เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 05-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดต่อเนื่องกันหลายวัน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง (ตามรายละเอียดประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฤดุร้อนบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 15 (71/2564)) สำหรับทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 5 - 6 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่า โดยจะเริ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่น ๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป

ส่วนในช่วงวันที่ 7 - 10 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงเกิดขึ้น สำหรับอ่าวไทยและภาคใต้ลมตะวันออกพัดปกคลุมทำให้มีฝนตกหนักบาง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบถึงวันที่ 6 เมษายน 2564)" ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 05 เมษายน 2564

ในช่วงวันที่ 5-6 เมษายน 2564 ประเทศไทยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งระวังอันตรายจากฟ้าผ่าในขณะที่เกิดพายุฤดูร้อนไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

โดยจะมีผลกระทบดังนี้


วันที่ 5 เมษายน 2564

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์


วันที่ 6 เมษายน 2564

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา และหนองบัวลำภู

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดต่อเนื่องกันหลายวัน









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 05-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ดร.ธรณ์ ฝากไว้ให้คิด หวั่นหอยเม่นไทยโดนกินจนเสียระบบนิเวศ



ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เรื่องราวผ่านเฟซบุคแฟนเพจ Thon Thamrongnawasawat ตั้งข้อเป็นห่วงหอยเม่นที่อาศัยในแนวปะการัง หลังจากคนไทยเริ่มหันมาลองกินหอยเม่นในทะเลไทย โดยชี้ว่า หอยเม่นหรือเม่นทะเลในแนวปะการังจะช่วยกินสาหร่ายขนาดเล็ก แทะไปตามปะการังตายและก้อนหิน เม่นทะเลจึงเป็นผู้ควบคุมปริมาณสาหร่ายในระบบนิเวศแนวปะการัง หากเม่นทะเลหมดไปอย่างรวดเร็ว อาจเกิดปัญหาที่แก้ไขยาก สาหร่ายอาจเพิ่มขึ้น ทำให้ปะการังวัยอ่อนลงเกาะไม่ได้ ฯลฯ จนทำให้ปะการังเริ่มพ่ายแพ้ การจับเม่นทะเลจากแนวปะการังมากินเป็นจำนวนมากในเวลาอันสั้นจึงอาจส่งผลรุนแรงได้

ทั้งนี้ ดร.ธรณ์ ยังได้กล่าวอีกว่า แนวปะการังเป็นระบบนิเวศที่หลากหลายแต่บอบบาง มีสมดุลธรรมชาติ แต่หากสมดุลระบบนิเวศเปลี่ยน ทำให้ปะการังอ่อนแอเพราะคุณภาพสิ่งแวดล้อม แม้จะเป็นเรื่องที่เห็นทันทียาก แต่ก็ส่งผลระยะยาว และไม่มีทางแก้ไข การป้องกันล่วงหน้าย่อมเป็นการดีกว่า

ดร.ธรณ์ ยังกล่าวถึงการบริโภคหอยเม่นในต่างประเทศที่มีการบริโภคมานานและต่อเนื่องว่ามีฟาร์มเม่นทะเล จึงไม่กระทบต่อระบบนิเวศมากนัก แต่สำหรับในประเทศไทยซึ่งการทำฟาร์มเม่นทะเลยังไม่สำเร็จเต็มที่ ส่วนการออกหมายคุ้มครองเม่นทะเลคงเป็นไปไม่ได้ และการประกาศห้ามจับสัตว์น้ำจากแนวปะการังทุกแห่งเป็นไปได้ยาก ยังไม่มีทางออกด้านกฎหมาย จึงได้แต่ขอร้องกันไว้

ด้านแฟนเพจต่างเข้ามาสนับสนุนความเห็น และหลายคนยังกล่าวว่าเห็นการโฆษณาขายหอยเม่นไทยอยู่บ่อยครั้ง บ้างกล่าวว่าหอยเม่นไทยไม่ได้อร่อยขนาดนั้น ไม่น่าจะทำให้เป็นกระแสชวนชิม


https://mgronline.com/travel/detail/9640000032193

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 05-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก อสมท.


ชู Sea Walker ต้องเป็นตามมาตรการเชิงอนุรักษ์



3 เม.ย.64 - "วราวุธ" ลงพื้นที่วางแผนจัดการ Sea Walker พร้อมสั่ง ทช. เดินหน้าหารือทุกภาคส่วนวางเกณฑ์การอนุญาตกิจกรรมเข้มข้น เน้นท่องเที่ยวอนุรักษ์ไม่ส่งผลลบต่อสิ่งแวดล้อม

หลังกรณีพบกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเมืองพัทยา จัดกิจกรรมเดินใต้ทะเล หรือ Sea Walker และจับปะการังและสัตว์ทะเลมาเล่น เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา โดนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เร่งตรวจสอบและดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดดำเนินคดีทันที พร้อมหารือเมืองพัทยาแก้ไขปัญหาและหาแนวทางการจัดการเพื่อรักษาทรัพยากรทางทะเลให้คงความสมบูรณ์

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำทีมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เมืองพัทยา ลงตรวจพื้นที่เพื่อหาแนวทางจัดการกิจกรรม Sea Walker โดยได้ย้ำให้ทุกฝ่ายมองเห็นทรัพยากรทางทะเลสำคัญกว่ารายได้จากการท่องเที่ยว พร้อมกำชับให้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง และให้วางแผนรองรับการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย



นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า หลังจากได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ดำเนินคดีกรณีกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเมืองพัทยา นำกลุ่มนักท่องเที่ยวทำกิจกรรมเดินใต้ทะเล (Sea Walker) โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการฝ่าฝืนจับสัตว์ทะเลและสัมผัสปะการังเล่น ซึ่งแม้จะได้ดำเนินคดีไปแล้ว แต่ในระยะยาว ตนได้สั่งการให้ ทช. เร่งหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ,นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางในการจัดการ

รวมทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานในการออกใบอนุญาตให้กับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและไกด์นำเที่ยวด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ให้ความสำคัญมาก ตนมองว่าทรัพยากรปะการังและสัตว์ทะเลต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการฟื้นฟูให้คืนความสมบูรณ์ หากวันนี้เราทำเสียหาย กว่าจะคืนกลับมาไม่ใช่แค่รุ่นลูกที่จะได้เห็นทุกอย่างสมบูรณ์ อาจจะถึงรุ่นหลานเลยที่ได้เห็น เพราะฉะนั้นไม่คุ้มเลยหากต้องเสียปะการังและสัตว์ทะเล เพื่อแลกกับเม็ดเงินที่จะเข้าชุมชนหรือประเทศ

ย้ำต้องท่องเที่ยวอย่างมีสติและคิดถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติเป็นสำคัญ ทั้งนี้มอบหมายนายจตุพร บุรุษพัฒน์ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และในวันนี้ (3 เมษายน2564) ได้ดำน้ำลงสำรวจสภาพปะการังและเส้นทางการทำกิจกรรม Sea Walker ซึ่งสภาพโดยรวมยังค่อนข้างสมบูรณ์อย่างไรก็ตาม ตนได้ให้แนวทางในการจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว โดยให้มีการอบรมกลุ่มบริษัทท่องเที่ยว การกำหนดขั้นตอนและจำนวนนักท่องเที่ยวในการทำกิจกรรม Sea Walker ไม่ให้เกินศักยภาพที่ธรรมชาติจะรองรับได้

รวมถึงให้มีการกำหนดช่วงเวลาทำกิจกรรมและปล่อยให้ธรรมชาติได้พักฟื้นบ้าง การเพิ่มกำลังพลในการตรวจตราพื้นที่ การประกาศใช้กฎหมายเพิ่มเติมหากจำเป็น และสิ่งสำคัญ คือ การสร้างเครือข่ายพี่น้องประชาชนให้มีส่วนร่วมและช่วยกันเป็นหูเป็นตาร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเสริมความเข้มข้นในการเฝ้าระวัง และสุดท้าย คือการติดตามและประเมินผล หากยังคงสร้างผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ ก็คงต้องให้ยุติการทำกิจกรรมดังกล่าวอย่างเด็ดขาด



ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ทช. ได้สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมเรือนำเที่ยวที่นำนักท่องเที่ยวเดินท่องเที่ยวใต้ทะเลบริเวณอ่าวทองหลาง เกาะล้าน เมืองพัทยา จ. ชลบุรี โดยไม่มีใบอนุญาตให้ประกอบการกิจกรรมเดินท่องเที่ยวใต้ทะเล ซึ่งมีความผิดตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2563 ในการห้ามกระทำการประกอบกิจการเรือภัตตาคาร เรือสถานบริการหรือการเดินท่องเที่ยวใต้ทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยผู้ฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้นำผู้ต้องหาจำนวน 4 คน พร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

อีกทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าพบหารือกับนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรฐานของบริษัทนำเที่ยวใต้ทะเลและไกด์นำเที่ยว ที่ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องกฎหมายและการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

โดยจากนี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะเร่งดำเนินการหามาตรการและมาตรฐานในการทำกิจกรรม Sea Walker ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในเบื้องต้นตนได้สั่งการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทุกแห่งประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจกับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำ อย่างไรก็ตามหากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าวขอให้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทันที นอกจากนี้ ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพิ่มกำลังในการตรวจตราให้เข้มงวดขึ้น หากพบให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด


https://www.mcot.net/view/jlrPd5eX

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 05-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์


เกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติปะการังปล่อยไข่บริเวณเกาะมาตรา ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรและอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ซึ่งหาดูยากและมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น



อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จ.ชุมพร ได้รายงานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรพบไข่ปะการังลอยตามผิวน้ำบริเวณเกาะมาตรา หลังทำการเฝ้าระวังและรอเวลาจนกระทั่งพบไข่ปะการังลอยออกมาที่เป็นปะการังสมองร่องเล็ก โดยเป็นปรากฏการณ์ปะการังปล่อยไข่สามารถมองเห็นไข่ของปะการังที่ถูกปล่อยออกมาได้ด้วยตาเปล่าจะเห็นเป็นเม็ดสีชมพูสีแดง ขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร ช่วงเวลาที่เหมาะสมเป็นช่วงหัวค่ำเวลาประมาณ 19.00 - 21.00 น. แล้วจะใช้เวลาปล่อยออกมาไม่นานเพียง 15 นาทีเท่านั้น ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาดูยากและมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น ทั้งนี้ ปะการังสามารถสืบพันธุ์ได้ 2 แบบ คือ แบบอาศัยเพศ และแบบไม่อาศัยเพศ โดยการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศเกิดขึ้นเมื่อปะการังเติบโตเต็มที่แล้วทำการปล่อยไข่และเสปิร์มออกมาผสมกันในน้ำ เกิดเป็นตัวอ่อนที่เรียกว่า "พลานูลา" ซึ่งตัวอ่อนเหล่านี้จะล่องลอยไปตามกระแสน้ำจนกว่าจะลงเกาะในพื้นแข็งที่เหมาะสม อาจเป็นก้อนหินหรือซากปะการังแล้วเจริญเติบโตเป็นปะการังต่อไป ส่วนการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ จะเป็นการแตกหน่อและขยายโคโลนีไปตามรูปร่างลักษณะของปะการังแต่ละชนิด

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อุทยานเเห่งชาติหมู่เกาะช้างได้เฝ้าติดตามการปล่อยไข่ของปะการังเช่นกัน โดยพบปะการังสมองร่องเล็ก ปะการังโขด และปะการังช่องเหลี่ยมหลายโคโลนีปล่อยไข่ออกมาเพื่อสืบพันธุ์ในปริมาณน้ำจำนวนมาก สามารถมองเห็นไข่ของปะการังที่ถูกปล่อยออกมาได้ด้วยตาเปล่า พร้อมมีการปล่อยสเปิร์มของปะการังโขดที่เป็นสีขุ่นๆ


https://thainews.prd.go.th/th/news/d...10404194909252

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:27


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger