สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 27 ธันวาคม 2566

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้เรื่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยบริเวณประเทศไทยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียสกับมีหมอกในตอนเช้า ขณะที่ลมฝ่ายตะวันออกพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงรวมทั้งระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2566

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันน้อย เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังแรง และมีการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 27 - 31 ธ.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็น สำหรับ หลังจากนั้นบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง

ในช่วงวันที่ 26 - 27 ธ.ค. 66 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร สำหรับทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ส่วนช่วงวันที่ 28 - 31 ธ.ค. 66 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร หลังจากนั้น มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างเริ่มมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และระมัดระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและมีลมแรง ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง

ในช่วงวันที่ 26 ? 27 ธ.ค. 66 ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกให้ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันเวลาดังกล่าว

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


ชาวประมงจับ 'กุ้งเคย' หนึ่งปีมีครั้งเดียวสร้างรายได้ วิถีดั้งเดิมชุมชนริมหาดชะอำ

ชาวประมงเพชรบุรีจับ 'กุ้งเคย' หนึ่งปีมีครั้งเดียวสร้างรายได้ วิถีดั้งเดิมชุมชนริมหาดชะอำ



เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี ได้มีชาวประมงพื้นบ้านและชาวบ้าน ได้นำอุปกรณ์ขาเกี๊ยะ ที่ทำมาจากกระบอกไม้ไผ่ นำตาข่าย มามัดติดกับไม้ไผ่ให้เป็นรูปปากปลาวาฬ เดินลงทะเลออกหากุ้งเคย บริเวณพื้นทรายริมชายหาดชะอำ เพื่อนำมาแปรรูปเป็นกะปิ และมาทำอาหารบริโภคในครัวเรือน ซึ่งถือเป็นอาชีพดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนาน โดยกุ้งเคยมีลักษณะคล้ายกุ้งฝอยมีขนาดเพียง 1.5 ซมจะลอยขึ้นมาเป็นก้อนขนาดใหญ่อยู่ผิวน้ำริมชายหาด ในช่วงเดือน 10-เดือน 12 ของทุกปี จึงกลายเป็นจุดเด่นของกะปิกุ้งเคย ไม่มีตะกอนทราย หรือ ขยะเจือปน มีความสดสะอาด สามารถจับมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู อาทิ กุ้งเคยชุบแป้งทอด ยำกุ้งสด แกง ปิ้งห่อหมก เป็นต้น และนำไปทำกะปิกุ้งเคยที่มีรสชาติหอมอร่อยไม่เหมือนใคร สามารถลดภาระค่ากับข้าวในครัวเรือน และสร้างรายได้ให้ครัวเรือนอีกด้วย ปัจจุบันราคากุ้งเคยอยู่ที่ 80-100บาทต่อกิโล หากนำไปแปลรูปเป็นกะปิจะขายได้กิโลกรัมละ 180-200 บาท

ด้านนายปัญญา พุ่มเจริญ ประธานเรือประมงพื้นบ้านชะอำ กล่าวว่า สำหรับกุ้งเคยที่หาดชะอำ ชาวบ้านได้ใช้เครื่องมือกะวะใส(หรือ ขาเกี๊ยะ) หรือเดินลุน ลงไปในทะเล (เดินไถไปข้างหน้า) เพื่อหากุ้งเคย โดย1 ปีมีครั้งเดียว เนื่องจากเคยเป็นกุ้งขนาดเล็กเป็นฝอย สามารถนำไปแปรรูปเป็นกะปิ หรือนำไปประกอบอาหารได้ อีกทั้งชาวบ้านยังสามารถนำไปขายสร้างรายได้ กุ้งเคยไม่ใช่ว่าจะมีทุกปีบางปี น้ำไม่ดี น้ำเบียดน้ำเสีย ก็จะส่งผลกระทบกับกุ้งเคย ก็จะไม่เข้าหาชายฝั่ง ชาวบ้านที่หาดชะอำส่วนมากที่ออกไปหากุ้งเคย ก็นำไปแปรรูปเป็นกระปิ มาขายสร้างรายได้ในครอบครัว และนำไปบริโภคเป็นอาหารในครัวเรือน สำหรับเคยปัจจุบันหายาก ราคากิโลกรัมละ 80 -100 บาท และฝากถึงชาวประมงหรือชาวบ้านที่หากุ้งเคย ไม่ควรใช้อุปกณ์ที่เป็นเครื่องยนต์มากุ้งเคย เพราะจะกระทบกับสัตว์น้ำทะเลขนาดเล็กอื่นๆเสียหาย ควรใช้อุปกรณ์ขาเกี๊ยะหรือที่ทำขึ้นเองโดยวัสดุธรรมเพื่อร่วมกันอนุรักสัตว์น้ำทะเลให้อยู่สืบไป


https://www.dailynews.co.th/news/3029118/