#1
|
||||
|
||||
การรวมฝูงของปลาช่อนทะเล
การรวมฝูงของปลาช่อนทะเล ................... โดย วินิจ รังผึ้ง ใต้ความลึกราว 80 ฟุตใต้ท้องทะเลเกาะตาชัย จังหวัดพังงา ขณะที่ผมกำลังสาละวนกับการถ่ายภาพปลาหูช้างที่ว่ายเรียงรายกันอยู่ราวสิบกว่าตัว พลันผมก็ต้องตกใจเมื่อเหลือบมาพบเข้ากับปลาขนาดใหญ่ตัวยาวราว ๆ 1เมตร มีสันกระโดงใหญ่บนหลังมองเห็นได้อย่างเด่นชัดว่ายผ่านเข้ามาใกล้ “ฉลาม” เป็นแวบแรกในความคิด ผมรีบหมุนตัวหันกล้องเข้าหาด้วยสัญชาติญาณในทันที ทั้งสัญชาติญาณของช่างภาพที่พร้อมจะกดชัตเตอร์เพื่อให้ได้ภาพช็อตเด็ดในทันท่วงทีที่เจ้าปลาตัวใหญ่วายเข้ามาได้ระยะ กับอีกสัญชาติญาณหนึ่งก็คือการป้องกันตัว เพราะการหันหน้าเข้าหาและเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่น่าไว้วางใจนั้นเป็นสิ่งที่ควรกระทำที่สุดเมื่ออยู่ใต้ผืนน้ำ การหันกล้องถ่ายภาพใต้น้ำที่มีโครงกล่องกันน้ำกับขาต่อไฟแฟลชที่ยื่นออกไปตรงหน้านั้นเป็นทั้งท่าเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายภาพและท่าระวังภัยสำหรับการป้องกันตัว เพราะถ้าเกิดเป็นฉลามหรือปลาอื่นๆ ที่เกิดจะพุ่งเข้ามาโจมตี ก็ต้องเจอกล้องใต้น้ำกระแทกเข้าไปจังๆครึ่งปากครึ่งจมูกก่อน ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นการเตือนที่เพียงพอจะบอกให้มันรู้ว่า เจอของแข็งเข้าให้แล้ว และมันก็คงจะทราบว่าผมไม่น่าจะใช่เหยื่อที่ควรจะยุ่งเกี่ยวเป็นแน่ ซึ่งนั่นเป็นเพียงท่าป้องกันตัวที่ผมคิดและปฏิบัติเสมอเมื่อเจอเข้ากับสถานการณ์ที่ไม่ค่อยน่าไว้วางใจใต้ผืนน้ำ แต่มันก็เป็นเพียงความคิดและการเตรียมตัวเอย่างไม่ประมาทเท่านั้น ซึ่งจากการดำน้ำมาเกือบ 20 ปีของผม ก็ไม่เคยปรากฏว่าจะมีปลาน่ากลัวชนิดใดจู่โจมเข้ามาสักหน จะมีก็แต่ปลาสลิดหินตัวจิ๋ว กับปลาการ์ตูนตัวน้อยที่หวงไข่ทำท่าว่ายตรงรี่เข้ามาขู่เมื่อผมเข้าไปใกล้บริเวณที่มันวางไข่อยู่เท่านั้น เจ้าปลาใหญ่ขนาดยาวราว 1 เมตรกระโดงหลังสูงว่ายตรงรี่เข้ามาทางผม เมื่อเข้ามาใกล้ผมก็เริ่มมองเห็นลักษณะของมันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มันไม่ใช่ฉลาม แต่กลับเป็นเจ้าปลาช่อนทะเลตัวสีเทาใหญ่ซึ่งมีกระโดงหลังตั้งสูงขึ้นมามองไกลๆดูคล้ายกับกระโดงหลังของปลาฉลามนั่นเอง ผมคลายความตื่นเต้นลงและยกกล้องขึ้นเล็งรอให้มันใกล้เข้ามาอีกสักหน่อยเพื่อให้ได้ระยะกดชัตเตอร์ แต่เหตุการณ์ก็ไม่เป็นดั่งตั้งใจไว้ เพราะเมื่อเจ้าปลาช่องทะเลขนาดใหญ่ว่ายเข้ามาใกล้ในระยะเกือบ 5 เมตร มันก็เหมือนกับเพิ่งรู้สึกตัวว่าผมกำลังเล็งกล้องจ้องตรงไปที่มัน เจ้าปลาช่องทะเลขนาดใหญ่ตัวนั้นกลับเป็นฝ่ายตกใจ มันรีบหันตัวตีวงสะบัดหางรูปวงเดือนขนาดใหญ่เร่งความเร็วทะยานหนีออกไปในมวลน้ำสีคราม ซึ่งนั่นเป็นการพบกับปลาช่อนทะเลขนาดใหญ่ครั้งแรกของผม ปลาช่อนทะเล หรือ Cobia เป็นปลาที่อาศัยอยู่ทั่วไปในน่านน้ำทะเลไทยทั้งทางฝั่งทะเลอันดามันและฝั่งอ่าวไทย เมื่อโตเต็มที่มันอาจมีความยาวได้ถึง 2 เมตร หนักถึงราว 68 กิโลกรัม มีอายุขัยราว 15 ปีหรืออาจมากกว่านั้น ลักษณะลำตัวยาวส่วนหัวแบน ขากรรไกรล่างยื่นยาวกว่าขากรรไกรบนเล็กน้อย ตามีขนาดเล็ก มีฟันละเอียดแบบ villiform อยู่บนขากรรไกร ลิ้นและเพดานปาก ลำตัวเลียบมีเกล็ดละเอียดขนาดเล็ก ปลาช่อนทะเลขนาดเล็กและวัยหนุ่มจะมีลายสีขาวคาดตามยาวของลำตัว เมื่อเติบโตมีขนาดใหญ่ลำตัวจะมีสีน้ำตาลเทาลายแถบบนลำตัวจะเลือนไป ปลาช่อนทะเลนั้นเป็นปลาที่ไม่มีถุงลมในลำตัว มีลักษณะคล้ายกับเหาฉลาม แต่เหาฉลามนั้นจะมีอวัยวะสำหรับเกาะติดปลาใหญ่ที่คล้ายกับแถบติดสำหรับเปิดปิดกระเป๋าอยู่ด้านบนของส่วนหัว เพื่อเอาไว้เกาะติดกับปลาใหญ่อย่างฉลาม ฉลามวาฬ กระเบนราหู เพื่อเหาฉลามจะได้ทำตัวเป็นผู้โดยสารชนิดไปไหนไปกันโดยฉันไม่ต้องเสียแรงว่ายน้ำ ซึ่งปลาช่อนทะเลจะไม่มีอวัยวะสำหรับเกาะติดนี้ และเหาฉลามก็จะมีขนาดเล็กกว่าปลาช่อนทะเลอีกด้วย ไม่เพียงเหาฉลามและปลาช่อนทะเลจะมีรูปร่างและลวดลายบนลำตัวคล้ายกัน แต่นิสัยและพฤติกรรมในการดำรงชีวิตใต้ท้องทะเลก็จะคล้ายๆกันด้วย โดยมันจะชอบเกาะติดหรือว่ายน้ำติดตามปลาขนาดใหญ่อย่างฉลามวาฬ ปลากระเบนราหู หรือปลาขนาดใหญ่อื่นๆไปทุกหนทุกแห่ง เพื่อจะได้อาศัยบารมีของผู้ยิ่งใหญ่เป็นเกราะคุ้มกัน เพราะปลาขนาดใหญ่ๆอย่างฉลามวาฬตัวขนาดกว้างเป็นเมตร ยาวเป็น 10 เมตร หรือปลากระเบนราหูที่มีขนาดลำตัวกว้างราว 2-4 เมตรนั้น เวลาไปไหนก็ไม่มีใครอยากยุ่งด้วย แม้นจะเป็นปลาที่ไม่ดุร้ายไม่ค่อยจะมีพิษสงกับใครแต่ขนาดของลำตัวก็ทำให้สัตว์อื่นๆเกรงขามไม่ค่อยกล้าเข้ามายุ่ง และแม้นจะกินแพลงก์ตอน กินกุ้งปลาขนาดเล็กเป็นอาหาร ก็อาจจะมีอาหารหลุดรอดออกมาปากที่อ้ารับน้ำรับอาหารออกมาทางด้านข้างให้บรรดาผู้ติดตามได้อิ่มหนำสำราญกันบ้าง ดูๆไปก็คล้ายๆกับบรรดาลิ่วล้อนักการเมืองและผู้มีอำนาจทั้งหลายในบ้านเมืองของเรา ซึ่งลิ่วล้อเหล่านี้ก็อาจจะรอคอยเศษอาหารที่กระเส็นกระสายมาจากผู้มีอำนาจ ดูๆไปพฤติกรรมของคนและสัตว์ก็ไม่ค่อยจะต่างกันเท่าไหร่นัก ปลาช่อนทะเลนั้นนับเป็นปลาที่นักตกปลาชื่นชอบ เพราะเป็นปลาเกมที่ตกสนุก มีแรงดิ้นรนต่อสู้เบ็ดแบบกำลังสนุกสนานตื่นเต้นพอดีๆ และยังเป็นปลาที่มีเนื้อแน่นรสชาติดี โดยเฉพาะการนำไปแล่ทำปลาดิบ หรือแปรรูปเป็นปลารมควัน จึงกลายเป็นที่ต้องการของตลาดญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง ในปัจจุบันทางกรมประมงก็มีการศึกษาทดลองและเริ่มส่งเสริมให้ชาวประมงทำการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ในกระชังขนาดใหญ่แถวจังหวัดพังงา ภูเก็ต และทางจันทบุรี ตราด กันบ้างแล้ว ซึ่งปลาช่อนทะเลนั้นเป็นปลาที่โตเร็ว เลี้ยงภายในเวลา 1 ปี ก็จะได้ปลาที่มีน้ำหนัก 3-4 กิโลกรัม และหากเลี้ยงถึง 2 ปีก็จะมีขนาด 8-10 กิโลกรัมเลยทีเดียว แม้นทางกรมประมงจะสามารถทำการเพาะเลี้ยงลูกปลาในบ่อได้ แต่ลูกปลาที่ชาวประมงนำมาเลี้ยงส่วนใหญ่ก็ยังคงนิยมซื้อลูกปลาช่อนทะเลที่ติดมากับอวนปูซึ่งเป็นลูกปลาจากธรรมชาติเป็นหลัก โดยปรกติปลาช่อนทะเลจะชอบหากินอยู่เดี่ยวๆ ไม่ชอบรวมฝูงหากินด้วยกัน แต่ก็จะมีช่วงฤดูผสมพันธุ์ที่มันจะมารวมฝูงกันตามกองหิน หรือแนวปะการัง เพื่อเผยแพร่ขยายเผ่าพันธุ์ ซึ่งผมเพิ่งจะเคยพบเห็นการรวมตัวของปลาช่อนทะเลที่มีจำนวนมากมายที่สุดบริเวณเกาะโลซินในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยเจอมันมารวมตัวกันนับร้อยตัว บางตัวยาวเป็นเมตรว่ายติดตามไปกับปลาฉลามวาฬขนาดใหญ่ ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าเป็นการมารวมตัวกันติดตามฉลามวาฬเพื่อหากิน หรือเป็นการรวมตัวกันเพื่อหาคู่ผสมพันธุ์ หรือทั้งสองอย่าง แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันก็เป็นภาพที่งดงามยิ่งใหญ่อลังการยากจะลืมเลือนเลยทีเดียว จาก ..................... ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 4 ตุลาคม 2554
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
|||
|
|||
ขอบคุณมากๆ เลยคะ พี่สายน้ำขา เป็นข่าวสารที่น่ารู้และน่าสนใจมากๆ เลยคะ (สำหรับนู๋ อิอิ)
__________________
คิดดี ทำดี ชีวีเป็นสุข |
#3
|
||||
|
||||
อันนี้น่าจะคล้ายกับนักการเมืองหาที่สิงสถิตย์ใหม่ป้ะครับ...ที่เค้าเรียก"สลับขั้วทางการเมือง"กระมังครับ..เห่อๆๆๆ
|
|
|