เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 21-09-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 21 ? 22 ก.ย. 66 ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 23 ? 26 ก.ย. 66 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 23 ? 26 ก.ย. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 21-09-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


สนธิสัญญาทะเลหลวงเข้าใกล้ความเป็นจริง หลังการลงนามรับรองครั้งแรก



หลายสิบประเทศจะลงนามในสนธิสัญญาประวัติศาสตร์ว่าด้วยการปกป้องทะเลหลวง เพื่อเริ่มบังคับใช้ข้อตกลงที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบนิเวศสำคัญของโลก

นักเคลื่อนไหวจากกรีนพีซกางป้ายขนาดใหญ่หน้าสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ในระหว่างการเจรจาเกี่ยวกับสนธิสัญญาเพื่อปกป้องทะเลหลวง ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา (Photo by Ed JONES / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 20 กันยายน 2566 กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวภายหลังสนธิสัญญาว่าด้วยทะเลหลวงได้รับการรับรองในที่ประชุมสหประชาชาติเมื่อเดือนมิถุนายน ล่าสุด หลายสิบประเทศจะทำการลงนามเป็นครั้งแรกในสนธิสัญญาดังกล่าว เพื่อเริ่มบังคับใช้อย่างเร่งด่วน

สนธิสัญญาทะเลหลวงถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบนิเวศที่สำคัญต่อโลก โดยการผลักดันขององค์การสหประชาชาติ ที่ใช้เวลาหารือกันนานกว่า 15 ปี รวมถึงการเจรจาอย่างเป็นทางการอีก 4 ปี

"การเริ่มต้นการลงนามในระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปีของสหประชาชาติ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างการคุ้มครองที่มีความหมาย" นิโคลา คลาร์ก จากโครงการธรรมาภิบาลมหาสมุทรขององค์กร The Pew Charitable Trusts กล่าว และเสริมว่า "เราเริ่มต้นบทใหม่ที่ประชาคมโลกต้องดำเนินการอย่างกล้าหาญเพื่อให้บรรลุถึงการคุ้มครองเหล่านั้น และรับประกันว่าแหล่งกักเก็บความหลากหลายทางชีวภาพขนาดมหึมาในมหาสมุทรจะยังคงให้ประโยชน์ต่อสุขภาพของมหาสมุทรและชุมชนทั่วโลกที่ต้องพึ่งพามัน"

ข้อความของสนธิสัญญาได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการโดยฉันทามติ แม้รัสเซียจะท้วงว่ามีเนื้อหาบางส่วนไม่เป็นที่ยอมรับก็ตาม

ทั้งนี้ทะเลหลวง (มหาสมุทร) กว่าครึ่งของโลกอยู่นอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะหรือนอกชายฝั่งเกินกว่า 370 กิโลเมตรของแต่ละประเทศ จึงไม่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของรัฐใดรัฐหนึ่งในการรับผิดชอบ ดังนั้นการให้ความคุ้มครองสิ่งที่เรียกว่า "ทะเลหลวง" จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกประเทศ

ทะเลหลวงถูกละเลยมานานในการต่อสู้ด้านสิ่งแวดล้อมหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากผู้คนมักจะสนใจอยู่แค่พื้นที่ชายฝั่งและสิ่งมีชีวิตหลักๆไม่กี่ชนิด

เครื่องมือสำคัญในสนธิสัญญาดังกล่าวคือ การกำหนดความสามารถในการสร้างพื้นที่คุ้มครองทางทะเลในน่านน้ำสากล ซึ่งปัจจุบัน ทะเลหลวงเพียงประมาณ 1% เท่านั้นที่ได้รับการคุ้มครองโดยมาตรการอนุรักษ์ทุกประเภท

สนธิสัญญานี้ถูกมองว่ามีความสำคัญต่อประเทศต่างๆ ที่จะปกป้อง 30% ของมหาสมุทรและผืนดินของโลกภายในปี 2573 ตามข้อตกลงแยกอีกฉบับที่รัฐบาลโลกได้บรรลุร่วมกันในแคนาดาเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

สนธิสัญญาทะเลหลวงมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "สนธิสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพนอกเหนือเขตอำนาจแห่งชาติ" หรือบีบีเอ็นเจ (BBNJ) และได้รับการคาดหวังให้มีการผลักดันสู่การให้สัตยาบันของทุกประเทศสมาชิกในการประชุมมหาสมุทรแห่งสหประชาชาติครั้งต่อไปที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนมิถุนายน 2568

หลังจาก 60 ประเทศให้สัตยาบันครบแล้ว สนธิสัญญาจะมีผลใช้บังคับภายใน 120 วัน

ตามข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ รัฐบาลมากกว่า 60 ประเทศวางแผนที่จะเริ่มสนธิสัญญานี้ทันที แต่การให้สัตยาบันอย่างเป็นทางการขึ้นอยู่กับกระบวนการภายในของแต่ละประเทศ

นักวิทยาศาสตร์เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของมหาสมุทรมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะแหล่งผลิตออกซิเจนส่วนใหญ่ที่มนุษย์ใช้ในการหายใจ และมีบทบาทในการหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพในระดับจุลภาค.


https://www.thaipost.net/abroad-news/451948/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 21-09-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก อสมท.


อลังการ สุสานหอย 5 พันปี เขาพระอาดเฒ่า แหล่งท่องเที่ยวพังงา



พังงา 20 ก.ย. ? ลงใต้ไปพังงา ชมสุสานหอย ที่เขาพระอาดเฒ่า เชื่อว่าเก่าแก่กว่า 5,000 ปี พัฒนาเป็นจุดท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติแห่งใหม่ของจังหวัด

นายสงัด จันทร์แก้ว ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชนคนหินร่ม ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นำผู้สื่อข่าวลงเรือประมงพื้นบ้าน ไปชมแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล อ่าวพังงา ในพื้นที่คลองเคียน สุสานหอย 5,000 ปี ที่เขาพระอาดเฒ่า อยู่ไม่ไกลทางท่าเรือชุมชนบ้านหินร่ม นั่งเรือไปประมาณ 15 นาที เป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวของชุมชน มีสะพานไม้เทียบเรือพร้อมทางเดินเท้ากับราวเชือกให้เกาะลัดเลาะขึ้นลงไปตามริมภูเขาด้านทิศตะวันตก ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 15 นาที จะพบกับกองเปลือกหอยจำนวนมากที่ทับถมกันเป็นชั้นๆ จนกลายเป็นเนินเปลือกหอยขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นเปลือกหอยแครง และเปลือกหอยนางรม ชั้นล่างมีร่องรอยย่อยสลายกลายเป็นดิน และมีร่องรอยของการขุดค้นเป็นหลุมและการขุดชั้นดินเอาเปลือกหอยออกไป ทำให้คนที่พบเห็นต่างจินตนาการว่าเปลือกหอยจำนวนมหาศาลนี้มากองรวมอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

นายสงัด เล่าว่า ในอดีตเคยมีคนมาขุดบริเวณนี้ พอขุดลึกไปเรื่อย ๆ กลับพบเปลือกหอย ซึ่งก็บอกไม่ได้ว่ามากองอยู่ทับถมบริเวณนี้ได้อย่างไร จุดนี้เป็นจุดที่พบภาพเขียนสีโบราณอายุ 5,000 ปี อยู่บนหน้าผาเชิงเขา และพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ทำให้คาดเดาว่าเป็นเปลือกหอยที่เกิดจากการกินของคนโบราณแล้วทิ้งทับถมกันไว้ กระทั่งกลายเป็นสุสานหอย แต่ก็ยังไม่คำยืนยันจากนักโบราณคดี เคยมีการลักลอบขุดเขาเปลือกหอยออกไปเพื่อเอาไปเผาทำส่วนผสมของปุ๋ย แต่หลังจากที่ชุมชนเข้าไปพัฒนาเป็นจุดท่องเที่ยว ก็ไม่มีใครลักลอบขุด .


https://tna.mcot.net/region-1241611
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 21-09-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


สื่อต่างชาติตีแผ่ ธรรมชาติผิดปกติ ทำใต้น้ำทะเลไทยไร้สิ่งมีชีวิต



ทะเลไทยยังคงวิกฤต หลังปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูมแพร่กระจายทั่วทะเลศรีราชา ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าจะหายไปใน 2-3 วัน แต่ ณ ปัจจุบัน ทะเลไทยยังคงเขียว และคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะหายไปเมื่อไหร่
ด้วยสภาวะของทะเลที่ยังคงเขียว จนได้ดึงดูดความสนใจของสำนักข่าวต่างประเทศให้เข้ามาช่วยประเทศไทยส่งเสียงถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ยังคงสร้างผลกระทบต่อเนื่องต่อชุมชนประมงท้องถิ่นและระบบนิเวศทางทะเล

สำนักข่าว Reuters รายงานวิกฤตแพลงก์ตอนบลูมในประเทศไทยว่า แพลงก์ตอนบลูมในทะเลไทยกำลังกระจายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดภาวะทะเลตาย (Dead Zone) บริเวณทะเลนอกภาคตะวันออกของประเทศไทย หรือก็คือจังหวัดชลบุรี โดยแพลงก์ตอนบลูมมีปริมาณหนาแน่นมากจนผิดปกติ คุกคามการดำรงชีวิตของชาวประมงท้องถิ่น

นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลไทย เผยว่า บางพื้นที่ในอ่าวไทยมีปริมาณแพลงก์ตอนบลูมมากกว่าปกติถึง 10 เท่า ทำให้น้ำเปลี่ยนกลายเป็นสีเขียวอย่างกว้างขวาง คร่าชีวิตสัตว์ทะเลจำนวนมากกว่าพันชีวิต

แพลงก์ตอนบลูมมักจะเกิดขึ้นปีละ 1-2 ครั้ง ซึ่งปกติมันจะหายไปเองในช่วง 2-3 วัน ในช่วงที่พวกมันพองตัวกระจายทั่วน้ำ จะทำหน้าที่ผลิตสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม หรือทำลายสิ่งมีชีวิตในทะเลด้วยการบดบังแสงอาทิตย์และลดปริมาณออกซิเจนในแหล่งน้ำ

แต่การคาดหวังของเราไม่เป็นผล เมื่อแพลงก์ตอนบลูมชุดนี้อยู่นานกว่าที่คิด กระทบฟาร์มหอยแมลงภู่ มากกว่า 80% ของเกือบ ๆ 300 แปลงในพื้นที่ โดยหนึ่งในเจ้าของฟาร์มหอยบอกกับสำนักข่าวว่า ปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูมทำให้เขาขาดทุนมากกว่า 500,000 บาท และยังคงสร้างความสูญเสียที่ไม่อาจคาดเดาได้ต่อไปเรื่อย ๆ จนเขาต้องหยุดกิจการนี้ไปก่อน

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แพลงก์ตอนบลูมไม่เพียงแค่เปลี่ยนน้ำทะเลให้กลายเป็นสีเขียวเท่านั้น สัตว์น้ำที่เคยแหวกว่ายและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทรายชายฝั่งกลับหายไปจนเกลี้ยง เพราะไม่มีออกซิเจนให้ได้หายใจ

สาเหตุการอยู่ยาวของแพลงก์ตอนบลูมชุดนี้ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าเกิดขึ้นเพราะปัจจัยใดกันแน่ แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และปรากฎการณ์เอลนีโญมีผลต่อแพลงก์ตอนบลูมชุดนี้ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง บางคนก็เชื่อว่า ข่าวน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลศรีราชาก็อาจมีเอี่ยวในวิกฤตนี้

นั่นหมายความว่า คลื่นความร้อน และเอลนีโญ ส่งผลกระทบต่อทะเลทั่วโลก และเป็นสิ่งที่เราควรกังวลกันมากขึ้นถึงมาตรการการป้องกันและการลดผลกระทบระยะยาว หลังตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีสัตว์น้ำตายมากกว่าล้านตัวแล้วทั่วโลก อันเป็นผลพวงมาจากความผิดปกติของสิ่งแวดล้อม


https://www.nationtv.tv/gogreen/378930850

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:06


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger