#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่เกิดจากสภาพอากาศแห้งในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างและมีแนวโน้มเคลื่อนเข้าใกล้บริเวณปลายแหลมญวน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 9 ? 14 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย และภาคใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลงในช่วงวันที่ 9 ? 14 ม.ค. 66 ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ปลายแหลมญวณและมีแนวโน้มอ่อนกำลังลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงระวังอันตรายการสัญจร ในบริเวณที่มีหมอก สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกให้ระวังคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วยตลอดช่วง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์
เร่งสกัดคราบน้ำมันสปีดโบ๊ท รั่วไหลลงทะเลตราด 8 ม.ค.2566 ? จากกรณี วันที่ 7 ม.ค.66 ได้เกิดเหตุเพลิงใหม้เรือสปีดโบ๊ท จำนวน 7 ลำ ที่จอดไว้อยู่ที่อ่าวทองหลาง หมู่ 1 ต. เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ตราดจำนวน 4 คนเดินทางลงพื้นที่อ่าวทองหลาง ต.เกาะหมากในช่วงเวลา 14.00 น. โดยมีนายนล สุวัจนานนท์ นายกอบต.เกาะหมาก และเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเกาะกูดเข้ามาประสานงานและอำนวยความสะดวก แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่า น้ำทะเลขึ้นสูงทำให้ไม่สามารถลงไปตรวจสอบหลักฐานที่เป็นซากเรือสปีดโบ๊ทได้ต้องรอให้น้ำทะเลลงจนถึงระดับพื้นก่อน ซึ่งคาดว่าจะลงในเวลา 20.00 น.ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมเพื่อดำเนินการเมื่อน้ำทะเลลงในระดับที่ทำงานได้ นายนล กล่าวว่า ปัญหาอีกเรื่องที่ทางอำเภอเกาะกูด และทางอบต.เกาะหมาก ได้แก้ไขไปแล้วคือคราบน้ำมันและ เศษวัสดุต่างๆที่ถูกเพลิงไหม้และที่ยังไม่ไหม้ซึ่งอยู่ภายในได้ป้องกันยังไม่ออกไปไหน ทาง สภ เกาะได้ลงมาดูพื้นที่แล้วตอนนี้ห้ามคนเข้าออกยกเว้นที่จำเป็นเท่านั้น ขณะที่ พ.จ.อ.สุริยา ภูสวัสดิ์ นายอำเภอเกาะกูด กล่าวว่า เรื่องน้ำมัน และคราบนั้นได้ให้ทางอบต.เกาะหมาก และฝ่ายปกครองอำเภอเกาะกูด หน่วยกู้ภัย และชมรมอนุรักษ์ปะการัง ช่วยตรวจสอบคราบน้ำมันในอ่าวทองหลาง และหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้น้ำมันที่รั่วไหลออกมาจากอุบัติเหตุให้ไหลออกทะเลให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบกับธุรกิจท่องเที่ยวเกาะหมากซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการล้อมน้ำมันและคราบน้ำมันไว้ทั้งหมดแล้ว. https://www.thaipost.net/district-news/299033/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
'อช.หมู่เกาะสิมิลัน'ออกมาชี้แจงด่วน หลังโดนซัดนทท.เหยียบปะการัง โซเชียลกระหน่ำ! สิมิลันใช้ฟินสั้น เหยียบปะการัง จี้เจ้าหน้าที่-ผู้ประกอบการเร่งตรวจสอบ กฎระเบียบคุมเข้ม 6 ม.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีมีสื่อโซเชียลใช้ชื่อ ขยะมรสุม MONSOONGARBAGE THAILAND โพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 ว่า " อช. หมู่เกาะสิมิลัน - ว่าแล้วเรื่องก็เกิดอีก รอบนี้นักท่องเที่ยวทั่วไป (ไม่ใช่ฟรีไดฟ์ ไม่ใช่สกูบ้า) เช่าฟินสั้น ลงน้ำตื้น เหยียบปะการังเข้าให้ เอาล่ะจุ้ย พี่ครับๆ แบนฟรีไดฟ์แล้ว แบนฟินยาวแล้ว รอบนี้แก้ยังไงดีครับ แบนฟินสั้น แบนนักท่องเที่ยวทั่วไปด้วยเลยมั้ยครับ!! ปิดเกาะไปเลยมั้ยพี่ ดีต่อการฟื้นฟูนะ!!! ทีนี้เรามาดูการแก้ปัญหาแบบที่ผ่านมาของอุทยานกัน แบบหัวชนฝา เช่น ? เรือลิฟอะบอร์ดทิ้งสมอโดนปะการัง แก้ด้วย รับส่งด้วยเรือดิงกี้เท่านั้น ให้เรือจอดไกลออกไป (ซึ่งดิงกี้ไทยลำเล็กมากและไม่ได้มีบันไดพาดสำหรับขึ้นเรือแบบต่างประเทศ) ต้องรับส่งกี่รอบถึงจะครบทุกทีมคิดเอา ? เล่นสไลเดอร์ยักษ์ลงมาทับกันแขนหัก งั้นห้ามเล่นกีฬาผาดโผน (extreme) ในเขตอุทยาน ให้ถือว่าสไลเดอร์ยักษ์เป็นกีฬาผาดโผน ดังนั้น แบนสไลเดอร์ยักษ์ซะ ? ทราบว่าฟรีไดฟ์ฟินยาวทำปะการังพัง งั้นแบน ฟรีไดฟ์ฟินยาว ? ฟรีไดฟ์ ถือเป็นกีฬาผาดโผน งั้นแบน ฟรีไดฟ์ ? พอแบนฟินยาวด้วย แบนฟรีไดฟ์ด้วยในอุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน และยังไม่มีหมายประกาศ อุทยานฯ เลยให้ผู้ประกอบการให้เช่าได้แค่ฟินสั้น ? พอเช่า/นำไปใช้เองได้แค่ฟินสั้น ก็เป็นแบบในภาพ เมื่อวานนี้รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมขาติและสิ่งแวดล้อม ให้แนวทางอุทยานฯ ในการทำงานผ่านโพสต์เพจเฟสบุ้คว่า "ถ้าเปิดแล้วดูแลไม่ได้ อย่าเปิดดีกว่าครับ" ปล. ประกาศเรื่องฟรีไดฟ์ งดห้ามได้ไม่ได้ยังไงในสิมิลัน รีบประกาศด้วยนะ!! " พร้อมมีภาพประกอบ โดยมีการติดแฮทแท็กถึง วราวุธ ศิลปอาชา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลังจากมีการโพสต์ มีการเข้าชมกว่า 1,500 ครั้ง แสดงความคิดเห็นกว่า 150 ครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ได้แจ้งสื่อมวลชนในกรณีนี้ว่า อุทยานฯสิมิลัน ได้แจ้งทางไลน์กลุ่มผู้ประกอบการฟรีไดฟ์ ตั้งแต่พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ในการกำหนดจุดการดำน้ำส่วนใหญ่เป็นน้ำลึก ส่วนที่ปรากฏในภาพมีลักษณะเหมือนน้ำตื้นซึ่งบริเวณแหล่งดำน้ำตื้นตามภาพไม่พบว่ามีหรืออาจจะถ่ายภาพขณะน้ำทะเลลดลงก็เป็นไปได้ เบื้องต้น มีการนำทุ่นไข่ปลามาวางกั้นพื้นที่เล่นน้ำตื้นเพื่อกำหนดพื้นที่ไม่ให้กระทบแก่แนวปะการัง ส่วนการใช้ฟิน ทางผู้ประกอบการฟรีไดฟ์เข้าใจถึงข้อกำหนดการใช้ มีการอบรม มีใบผ่านการฝึกอบรมและมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ซึ่งกำหนดจุดฟรีไดฟ์ไว้ 3 จุดเท่านั้น ด้านผู้ประกอบการรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่ลงในสื่อโซเชียลตนไม่คิดว่าในเขตอุทยานฯสิมิลัน เนื่องจากผู้ประกอบการฟรีไดฟ์ทราบดีว่าควรปฏิบัติอย่างไร โดยการดำน้ำผู้ดำน้ำต้องผ่านการฝึกอบรม ฝึกปฏิบัติและมีข้อห้ามเพื่อให้ปลอดภัยต่อตนเอง ผู้อื่น และสิ่งแวดล้อม ส่วนนักท่องเที่ยวฟรีไดฟ์ กล่าวว่า ที่เข้ามาดำน้ำในเขตอุทยานฯสิมิลัน ตนเองได้ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ของภาครัฐ และทางผู้ประกอบการทุกอย่าง อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการมีสามัญสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแน่นอน https://www.naewna.com/likesara/702690
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|