เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 21-10-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 21 ตุลาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนน้อยลง โดยมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง พายุโซนร้อน "โซเดล" (พายุระดับ 3) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ได้เคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางแล้ว คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งเวียดนามในช่วงวันที่ 24-25 ต.ค. 63 และจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆมาก กับมีฝนเล็กน้อย ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 20 - 21 ต.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้

ในช่วงวันที่ 22 - 26 ต.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นและมีลมแรง ในขณะที่ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อนึ่ง พายุโซนร้อน ?โซเดล? (พายุระดับ 3) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก จะเคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ในช่วงวันที่ 20-21 ต.ค. 63 หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งเวียดนามในช่วงวันที่ 24-25 ต.ค. 63 และจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 22-26 ต.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย และขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุโซนร้อน "โซเดล" (พายุระดับ 3)" ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2563

เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (21 ตุลาคม 2563) พายุโซนร้อน ?โซเดล? (พายุระดับ 3) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ได้เคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีใต้ตอนกลางแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 16.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 119.7 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 24-25 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 21-10-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


"ดร.ธรณ์" เผยข่าวดี! เตรียมยก "ขนอม" เป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเลแห่งใหม่

ดร.ธรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล โพสต์ข้อมูลสุดปลื้ม ระบุ ปีนี้พะยูนตายน้อยลงกว่าปีที่แล้ว และเผยข่าวดีเตรียมยกขนอมเป็นพื้นที่คุ้มครองทะเลเพื่อพะยูนและโลมา ยืนยันหากทุกอย่างราบรื่นทะเลไทยจะมีพื้นที่คุ้มครองเพิ่มขึ้น พร้อมเชื่อว่าคำว่ายั่งยืนจะเกิดขึ้นในทะเลชายฝั่งประเทศไทย



วันนี้ (20 ต.ค.) เฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat" หรือ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ระบุข้อความ "ในปีนี้พะยูนตายไม่ถึง 10 ตัว น้อยกว่าปีที่แล้วเยอะครับ 20+ ตัว เหตุผลหนึ่งอาจมาจากโควิดทำให้ทะเลสงบ จึงเป็นจังหวะดีมากสำหรับการอนุรักษ์สัตว์หายาก หนึ่งในนั้นคือพื้นที่คุ้มครองทะเลขนอมเพื่อพะยูนและโลมา

ทะเลขนอมสวยมาก คำนี้ยืนยัน เพราะเมื่อสิบปีก่อน ผมเคยนั่งเรือขึ้นลงเลียบชายฝั่งเป็นเดือน เพื่อติดตามศึกษาโลมาสีชมพู ชายฝั่งพร้อมสรรพ ทั้งในด้านภูมิสัณฐาน หาดทราย หาดหิน และที่สำคัญคือ หินแพนเค้กที่พบอยู่เพียง 3-4 แห่งทั่วโลก เรานั่งเรือหางยาวของพี่ๆ เลาะมาตามฝั่ง เจอโลมาทุกครั้ง บางหนถึงขั้นว่ายเข้ามาเอาตัวถูเรือ สุดปลายทางก่อนวกกลับ คือ รอยต่ออำเภอดอนสักตรงนี้ มีเกาะเกือบติดฝั่ง เรียกเกาะท่าไร่ ในน้ำมีดงหญ้าทะเลผืนใหญ่เขียวปี๋ เป็นแหล่งหญ้าที่สำคัญสุดๆ ทำให้รอบๆ อุดมสมบูรณ์

คุณๆ ที่ไปท่าเรือเฟอร์รีแล้วเห็นโลมาสีชมพู ส่วนหนึ่งก็เพราะดงหญ้าตรงนี้แหละ ห่างไป 3 กม.เท่านั้น ยังรวมถึงพะยูน ผู้กินหญ้าทะเลโดยตรง รายงานล่าสุดปี 2563 มีพะยูนในอ่าวบ้านดอน 5 ตัว ว่ายน้ำไปมา

เมื่อนำทุกอย่างมารวมกัน หากเราประกาศชายฝั่งขนอมเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเล จะเป็นประโยชน์มาก คุ้มครอง ในที่นี้ไม่ใช่ห้าม ชาวบ้านยังหากุ้งหอยปูปลาได้ โดยมีมาตรการช่วยดูแลแหล่งหญ้าทะเลไว้ เช่น ห้ามเปลี่ยนสภาพ ห้ามทิ้งตะกอน มลพิษ ห้ามทำการประมงที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับระบบนิเวศ สัตว์หายาก ฯลฯ รวมถึงควบคุมการท่องเที่ยวให้ยั่งยืน เช่น ห้ามให้อาหารโลมา มีกติกาในการนำเรือเข้ามาชมสัตว์ ที่สำคัญคือ ให้คนท้องที่มีส่วนร่วมจริงจัง ตามแผนคือจัดตั้งอนุกรรมการขนอมภายใต้กฎหมายขึ้นตรงกับกรรมการทะเลจังหวัด

จากผลการศึกษาในสมัยก่อน เรื่อยมาจนถึงแผนทำร่วมกันทุกฝ่าย ทั้งกรมทะเล ชาวบ้าน นักวิชาการ ฯลฯ จนถึงวันนี้ แผนพื้นที่คุ้มครองชายฝั่งขนอมจะได้รับการพิจารณา เพื่อนำเสนอคณะกรรมการทะเลชาติต่อไป หากทุกอย่างราบรื่น ทะเลไทยจะมีพื้นที่คุ้มครองเพิ่มขึ้น ตอนนี้เรามีเกาะกระ เกาะมันใน เกาะโลซิน วันนี้ (20 ต.ค.) จะมีการพิจารณาอีก 4 แห่ง รวมขนอม ตามเป้า SDG 14 และยุทธศาสตร์ชาติ ไทยควรมีพื้นที่คุ้มครอง 10 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ทะเล ภายในปี 2030 ตอนนี้เกือบ 7 เปอร์เซ็นต์ แล้ว หากเราช่วยกันผลักดันต่อไป อีก 10 ปียังเป็นไปได้

แต่วันนี้ ดีใจมากครับ เพราะขนอมกำลังจะเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเลแห่งใหม่ อะไรต่างๆ ที่ช่วยกันทำมา แม้ต้องใช้เวลา แต่สุดท้ายแล้วไม่เสียหลาย หญ้าทะเล โลมา พะยูน และชาวขนอมบ้านดอนจะได้ประโยชน์อย่างมากและคำว่ายั่งยืนจะเกิดขึ้นในทะเลชายฝั่ง ที่ผมกล้ายืนยันว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย"






https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000106932


*********************************************************************************************************************************************************


หินยักษ์หนักกว่า 3 หมื่นตันบนเกาะทะลุถล่มแยกเป็น 2 ก้อน สำรวจพบยังมีรอยร้าวเพิ่ม

กระบี่ ? หินยักษ์หนักกว่า 3 หมื่นตัน บนเกาะทะลุ จ.กระบี่ พังถล่มแยกเป็นสองก้อน คาดเกิดจากพายุพัดถล่ม เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจพบรอยร้าวเพิ่ม มีปะการังได้รับความเสียหาย เตือนนักท่องเที่ยวห้ามเข้าใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุอาจจะมีการพังเพิ่ม



เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ ( 20 ต.ค.) นายประยูร พงศ์พันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา -หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าสำรวจเกาะทะลุ เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ห่างจากทางทิศตะวันตกของเกาะไก่ ประมาณ 1 กิโลเมตร หลังเกิดเหตุหินขนาดใหญ่พังถล่มลงมาจากภูเขา ในช่วงคลื่นลมแรง เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เบื้องต้น

พบว่า หินที่ถล่มลงมาแตกออกเป็น 2 ก้อน น้ำหนักประมาณ 30,000 - 50,000 ตัน ส่งผลให้บริเวณด้านล่าง ซึ่งเดิมลึกประมาณ 10 เมตร ยุบลงไปอีก ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 15 เมตร ส่วนความเสียหายที่ เกิดขึ้น จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณแนวปะการัง ที่อยู่บริเวณด้านล่าง เสียหายไปประมาณ 20 %

นายประยูร กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นมาประมาณ 3 วัน แล้วคาดว่าเกิดจากอิทธิพลพายุดดีเพรสชั่นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีฝนตกต่อเนื่องลมกระโชกแรง ส่งผลหินปูนบริเวณเกาะทะลุพังลงมา แต่หลังได้รับแจ้งในช่วงเกิดเหตุยังมีคลื่นลมแรง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปสำรวจได้ แต่วันนี้คลื่นลมเริ่มสงบก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ดำน้ำลงไปสำรวจ บริเวณใต้น้ำ ใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบดูว่า จะมีการพังถล่มเพิ่มเติมหรือไม่

จากการสำรวจพบว่าบริเวณเกาะทะลุยังมีรอยแยกอยู่หลายจุดซึ่งมีความเสี่ยงพอสมควรในการสำรวจ แต่อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนไปยังนักท่องเที่ยว ให้ระมัดระวังไม่ควรเข้าใกล้บริเวณจุดที่เกิดเหตุ อาจจะเกิดอันตรายได้ ซึ่งหลังจากนี้จะทำการสำรวจเพิ่มเติม เพื่อนำมาวิเคราะห์ หาสาเหตุและหาทางป้องกันต่อไป


https://mgronline.com/south/detail/9630000107014

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 21-10-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ทส.เร่งคลอด พ.ร.บ.โลกร้อน!! ภายใน 2 ปี



แอกชันที่น่าติดตามล่าสุดมาจาก รมว.ทส. วราวุธ ศิลปอาชา ซึ่งได้ชี้แจงถึง (ร่าง) พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (พ.ร.บ.โลกร้อน) ว่าทำไมประเทศไทยถึงจำเป็นต้องมีแม่บทกฎหมายนี้

"การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นวาระร่วมของประชาคมโลก และถือเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันครับ ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันเข้าร่วมข้อตกลงปารีส เมื่อปี 2016 มีเป้าหมายสำคัญมุ่งเน้นที่การควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส จากระดับอุณหภูมิช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม โดยตั้งเป้าที่การลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้ได้ 11-20% ในภาคพลังงานและขนส่ง และจะขยับขึ้นเป็น 20% ทุกภาคส่วนในปี 2030 ซึ่งเราสามารถผลักดันอัตราการลดปริมาณ Co2 ได้ถึง 25% หากมีการสนับสนุนทางเทคโนโลยีที่ดีพอ

แต่ถึงแม้ส่วนราชการจะมีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่ในด้านการดำเนินงานยังมีข้อติดขัดหลายอย่าง เช่น ไม่มีกลไกการตรวจวัดและจัดเก็บข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ครบถ้วน ทำให้ปัจจุบัน ข้อมูลนั้นกระจัดกระจายอยู่ตามหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และยังมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่เคยถูกสำรวจและจัดเก็บเลย ดังนั้นร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่กำลังจัดทำโดย สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จึงจะมาช่วยเป็นกลไกให้อำนาจหน่วยงานรัฐ เก็บข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคเอกชนครับ"

"จุดประสงค์ของพ.ร.บ.ฉบับนี้คือ การร่วมมือกับเอกชน ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะรายเล็กหรือใหญ่ จะมีหน้าที่เก็บข้อมูลกิจกรรมการปล่อย การกักเก็บ และการลดก๊าซเรือนกระจกต่างๆ ในกิจการของตน เช่น วางมิเตอร์การใช้พลังงานไฟฟ้าในโรงงาน และจัดทำรายงานให้หน่วยงานรัฐในกำกับ เพื่อที่หน่วยงานนั้นจะส่งต่อข้อมูลให้ สผ.คำนวณออกมาเป็นข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคส่วนต่างๆ โดยร่างพ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แบ่งเป็น 8 หมวด 56 มาตรา เมื่อพ.ร.บ.ออกบังคับใช้แล้ว จะมีการออกแผนแม่บทกับแผนปฏิบัติต่างๆ ตามมา คาดว่าจะดำเนินการเสนอร่างพ.ร.บ.ให้คณะรัฐมนตรีได้ภายในปลายปีนี้ครับ"

การออกพ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับนี้ จะช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานของประเทศไทย ทั้งในด้านการดูแลฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพราะว่าการค้าขายกับต่างประเทศจะถูกบังคับด้วยกรอบด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ต่อไปผู้บริโภคเอง ก็จะสามารถตัดสินใจเลือกอุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำได้ และสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะกลายมาเป็นเทรนด์การตลาดที่ผู้ประกอบการจะต้องแข่งขันกันทำขั้นตอนการผลิตของตัวเองให้เป็นมิตรกับชั้นบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความตื่นตัวด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้นทุกวัน จากนี้ไปการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย จะต้องเดินหน้าไปพร้อมกับการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม จะแยกจากกันไม่ได้เด็ดขาดครับ

ทั้งนี้ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) อยู่ระหว่างการจัดงานประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะจากทุกภาคจนถึงช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ แต่ในขณะเดียวกัน เอ็นจีโอระดับโลก กรีนพีซประเทศไทย ก็ติดตามดูว่าร่างกฏหมายโลกร้อนจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่กำหนดไว้ว่า ภายในปี 2563 ประเทศไทยจะต้องมีร่างแรกของพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ รวมถึงการมีอนุบัญญัติต่างๆ

และเมื่อพิจารณารายละเอียดเนื้อหาและความเข้มข้นของการบังคับใช้นั้นจะเพียงพอต่อการแก้ปัญหาโลกร้อนได้หรือไม่ หรือว่ายังมีการสงวนท่าทีที่เกรงใจต่อภาคอุตสาหกรรมซึ่งก็จะต้องติดตาม


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000106746


*********************************************************************************************************************************************************


พิสูจน์ซากกางเกงยีนส์ 1 ปี ส่วนที่ไม่ย่อยสลาย คือพลาสติก



เพจเฟซบุ๊ค Permacoach องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในออสเตรเลีย เกี่ยวกับการปลูกพืชออแกร์นิกและการหมักปุ๋ยอินทรีย์ โพสต์ภาพผลการทดลองจากการนำกางเกงยีนส์ผ้ายืดไปใส่ในกองปุ๋ยหมัก เพื่อดูว่าจะมีส่วนประกอบที่เป็นวัสดุธรรมชาติ (ฝ้าย) ซึ่งย่อยสลายได้ และพลาสติกในสัดส่วนเท่าใด

เวลาผ่านไป 1 ปี ภาพที่เห็นคือกางเกงยีนส์ที่เหลืออยู่ล้วนเป็นเส้นใยพลาสติก และมีปริมาณมากกว่าที่คาดเอาไว้ ส่วนที่เป็นผ้าฝ้ายย่อยสลายไปจนหมดแล้ว

การนำมาโพสต์ในเพจเพื่อให้ทุกคนเห็นว่า ขยะแฟชั่นเป็นอีกเรื่องที่น่ากังวล เพราะก็ไม่ต่างอะไรกับขยะพลาสติกประเภทอื่น ถ้าเป็นไปได้ อยากให้พวกเราเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ 100% เพราะอย่างน้อยก็ไม่ก่อให้เกิดขยะที่ย่อยสลายไม่ได้

แอดมินเพจนี้ระบุด้วยว่า แทนที่เราจะซื้อกางเกงยีนส์ผ้ายืดตัวต่อไป คุณเพียงแค่สวมใส่สิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว ตอนนี้ใช้เงินเพียงส่วนหนึ่งที่คุณจะใช้จ่ายกับกางเกงยีนส์เหล่านั้นแล้วบริจาคให้กับ Permafund คุณจะประหยัดเงินลดปริมาณขยะพลาสติกที่โลกต้องจัดการและช่วยให้ผู้คนเรียนรู้วิธีการปลูกอาหารเพื่อสุขภาพ ช่วยสร้างชุมชนและใช้พลังงานหมุนเวียน หากทุกคนที่ชื่นชอบรูปภาพ ในราคาเพียง 5 ดอลลาร์ เราจะร่วมกันทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

สำหรับผู้บริจาคเงินจำนวนมากที่สุดจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกางเกงยีนส์ คุณต้องการให้เป็นเครื่องมือช่วยสอนหรือไม่? งานศิลปะ? ฉันจะส่งไปรษณีย์ไปยังที่ใดก็ได้บนโลกใบนี้ หากคุณชอบรูปภาพต้นฉบับและแชร์รูปภาพเหล่านั้นโปรดพิจารณาแบ่งปันการระดมทุนในครั้งนี้ร่วมกันกับเรา


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000107048

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 21-10-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


'วราวุธ' ย้ำแก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่งต้องคุ้มค่า ลดปัญหาพื้นที่ข้างเคียง



รมว.ทส. ย้ำแก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่งต้องคุ้มค่า ลดปัญหาพื้นที่ข้างเคียง "ปลัดจตุพร" มอบกรมทะเลติดตามใกล้ชิดพร้อมต่อยอดระบบรายงานสถานการณ์กัดเซาะชายฝั่ง

จากกรณีปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง นับเป็นปัญหาที่หลายหน่วยงานพยายามแก้ไขปัญหาและกลายเป็นปัญหาระดับชาติ ในบางพื้นที่การแก้ไขปัญหาโดยโครงสร้างทางวิศวกรรมกลับส่งผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียงดั่งตัวอย่างการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล บริเวณพื้นที่ชายฝั่งหาดม่วงงาม ที่เครือข่ายประชาชนรักษ์หาดม่วงงาม เรียกร้องให้หยุดดำเนินการ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ย้ำการแก้ไขปัญหาต้องคิดให้รอบคอบก่อนดำเนินการ

นอกจากนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยแนวทางการจัดการปัญหากัดเซาะชายฝั่งอย่างเป็นระบบผ่านแนวคิดระบบหาด เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตนได้รับทราบสรุปรายงานสถานการณ์พื้นที่ที่ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทยช่วงปี 2562 มีระยะทางรวม 91.69 กิโลเมตร มีพื้นที่ที่กัดเซาะรุนแรงที่ต้องการแก้ไขเร่งด่วนระยะทาง 12.87 กิโลเมตร ซึ่งส่วนมากมีสาเหตุมาจากกิจกรรมมนุษย์และผลกระทบที่เกิดจากโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่ได้ดำเนินก่อสร้างแล้ว แต่ส่งผลต่อพื้นที่ข้างเคียง ซึ่งในหลายพื้นที่ก็กลายเป็นปัญหาขัดแย้งระหว่างหน่วยงานรัฐและชุมชน อย่างกรณี การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล บริเวณพื้นที่ชายฝั่งหาดม่วงงาม ที่เครือข่ายประชาชนรักษ์หาดม่วงงาม เรียกร้องให้หยุดดำเนินการ เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าวไม่ประสบปัญหาการกัดเซาะ ซึ่งศาลปกครองจังหวัดสงขลาให้มีคำสั่งให้หยุดดำเนินการชั่วคราว เพื่อศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นก่อน ซึ่งตนได้สั่งการให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับและสั่งการให้หน่วยงานเร่งสำรวจและกำหนดแนวทางมาตรการการแก้ไขอย่างเป็นระบบ โดยต้องคำนึงถึงความสมดุลของการพัฒนาและการอนุรักษ์

"ระบบนิเวศทางธรรมชาติ ถูกออกแบบ โดยสร้างความสัมพันธ์ทุกอย่างไว้อย่างลงตัวและธรรมชาติได้กำหนดทิศทางและความเป็นไปทุกอย่างไว้แล้ว มนุษย์ที่มีหน้าที่สร้างและรักษาความสมดุล ไม่ใช่พยายามเปลี่ยนแปลงความสมดุลการแก้ไขปัญหาไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่การแก้ไขปัญหาที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่างหาก ที่ผิด"

ตนเชื่อว่าการก่อสร้างโครงสร้างเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาการกัดเซาะเกิดจากความตั้งใจดีของหน่วยงานที่ต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ แต่ต้องขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น หรือความจำเป็น และความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์ด้วย และสิ่งสำคัญที่ตนอยากฝากไว้ คือ การมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง การเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้เข้ามาร่วมคิดร่วมทำในขั้นตอนต่าง ๆ จะช่วยลดปัญหาความขัดแย้งและสร้างความเข้าใจและความร่วมมือร่วมกัน ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินงานต่าง ๆ สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี



ในเรื่องเดียวกันนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งมีหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นหน่วยงานที่กำกับในเชิงนโยบายและนำเสนอมาตรการที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยที่ผ่านมาได้เสนอคณะกรรมการนโยบายและแผนบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการแบ่งระบบกลุ่มหาด จำนวน 8 กลุ่มหาดหลัก และระบบหาดย่อย 318 ระบบหาด ซึ่งจะช่วยให้การบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งสามารถดำเนินการแก้ไขได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน ลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจาก ปัญหาที่เกิดขึ้นจะกระทบทั้งชีวิต ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และสมดุลระบบนิเวศ ตนได้ย้ำทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ หากพบว่ากิจกรรมหรือโครงการใดอาจก่อให้เกิดปัญหากัดเซาะชายฝั่ง ให้อาศัยอำนาจตามมาตรา 21 หรือ 17 ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ทันที เพื่อระงับและป้องกันปัญหาก่อนที่จะสร้างผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนและระบบนิเวศอื่น ๆ ข้างเคียง

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เสนอแนวทางและมาตรการในการแก้ไปปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ได้รับความเห็นชอบต่อแนวทางดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 ซึ่งได้กำหนดมาตรการและแนวทางในการแก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่งไว้อย่างชัดเจน โดยแบ่งเป็น 3 มาตรการ ได้แก่ มาตรการสีขาว ? การปล่อยฟื้นฟูตามธรรมชาติ มาตรการสีเขียว ? การปลูกป่าและใช้วัสดุธรรมชาติ และมาตรการสีเทา ? การใช้โครงสร้างทางวิศวกรรม อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชนสามารถตรวจสอบสถานการณ์และสถานภาพชายฝั่งทะเลของประเทศไทยได้จากระบบฐานข้อมูลเชิงพื้นที่การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ชายฝั่งทะเลไทย ซึ่งกรม ทช. ได้ร่วมกับ GISTDA จัดทำขึ้น โดยเข้าไปตรวจสอบผ่านทางระบบฐานข้อมูลกลางและมาตรฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในหน้าเว็ปไซต์ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทั้งนี้ กรมอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบให้สามารถตรวจสอบได้ทาง Mobile Application ซึ่งจะสามารถติดตามสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที อีกทั้ง ยังสามารถรายงานปัญหาด้านการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ได้อีกด้วย โดยคาดว่าระบบดังกล่าวจะสามารถใช้งานได้ภายในปี 2564 นายโสภณ ทองดี กล่าวในที่สุด


https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/903597

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:40


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger