#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศกัมพูชา ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 28 - 30 ต.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณประเทศเวียดนามตอนล่างจะคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศกัมพูชา ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงปกคลุมประทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่วนในช่วงวันที่ 31 ต.ค. ? 2 พ.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลดงแต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 28 ? 30 ต.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 31 ต.ค. ? 2 พ.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ส่วนประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ตลอดช่วง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ขนลุก สัตว์ทะเลตายปริศนามหาศาล โดนคลื่นซัดมากองพะเนินบนหาดอังกฤษ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น สัตว์ทะเลมากมายตายปริศนาถูกคลื่นซัดมากองพะเนินบนชายหาดในอังกฤษ เชื่อมลพิษสิ่งแวดล้อมในทะเลคือสาเหตุทำให้สัตว์ทะเลเหล่านี้ต้องตายเป็นจำนวนมาก Crภาพ : @SharonBellNCJMedia เมื่อ 27 ต.ค. 64 เดลี่เมลรายงานและเผยแพร่ภาพชวนขนลุก สัตว์ทะเลหลายแสนตัวถูกคลื่นซัดมากองบนชายหาดทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของอังกฤษ จนสร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้คนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก สัตว์ทะเลเหล่านี้ มีทั้งปู ล็อบสเตอร์ และสัตว์ทะเลอีกหลายชนิด ซึ่งมีทั้งยังมีชีวิตและบางส่วนก็ตายไปแล้ว ถูกคลื่นซัดมากองพะเนินริมชายหาดระหว่างเมืองมาร์สค์ และซัลค์เบิร์น จนทำให้ผู้คนที่พบเห็นบอกว่ามันเป็นภาพเลวร้ายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยพบเห็นมาเลยทีเดียว สำนักงานด้านสิ่งแวดล้อมในอังกฤษ ยืนยันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า จะเริ่มการสอบสวนหาสาเหตุปรากฏการณ์ปริศนาที่ทำให้สัตว์ทะเลจำนวนมากตายเกลื่อนหาดกองเป็นภูเขา ในขณะที่มีความหวั่นวิตก เชื่อว่ามลพิษทางทะเลคือสาเหตุที่ทำให้สัตว์ทะเลตายมากมายถึงขนาดนี้ ชารอน เบลล์ หญิงชาวอังกฤษวัย 48 ในเมืองมาร์คส์เล่าว่าเธอเดินผ่านชายหาดนี้ทุกวันเพราะอยู่ใกล้บ้าน และได้เห็นสัตว์ทะเลถูกคลื่นซัดมาเกยหาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เธอและสามีได้มาถ่ายรูปบริเวณชายหาด และได้เห็นภาพกองสัตว์ทะเลที่ทำให้เธอทั้งตกตะลึงและเสียใจ จึงทำให้ต่อมา เธอและสามีใช้เวลา 4 ชั่วโมงเพื่อช่วยกันจับสัตว์ทั้งปู ทั้งล็อบสเตอร์ กุ้งที่ยังมีชีวิตกลับสู่ท้องทะเลอีกครั้ง ซึ่งตั้งแต่เกิดมา เธอไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย. https://www.thairath.co.th/news/foreign/2229125
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ
"ยูเอ็น" เตือนโลกอาจร้อนขึ้นอีก 2.7 องศา "ยูเอ็น" ชี้ปีนี้ควรเป็นจุดเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่โลกยังล้มเหลวตอบสนองจัดการมลพิษ อาจทำให้โลกร้อนขึ้น 2.7 องศาในสิ้นศตวรรษนี้ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เผยแพร่รายงานประจำปีว่าด้วยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปี2564 "The Emissions Gap Report 2021: The Heat Is On" เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2564 ตามเวลาสหรัฐ ระบุว่า แม้ในปัจจุบันมีคำมั่นสัญญาที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และควบคุมภาวะโลกร้อน แต่โลกอาจจะร้อนขึ้นเหนือระดับ 2.7 องศาเซลเซียส ก่อนสิ้นศตวรรษนี้ รายงานฉบับนี้ได้เปรียบเทียบการปล่อยมลพิษตามที่เคยคาดการณ์ไว้ กับการจำกัดอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในศตวรรษนี้ ตามที่ได้ตกลงไว้ในความตกลงปารีสที่เป็นไปตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เมื่อปี 2558 ซึ่งมี195 ประเทศให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหวังเพียงพอที่จะรักษาภาวะโลกร้อนให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสภายในปี 2643 รายงานระบุว่า คำมั่นครั้งใหม่ของประเทศต่าง ๆ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่คาดการณ์ไว้ในปี 2573 ได้มากขึ้นเพียง 7.5% เมื่อเทียบกับการให้คำมั่นในครั้งก่อน หากเป็นเช่นนั้น โลกจะมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 2.7 องศาเซลเซียสในศตวรรษนี้ ลดลงจากเดิมที่โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติคาดการณ์ไว้ที่ 3 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ ประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มอีก 30% เพื่อจำกัดให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 2 องศาเซลเซียส และต้องลดการปล่อยก๊าซอีก 55% เพื่อให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส รายงานดังกล่าว เผยแพร่ก่อนเปิดฉากการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของยูเอ็น (COP26) เพียงหนึ่งสัปดาห์ โดยได้อ้างอิงว่า การตั้งเป้าไปที่การปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ ในช่วงกลางศตวรรษ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จีน สหรัฐ และประเทศอื่น ๆ เพิ่งจะประกาศ แต่ยังไม่มีแผนที่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไร เพื่อสามารถลดภาวะโลกร้อนได้ถึง 2.2 องศาเซลเซียส https://www.bangkokbiznews.com/news/968380
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|