา เคยเห็นแต่ในสารคดีญี่ปุ่น หลังจากที่ทุกคนถ่ายภาพเรียบร้อยจึงได้นำหมึกตัวดังกล่าวไปปล่อยกลางทะเล ห่างจากชายหาดอ่าวบุหยาประมาณ 100 เมตร เพื่อให้กลับไปที่อยู่ของมัน

ขณะที่นายรากิยา ปราบดิน กรรมการสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ ซึ่งประกอบอาชีพเรือไดหมึกมาหลายสิบปี กล่าวว่า คาดว่าหมึกตัวดังกล่าวจะเป็นหมึกค้างคาว อยู่ในทะเลลึก ที่ผ่านมา นานๆ ครั้งจึงจะพบแต่ไม่นิยมนำมากินเป็นอาหาร เพราะเนื้อเหนียวและแข็ง



ด้าน ดร.อนุวัฒน์ นทีวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า หมึกดังกล่าวเป็นหมึกไดม่อน (Diamond squid) เป็นหมึกที่อาศัยในทะเลลึกเขตร้อน หรือเขตอบอุ่น ตัวที่พบน่าจะยังเล็กอยู่ ส่วนตัวใหญ่จะมีความยาวประมาณ 2-3 เมตร คาดว่าน่าจะหลงเข้ามาในช่วงสภาพน้ำทะเลเปลี่ยนแปลง

ซึ่งในประเทศไทยตนพบครั้งแรกที่ฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน ส่วนฝั่งอ่าวไทยยังไม่มีรายงานการพบหมึกดังกล่าว และได้มีการทำบันทึกเอาไว้ที่ศูนย์วิจัยฯ พบได้ทั่วโลก โดยหมึกไดม่อน อาศัยอยู่ในทะเลลึก หรือมหาสมุทร บางครั้งว่ายน้ำเข้ามาใกล้ชายฝั่ง มักอยู่กันเป็นคู่ผัวเมีย ญี่ปุ่นจับเป็นหมึกเศรษฐกิจ


https://mgronline.com/south/detail/9630000120224

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:07


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger