#1
|
||||
|
||||
ลูกวาฬบรูด้าถูกอวนรัดปากเกยตายชายหาดอันดามัน
ลูกวาฬบลูด้าถูกอวนรัดปากเกยตายชายหาดอันดามัน ชาวประมงเก็บซากลูกวาฬบรูด้าสภาพถูกอวนรัดปากเป็นแผลลึกเกยชายหาด จ.ตรัง ด้านสถาบันวิจัยฯ ชายฝั่งทะเลเตรียมผ่าพิสูจน์หาสาเหตุ นาย ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชาการประมงประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต นำเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบซากวาฬที่เครือข่ายชาวประมงนำมาส่งให้กับสถาบัน วิจัยฯ เช้าวันนี้ (4 ต.ค.) หลังจากพบซากวาฬดังกล่าวใกล้กับเกาะนก อ.กันตัง จ.ตรัง เบื้องต้นพบเศษอวนขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 6 เมตร ตาห่าง 12 เซนติเมตร รัดอยู่บริเวณปากและลำตัววาฬ ซึ่งเป็นลูกวาฬบลูด้า เพศเมีย อายุประมาณ 1-3 เดือน น้ำหนักกว่า 500 กิโลกรัม ยาว 4 เมตร 50 เซนติเมตร รอบลำตัว 172 เซนติเมตร นายก้องเกียรติ กล่าวว่า ที่ปากของวาฬถูกเศษอวนรัดเป็นแผลลึกทั้ง 2 ข้าง และมีเศษอวนติดมากับลำตัว แต่ไม่พบบาดแผลอื่น คาดว่าเป็นสาเหตุทำให้วาฬบลูด้าตาย เพราะอวนที่รัดปากไม่สามารถกินอาหารได้ และวันนี้ (4 ต.ค.) เจ้าหน้าที่จะผ่าพิสูจน์ซากเพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียด สำหรับวาฬบรูด้าเป็นชนิดที่พบได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ส่วนใหญ่จะหากินในทะเลลึก ยกเว้นเวลาคลอดลูกจะว่ายน้ำเข้ามาที่ชายฝั่งและหากินอยู่บริเวณชายฝั่ง หลังจากโตแล้วจะว่ายน้ำกลับสู่ทะเลลึก ซึ่งที่ผ่านมาจะพบวาฬแรกเกิดชนิดต่างๆ ตายหลายตัว โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่มีคลื่นลมแรง และส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือมนุษย์. จาก : ข่าว อสมท. MCOT News วันที่ 4 ตุลาคม 2552
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 19-11-2011 เมื่อ 12:21 |
#2
|
||||
|
||||
ผ่าซากวาฬบรูด้า 600 กก.พบอวนรัดปากจนตาย ผ่าซากวาฬบรูด้า น้ำหนักกว่า 600 กิโลกรัม เพศเมีย อายุแค่ 3 เดือน หลังพบลอยอยู่ใน อ.กันตัง จ.ตรัง สาเหตุปากติดเศษอวนชาวประมงจนสำลักน้ำตาย... เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 ต.ค.นี้ ที่บริเวณหน้าบ่ออนุบาลลูกเต่ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชาการประมงประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบซากวาฬบรูด้า เพศเมีย น้ำหนักประมาณ 500-600 กิโลกรัม ขนาดรอบตัว 172 เซนติเมตร ยาว 4.50 เมตรอายุประมาณ 3 เดือน หลังจากเครือข่ายชาวประมงในตำบลเกาะลิงบง อ.กันตัง จ.ตรัง พบซากวาฬ ลอยอยู่ใกล้กับเกาะนก ในตำบลเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง (วานนี้ 3 ต.ค.) จึงนำมาให้เจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยฯตรวจสอบสาเหตุการตาย นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ เผยว่า สำหรับวาฬตัวนี้เป็นวาฬบรูด้า เพศเมีย ยาว 4.5 เมตร ความกว้างรอบตัว 172 เซนติเมตรน้ำหนักประมาณ 500-600 กิโลกรัม ปกติวาฬบรูด้าแรกเกิดจะยาวประมาณ 3 เมตร ตัวที่พบจึงคาดว่ามีอายุประมาณ 1-3 เดือน พบที่บริเวณเกาะนก จ.ตรัง โดยมีชาวประมงที่ทำการประมงอยู่บริเวณนั้นแจ้งว่าพบปลาวาฬตัวนี้ลอยน้ำเสีย ชีวิตอยู่กลางทะเล โดยมีอวนติดอยู่ที่บริเวณปากจนมาถึงบริเวณลำตัว ซึ่งเครื่องมือประมงที่พบติดอยู่บริเวณปากปลาวาฬที่เสียชีวิตเป็นอวนตา12 นิ้ว ซึ่งเป็นอวนเก่ามีตัวเพรียงติดอยู่ประปราย ความยาวของเนื้ออวนที่พบยาว 6 คูณ 6 เมตร เท่าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นสภาพของซากวาฬตัวนี้ดูจากสภาพภายนอกค่อนข้าง สมบูรณ์ เชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตหลักน่ามาจากการที่วาฬตัวนี้ติดอวนและถูกอวนรัด ปากจนสำลักน้ำตาย ตรวจสอบที่บริเวณปากมีร่องรอยถูกเส้นอวนบาดเป็นแผลฉกรรจ์ 2-3 แห่ง สำหรับปลาวาฬชนิดนี้จะพบทั้งฝั่งทะเลอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน โดยวาฬบรูด้านี้ยังแบ่งออกได้อีกเป็น 2-3 ชนิด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำการศึกษาวิจัยทางด้านพันธุกรรม ที่เห็นชัดคือจะมีร่องสันบนหัว3สัน ในขณะที่บางชนิดจะมีแค่สันเดียว ทั้งนี้วาฬที่เราพบส่วนใหญ่จะเป็นวาฬที่มีขนาดเล็กเนื่องจากจะแตกต่างกับวาฬที่ มีการอพยพถิ่นฐานในระยะไกล วาฬที่พบน่าจะอพยพถิ่นฐานอยู่ในบริเวณแคบแถบทะเลอันดามัน เพราะเราจะพบวาฬขนาดแรกเกิดหรือที่เพิ่งคลอดมาไม่นานบ่อยครั้งมาก จึงคาดว่าบริเวณชายฝั่งทะเลเราเป็นสถานที่คลอดลูกและดูแลตัวอ่อนของปลาวาฬ ก่อนที่จะออกไปหากินในทะเลลึก หรือสาเหตุหนึ่งอาจมาจากการอพยพเข้ามาตามแหล่งอาหาร การที่ระยะหลังนี้มีการเกยตื้นและเสียชีวิตของสัตว์ทะเลต่างๆทั้งปลาวาฬ โลมา พะยูน และเต่าทะเล ในทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามันบ่อย นายก้องเกียรติ ระบุว่าน่าจะเกิดมาจากสภาพคลื่นลมแรง แต่สิ่งที่น่าวิตกคือเราจะเห็นว่าสาเหตุที่ทำให้สัตว์ทะเลหายากเหล่านี้เสีย ชีวิตที่ผิดธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ คือไม่ได้เสียชีวิตเนื่องจากเกิดจากการเจ็บป่วยหรือเป็นโรค จะเสียชีวิตจากเครื่องมือประมง จำพวกเศษอวนที่ลอยอยู่ในทะเล ขยะในท้องทะเลนับวันจะเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่นจะเห็นไว้ว่าอวนที่ไปติดไม่ใช่เกิดขึ้นระหว่างการทำประมง จะเป็นจำพวกเศษอวนที่ล่องลอยอยู่ในทะเล สัตว์ทะเลบางจำพวกก็จะกินจำพวกเศษเชือก พลาสติกเข้าไป บางตัวพบถึง4-5 กิโลกรัมในกระเพาะแล้วเกิดการอุดตันในลำไส้ หรือบ้างก็ถูกเศษอวนบาดจะเป็นแผลฉกรรจ์อากาสาหัสจึงขอวิงวอนให้ชาวประมงอย่าได้ทิ้งเศษซากอวนหรือขยะลงในทะเลเพราะขณะนี้ได้กลายเป็นปัญหาที่น่าวิตกต่อ สัตว์ทะเลหายากที่ใกล้สูญพันธ์เหล่านี้ จาก : ไทยรัฐ วันที่ 4 ตุลาคม 2552
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 19-11-2011 เมื่อ 12:22 |
#3
|
||||
|
||||
น่าสงสารจัง แล้วไปติดอวนอีท่าไหนล่ะน่ะ.....หวังว่าคงจะไม่ใช่การล่า นะคะ
อึ้ง พูดไม่ออกเลย
__________________
Superb_Sri_Nuan.Ray ณ SOS |
#4
|
||||
|
||||
พูดได้คำเดียวครับ ว่า .... เสียดาย เป็นสัตว์หายาก มีโอกาสพบยากมากในทะเลไทย .... Sos เคยพบกลางทะเลครั้งหนึ่งขณะเดินทางกลับจากสิมิลันเพื่อเข้าภูเก็ต ครั้งนั้นเราพบเป็นฝูง กำลังไล่ต้อนฝูงปลาเล็กกันอยู่ และสองสายเก็บภาพได้ ปรากฎว่า กลายเป็นพันธุ์ที่หายากในทะเลย่านนี้ จนนักวิชาการญี่ปุ่นได้ขอภาพไปเพื่อตีพิมพ์ลงหนังสือเกี่ยวกับวาฬเล่มหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ อ่านที่ ดร.ก้องเกียรติให้สัมภาษณ์ แล้วเศร้าใจ ... อ้างอิง:
ในเมื่อเราไม่สามารถควบคุมเรื่องการทำประมงได้ เราจึงขอวิงวอนให้ชาวประมงซึ่งต้องหาเลี้ยงชีวิตอยู่ด้วยทรัพยากรในทะเล ช่วยกันดูแลทะเล อย่าได้ทิ้งเศษขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ลงทะเลกันอีกเลย และขอความกรุณานักท่องเที่ยวและนักดำน้ำที่กระจายกันอยู่ทั่วทะเลไทย อย่าได้ดูดาย ช่วยกันคนละไม้คนละมือเก็บเศษขยะที่อยู่ในทะเล ที่อาจเป็นอันตรายต่อแนวปะการังและชีวิตของสัตว์ทะเลที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ถ้าเราพบเห็นและผ่านเลยไปโดยไม่คิดที่จะทำอะไร ภาพของวาฬ โลมา พยูน ฯลฯ ติดเศษอวนตาย หรือ เต่าตายเพราะกินถุงพลาสติค หรือ ฉลามวาฬตายเพราะกินหลอดพลาสติคเข้าไป ก็จะมีให้เราได้ยินได้เห็นต่อไปเรื่อยๆโดยไม่มีสิ้นสุดครับ
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
เราจะพยายาม Brief นักดำน้ำให้ช่วยกันดูแล เก็บเศษขยะเท่าที่จะสามารถทำได้ค่ะ
อย่างน้อย ก็เป็นการช่วยแบบอ้อมๆๆ ล่ะคะ
__________________
Superb_Sri_Nuan.Ray ณ SOS |
#6
|
|||
|
|||
น่าสงสารและน่าเสียดายจัง...
__________________
คิดดี ทำดี ชีวีเป็นสุข |
#7
|
||||
|
||||
เคยเห็นวาฬบรูด้ามาว่ายข้างๆเรือแถวเกาะแหวน ทะเลตรัง ยังนึกห่วงว่าจะไปรอดอีกนานไหม แล้วในที่สุดก็มีเรื่องเศร้าตามมาให้เห็น น้องก้องที่เป็นคนพิสูจน์ซากวาฬคงยิ่งเศร้ากว่าเราหลายเท่านัก เพราะอยากจะเห็นและศึกษาชีวิตของวาฬแบบตัวเป็นๆมาก แต่ต้องมาเห็นเพียงซากของลูกวาฬ ที่ต้องมาตายเพราะเศษอวนที่ลอยตามน้ำมา เดือนธันวาคมที่เราจะไปตรัง คงไม่ได้เก็บขยะตัดอวนกันมากมาย ไว้ว่ากันใหม่ตอนเดือนมีนาคม ที่เราจะไปอันดามันใต้กัน เราน่าจะสละเวลาสักวันหนึ่ง สำหรับตัดอวนที่ทะเลตรังกันนะคะ
__________________
Saaychol |
#8
|
||||
|
||||
เห็นแล้วอยากร้องไห้............พูดไม่ออก บอกไม่ถูก
|
#9
|
|||
|
|||
เศร้าใจครับ
|
#10
|
||||
|
||||
เห็นด้วยกับทุกท่านและฝากความวิงวอนถึงชาวประมงและนักท่องเที่ยวด้วยครับ ..
แม้เสียงวิงวอนของพวกเราจะแผ่วเบาจนเหมือนไม่ได้ยิน แต่ก็เชื่อว่าเราจะส่งเสียงต่อไปไม่มีหยุดแน่นอน ช่วยกันนะครับ
__________________
If we see the hearts of others, peace will follow You may say I'm a dreamer .. but I'm not the only one: John Lennon |
|
|