#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ 256
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกได้เคลื่อนผ่านภาคเหนือ เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนแล้ว ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยภาคเหนือจะมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนบางแห่งในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 8 ? 9 ก.พ. 64 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลาง ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง เกิดขึ้น โดยมีลูกเห็บตกบางแห่งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 12 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 13 - 14 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางที่ปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังอ่อน ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 8 ? 9 ก.พ. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 10 ? 14 ก.พ. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564)" ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2564 บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยในช่วงวันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ 2564 ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทั้งนี้เนื่องจากมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกได้เคลื่อนผ่านภาคเหนือ เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ภาคเหนือ: จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 10-02-2021 เมื่อ 02:49 |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
เผยภาพ "โลมาอิรวดี" แห่งลุ่มน้ำบางปะกงอวดโฉมให้ชมแค่ ม.ค.-ก.พ.นี้ ฉะเชิงเทรา - เผยภาพ "โลมาอิรวดี" แห่งลุ่มน้ำบางปะกง พร้อมอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้ชมระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ.นี้ททท.ฉะเชิงเทรา โปรโมตเต็มที่หวังเชิญชวนนักท่องเที่ยวชมของดีทางธรรมชาติ วันนี้ (8 ก.พ.) นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ภาพ "โลมาอิรวดี" แห่งลุ่มน้ำบางปะกง ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้าชมความน่ารักของสัตว์ทะเลอีกหนึ่งชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนมและจะออกมาเผยโฉมให้ชมเป็นจำนวนมากที่บริเวณปากอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก เฉพาะในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีในการชมโลมาบางปะกง เท่านั้น ทั้งนี้ "โลมาอิรวดี" หรือโลมาหัวบาตรมีครีบหลัง เป็นปลาโลมาอีกชนิดหนึ่งแต่มีลักษณะเด่นคือ หัวที่มนกลมคล้ายบาตรพระ ลำตัวสีเทาเข้ม ตามีขนาดเล็ก ปากอยู่ด้านล่าง ครีบข้างลำตัวแผ่กว้างเป็นรูปสามเหลี่ยม ครีบบนมีขนาดเล็กมาก มีรูปทรงแบนและบางคล้ายเคียว มีขนาดไม่ใหญ่มาก ตั้งท้อง 9 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ที่สำคัญเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จึงต้องโผล่หัวออกมาจากผิวน้ำเพื่อหายใจและมีพฤติกรรมอยู่รวมเป็นฝูง นอกจากนั้น ยังมักกระจายตัวอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 2-3 ตัว จึงเหมาะแก่การเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เพราะโลมาจะวนเวียนอยู่รายรอบตัวเรือ "โลมา" เป็นสัตว์กินเนื้อที่ไล่ล่าสัตว์น้ำชนิดต่างๆ เป็นอาหาร โดยเฉพาะปลาขนาดเล็ก เช่น ปลาซาร์ดีน ปลากะตัก แต่ชอบมากเป็นพิเศษ คือ ปลาดุกทะเล นอกจากนั้น "โลมาอิรวดี" แห่งลุ่มน้ำบางปะกง ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรม "ดูวาฬและโลมา" ในประเทศไทย สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าชมความงามทางธรรมชาติหรือท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และยังจะได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนประมงชายฝั่ง ตื่นตาไปกับสัตว์น้ำนานาชนิด สามารถติดต่อจองลงเรือได้ที่ท่าเรือหน้าวัดแจ้ง หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จ.ฉะเชิงเทรา หมายเลข 0-3851-4009 https://mgronline.com/local/detail/9640000012365
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
ปลานับล้านตายเกลื่อนหาดชิลี นักวิจัยเตือน น้ำอุณหภูมิเพิ่ม แบคทีเรียเยอะ ปลานับล้านตายเกลื่อนหาดชิลี นักวิจัยเตือน น้ำอุณหภูมิเพิ่ม แบคทีเรียเยอะ คงทราบกันดีแล้วว่ามลพิษที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ยังเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วง สืบเนื่องจากน้ำแข็งขั้วโลกละลายตัวอย่างรวดเร็ว นอกจากปริมาณน้ำจะสูงขึ้นแล้ว ปริมาณสารพิษและสารปนเปื้อนยังเพิ่มสูงขึ้น จนสัตว์น้ำอยู่ไม่ได้ลอยมาเกยตื้นที่ชายฝั่งหลายล้านตัว วันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา เกิดข่าวใหญ่ในประเทศชิลี เมื่อมีฝูงปลากว่าล้านตัวถูกพัดมานอนตายเกลื่อนชายหาด หน่วยงานประมงและสัตว์ได้น้ำตัวอย่างน้ำทะเลไปตรวจอย่างละเอียด พบว่าอุณหภูมิของน้ำที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลงกว่าปกติ แถมยังมีปริมาณของแบคทีเรียเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อเทียบกับในอดีตแล้ว น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า น้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาสามารถเก็บกักปริมาณน้ำจืดของทั้งโลกกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้ำแข็งดังกล่าวมีความหนาโดยเฉลี่ย 1.6 กิโลเมตร ซึ่งบางก้อนอาจมีหลายล้านปี ศาสตราจารย์ แอนดรูว์ เชพเพิร์ด จากมหาวิทยาลัยลีดส์ ในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า ปัจจุบันแผ่นน้ำแข็งมีส่วนประมาณ 1 ใน 5 ของการสูงขึ้น ของระดับน้ำทะเลทั่วโลก แต่เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วมีส่วนแค่ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ กรณีนี้นับว่าสำคัญมากสำหรับอนาคต สำหรับการเกิดน้ำท่วม และน้ำกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเล ศ.เชพเพิร์ดและทีมงาน ทำการศึกษาวิจัยในโครงการ อิมบี (Ice Sheet Mass Balance Intercomparison Exercise : Imbie) ซึ่งส่วนหลักได้จากการตรวจสอบข้อมูลดาวเทียม ในระยะเวลาเกือบ 30 ปี โดยดาวเทียมจะเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงปริมาตร การไหล และความถ่วง ของแผ่นน้ำแข็งทั้ง 2 ขั้วของโลก https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_5909469
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
นทท.แห่ถ่ายภาพ 'ตะไคร่น้ำ' สีเขียวสะท้อนน้ำยามพระอาทิตย์อัสดง เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติบริเวณแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยบริเวณโขดหินนั้นมีตะไคร่น้ำเกาะเป็นสีเขียวทั่วบริเวณส่งประกายสะท้อนกับแสงแดดเมื่อส่องกระทบสร้างความสวยงามอย่างมาก โดยมีนักท่องเที่ยว ชาวบ้าน นักเรียน หลายคน ต่างเดินทางมาถ่ายรูปเพื่อลงโซเชียล และส่งให้บรรดาเพื่อนๆ สำหรับปรากฎการ์ณธรรมชาติครั้งนี้จะเกิดขึ้น ปีละครั้ง จะอยู่ในช่วงน้ำที่จะลงไล่ๆกับโขดหินทำให้เกิดตะไคร่เกาะตามโขดหินสีเขียวคล้ายสนามหญ้าทำให้มีความสวยงาม นักท่องเที่ยวเลยมาถ่ายรูป ซึ่งปีหนึ่งจะมีเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้นก็จะตายและเป็นโขดหินปรกติ https://www.naewna.com/likesara/551362
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ
ประกาศ 'ปิดอ่าวไทย' ชี้ฝ่าฝืนปรับสูงสุด 30 ล้าน กรมประมงประกาศ "ปิดอ่าวไทย" พื้นที่บางส่วนของ "ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-สุราษฎร์ธานี" ชี้ฝ่าฝืนปรับสูงสุด 30 ล้าน เมื่อวันที่ 8 ก.พ.64 กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในทะเลอ่าวไทย ตอนกลาง ครอบคลุมเขตพื้นที่บางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์-15 พฤษภาคม 2564 เป็นระยะเวลา 90 วัน ต่อด้วยเขตชายฝั่งทะเลตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางและเขตต่อเนื่องปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 16 พ.ค.-14 มิ.ย. 2564 เป็นระยะเวลา 30 วัน เผยผลการดำเนินมาตรการฯ สอดคล้องกับวงจรชีวิตปลาทู สามารถฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำได้อย่างยั่งยืน นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า มาตรการ "ปิดอ่าวไทย" เป็นมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในฝั่งทะเลอ่าวไทย มีวัตถุประสงค์ เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืน และเป็นมาตรการที่สำคัญและเป็นภารกิจหลักของกรมประมงที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องถึง 68 ปี โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำให้กรมประมงดำเนินมาตรการอนุรักษ์เพื่อรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความยั่งยืน และให้เกิดความสมดุลและเหมาะสมกับการประกอบอาชีพของพี่น้องชาวประมง โดยมอบนโยบายการปฏิบัติงานยึดหลัก 3 ป. คือ การป้องกัน การป้องปราม และการปราบปราม พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็นสำคัญด้วย ทั้งนี้ จากข้อมูลวิชาการ ประกอบกับการสำรวจและสุ่มเก็บตัวอย่าง ปลาทู ในช่วงมาตรการปิดอ่าวไทยในรอบปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า ห้วงเวลา พื้นที่ และเครื่องมือที่อนุญาตให้ทำการประมง มีความเหมาะสม สอดคล้องกับมาตรการปิดอ่าว และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับการประกอบอาชีพของพี่น้องชาวประมง ดังนี้ ช่วงเวลา 15 ก.พ.-15 พ.ค. ระยะเวลา 90 วัน เขตพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี พบว่า พ่อแม่พันธุ์ปลาทูมีความสมบูรณ์เพศ และพร้อมผสมพันธุ์ และมีการแพร่กระจายของลูกปลาทู-ปลาลัง และปลาเศรษฐกิจขนาดเล็ก ช่วงเวลา 16 พ.ค.-14 มิ.ย. ระยะเวลา 30 วัน - เขตชายฝั่งทะเลตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพรและสุราษฎร์ธานี พบลูกปลาวัยอ่อนที่เกิดบริเวณพื้นที่มาตรการมีโอกาสเลี้ยงตัวบริเวณชายฝั่ง - เขตต่อเนื่องปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบลูกปลาขนาดเล็ก เดินทางเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทยรูปตัว ก เพื่อรักษาปลาทูสาวให้เจริญเติบโตเป็นพ่อแม่พันธุ์ และพร้อมเดินทางลงไปผสมพันธุ์วางไข่ในช่วง ก.พ. (ปิดอ่าวไทย) ปีต่อไป จึงแสดงให้เห็นว่า มาตรการดังกล่าวนี้สามารถสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลอ่าวไทยให้คืนกลับมาได้อย่างยั่งยืน ส่งผลให้ชาวประมงมีรายได้ในการประกอบอาชีพ และประชาชนคนไทยได้มีสัตว์น้ำบริโภคอย่างยั่งยืน ดังนั้น ในปี 2564 นี้ กรมประมงยังดำเนินมาตรการปิดอ่าวไทย ในช่วงเวลาและพื้นที่เดิม โดยอนุญาตให้ใช้เฉพาะเครื่องมือประมง บางชนิด ซึ่งเป็นของกลุ่มประมงขนาดเล็ก และไม่กระทบกับมาตรการปิดอ่าวไทย ดังนี้ (1) เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ อวนลากคานถ่างที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดความยาวไม่เกิน 16 เมตร ต้องทำการประมงในเวลากลางคืน ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง (2) เครื่องมืออวนติดตาปลาที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส มีช่องตาอวนตั้งแต่สองนิ้ว กรณีที่ชาวประมงต้องการใช้เครื่องมืออวนติดตาปลาที่มีความยาวอวนเกิน 2,500 เมตร ต่อเรือประมง 1 ลำ จะต้องใช้นอกเขตทะเลชายฝั่ง เท่านั้น (3) เครื่องมืออวนปู อวนลอยกุ้ง (4) เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกหมึก ที่ใช้ประกอบกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า(เครื่องปั่นไฟ) ต้องทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง (5) ลอบปู ต้องทำการประมงตามเงื่อนไขที่กำหนด (6) ลอบหมึกทุกชนิด (7) ซั้งทุกชนิดที่ใช้ประกอบทำการประมงพื้นบ้าน. สามารถทำการประมงได้ในเขตทะเลชายฝั่ง (8) คราดหอย ต้องทำการประมงตามเงื่อนไขที่กำหนด (9) อวนรุนเคย ต้องทำการประมงตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยประกาศกระทรวงฯ (10) จั่น ยอ แร้ว สวิง แห เบ็ด สับปะนก ขอ ลอบ ฉมวก และเครื่องมืออื่นใดที่ไม่ใช้ประกอบเรือกลขณะทำการประมง (11) เรือประมงที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส ที่ใช้เครื่องยนต์มีกำลังแรงม้าไม่ถึง 280 แรงม้า ประกอบเครื่องมือทำการประมงที่มิใช่เครื่องมือตามประเภท วิธีการทำการประมงที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดให้เป็นประมงพาณิชย์ทำการประมง ยกเว้น อวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกปลากะตัก ที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) และเครื่องมือทำการประมงที่ห้ามตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมง และพื้นที่ทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 ที่ไม่สามารถทำการประมงได้ โดยช่วงระยะเวลาปิดอ่าว 16 พ.ค.-14 มิ.ย. 2564 อนุญาตให้เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ อวนลากคานถ่าง ไม่ได้จำกัดความยาวของเรือที่ใช้ทำการประมง และเวลาในการทำการประมง ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่งของพื้นที่บางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี และอนุญาตให้เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกปลากะตัก ที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) ประกอบเรือกลที่มีขนาด 10 ตันกรอส สามารถทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง บริเวณเขตต่อเนื่องปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ สุดท้ายนี้ ขอฝากพี่น้องชาวประมงโปรดให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และระมัดระวังการทำประมง โดยให้ทำประมงเฉพาะเครื่องมือที่ประกาศให้ใช้ได้เท่านั้น เครื่องมืออื่นๆ ห้ามทำโดยเด็ดขาด "หากผู้ใดฝ่าฝืนจะเป็นความผิดตามตามมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสามสิบล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือประมง หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า และต้องได้รับโทษทางปกครองอีกด้วย กรมประมงยังมุ่งหวังให้มาตรการปิดอ่าวไทยฯ ในแต่ละห้วงเวลานั้นช่วยทำให้เกิดกระบวนการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตปลาทูแต่ละช่วงวัย ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ชาวประมงเกิดความตระหนักในการทำประมงได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรให้คุ้มค่า และเกิดความยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำ ดังคำขวัญที่ว่า คุ้มครองปลามีไข่ อนุรักษ์ไว้ใช้อย่างยั่งยืน" อธิบดีกรมประมงกล่าว https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/921495
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#6
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
กรมประมง ประกาศ "ปิดอ่าวไทย ปี 2564" พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมง ประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในทะเลอ่าวไทย ตอนกลาง ครอบคลุมเขตพื้นที่บางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ? 15 พฤษภาคม 2564 เป็นระยะเวลา 90 วัน ต่อด้วยเขตชายฝั่งทะเลตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางและเขตต่อเนื่องปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม? 14 มิถุนายน 2564 เป็นระยะเวลา 30 วัน มาตรการ "ปิดอ่าวไทย" เป็นมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในฝั่งทะเลอ่าวไทย เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืนและเป็นมาตรการที่สำคัญและเป็นภารกิจหลักของกรมประมงที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความยั่งยืน และให้เกิดความสมดุลเหมาะสมกับการประกอบอาชีพของพี่น้องชาวประมง อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะเวลาปิดอ่าว 16 พฤษภาคม? 14 มิถุนายน 2564 อนุญาตให้เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ อวนลากคานถ่าง ไม่ได้จำกัดความยาวของเรือที่ใช้ทำการประมง และเวลาในการทำการประมง ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่งของพื้นที่บางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพรและสุราษฎร์ธานี และอนุญาตให้เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกปลากะตัก ที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องปั่นไฟ) ประกอบเรือกลที่มีขนาด 10 ตันกรอส สามารถทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง บริเวณเขตต่อเนื่องปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ https://thainews.prd.go.th/th/news/d...10208162201518
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|