#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีอากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า สำหรับยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส และยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก สำหรับเกษตรกรบริเวณภาคเหนือตอนบนควรระวังความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งทางตอนล่างของภาค กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆบางส่วน กับมีอากาศเย็น และมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 12 ? 13 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยอ่อนกำลังลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นโดยทั่วไปกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 15 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่อีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 1?3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1?2 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า และ ในช่วงวันที่ 16-17 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยจะอ่อนกำลังลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า อนึ่ง ในช่วงวันที่ 14 - 17 ธ.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ตลอดช่วง และควรระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรที่ตากผลผลิตทางการเกษตรบริเวณภาคเหนือตอนบนควรระวังความเสียหายจากฝนเล็กน้อยบางแห่งในวันที่ 12 ธ.ค.64 นี้ไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 ธ.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือบริเวณภาคใต้ตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ไม่น่ามอง! ขยะทะเลกองเต็มชายหาดแหลมสมิหลา ผลจากคลื่นลมแรงในช่วงฤดูมรสุม ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชายหาดแหลมสมิหลา จ.สงขลา เต็มไปด้วยขยะทะเลจำนวนมากตลอดแนวชายหาดทั้ง 2 ด้าน บางจุดหนาแน่นจนไม่สามารถลงไปเดินเล่นได้ ผลจากคลื่นซัดเอาขยะจากทะเลในช่วงฤดูมรสุมที่มีคลื่นลมแรง วันนี้ (11 ธ.ค.) บรรยากาศที่บริเวณชายหาดแหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลชื่อดังของ จ.สงขลา ในวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ มีนักท่องเที่ยวทั้งคนในพื้นที่ และจากจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนตลอดแนวชายหาด และคลื่นลมในทะเลเริ่มอ่อนแรงลง ฝนเริ่มทิ้งช่วง ทำนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ตอนนี้สภาพตลอดแนวชายหาดแหลมสมิหลา กลับเต็มไปด้วยขยะจากทะเลจำนวนมากที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นอยู่บริเวณแนวชายหาด ทั้งบริเวณหาดสมิหลา และหาดชลาทัศน์ ส่งผลกระทบกับสภาพภูมิทัศน์ของชายหาดเพราะเต็มไปด้วยขยะ ทั้งเศษท่อนไม้ กิ่งไม้ เศษอวน ขวดพลาสติก ขวดแก้ว และโฟมที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมากองอยู่ริมชายหาดในช่วงฤดูมรสุมที่มีคลื่นลมแรง ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน และต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บางจุดที่มีขยะทะเลกองจำนวนมาก นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงไปเดินเล่นบริเวณชายหาดได้ ขณะที่ทางเทศบาลนครสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมจัดบิ๊กคลีนนิ่งชายหาดแหลมสมิหลาทันทีที่ผ่านพ้นช่วงฤดูมรสุม เนื่องจากขณะนี้สภาพคลื่นลมในทะเลยังค่อนข้างแรง เพื่อให้กลับมาเป็นชายหาดที่ขาวสะอาด และสวยงามเช่นเดิม เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่นี้ https://mgronline.com/south/detail/9640000122479
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก มติชน
เต่าตนุขึ้นวางไข่ อุทยานฯสิมิลัน ติดตาม-ดูแลใกล้ชิด วันที่ 11 ธันวาคม นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากนายไพศาล บุญสวัสดิ์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันว่า นายศุภเชษฐ์ ชะตาแก้ว หัวหน้าหน่วยฯ ที่ สล.3 (เกาะตาชัย) และทีมงาน ขณะออกดูแลความสะอาดเรียบร้อยบริเวณชายหาดทะเล เกาะตาชัย (เกาะที่ 11) ในพื้นที่ อช.สล. เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. เวลา 08.20 น. พบเต่าจำนวน 1 ตัว ขึ้นมาวางไข่ในหลุมทรายที่ชายหาดเกาะตาชัย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจึงได้สั่งการให้ทำการตรวจสอบชนิดและบันทึกภาพ โดยห้ามเข้ากระทำการใดๆ กับเต่าและหลุมทรายที่วางไข่ ให้ปล่อยเป็นไปธรรมชาติของเต่า และให้เจ้าหน้าที่ติดตามกลุ่มรังวางไข่ แบบห่างๆ ต่อไป ผลจากการตรวจ บันทึกภาพ และตรวจค้นข้อมูลประกอบ ได้ข้อสรุปว่า เป็นชนิด เต่าตนุ มีชื่อสามัญว่า Green Turtle ชื่อวิทยาศาสตร์ Chelonia mydas ที่พบเป็นเต่าตนุ มีขนาดประมาณ โตหรือยาว 1 เมตร น้ำหนัก 130 กก. ซึ่งปกติวางไข่ครั้งละ 70-150 ฟอง เป็นเต่าที่กินทั้งพืชและสัตว์ทะเลขนาดเล็กเป็นอาหาร เช่นจำพวกหญ้าทะเลหรือสาหร่ายทะเล ปลาทะเล หรือแมงกะพรุน และกลับมาวางไข่ในถิ่นกำเนิด ซึ่งมักพบเต่าตนุในเขตน้ำตื้นใกล้ชายฝั่งหรือตามเกาะต่างๆ โดยกระจายพันธุ์ในพื้นที่ประเทศไทย พบได้ในทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน สำหรับในพื้นที่ อช.สล. พบได้ทุกเกาะในพื้นที่ทะเล ตั้งแต่เกาะที่ 1-11 https://www.matichon.co.th/local/qua...e/news_3082622
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
เกาหลีใต้เตรียมสร้าง "Oceanix City เมืองลอยน้ำ" รับมือภัยพิบัติ เกาหลีใต้เตรียมสร้าง Oceanix City เมืองลอยน้ำให้กลายเป็นเมืองต้นแบบ และรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จในปี 2025 เกาหลีใต้เตรียมสร้างเมืองลอยน้ำ Oceanix City เพื่อรองรับการเพิ่มจำนวนของประชากร และจัดการกับปัญหาภัยพิบัติต่าง ๆ โดยโปรเจกต์เมืองลอยน้ำนี้ได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติ (UN) เมื่อประสบความสำเร็จจะกลายเป็นเมืองลอยน้ำต้นแบบ เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดเมืองอื่น ๆ ทั่วโลกต่อไป โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2025 Oceanix City เป็นโปรเจกต์เมืองลอยน้ำที่ได้รับการยอมรับจาก UN-Habitat โดยเป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของ Oceanix และรัฐบาลเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ โดยมีวัตถุประสงค์ในการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนโลก ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม สึนามิ พายุเฮอร์ริเคนระดับ 5 เป็นต้น รวมถึงการจัดสรรที่อยู่อาศัยให้เพียงพอกับจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น รูปแบบของเมืองลอยน้ำ Oceanix City ถูกออกแบบมาให้เป็นการเชื่อมต่อของอาคารชุดแบบหกเหลี่ยม ต่อกันจนกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีระบบจัดการตัวเอง สามารถผลิตและจัดสรรทรัพยากรสำหรับชาวเมืองได้อย่างยั่งยืน โดยตัวอาคารมีผิวผนังที่เคลือบด้วยหินปูนที่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ การพึ่งพาตัวเองแบบยั่งยืนเป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญของการพัฒนาเมืองลอยน้ำ โดยมีแผงโซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ในเมือง มีระบบจัดการน้ำเพื่อการบริโภคและทำเกษตรกรรม ขนาดของเมืองตามการคาดการณ์จะสามารถรองรับประชากรได้ถึง 10,000 คน บนพื้นที่ขนาด 75 เฮกตาร์ (500 ไร่) และมีโอกาสที่จะขยายพื้นที่ได้มากขึ้นตามการเติบโตของชุมชน แนวคิดการพัฒนาเมืองลอยน้ำ อาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่อยู่เหนือจินตนาการ แต่หากการก่อสร้างประสบความเสร็จไปด้วยดี และได้ผลลัพธ์ตรงตามเงื่อนไขขององค์การสหประชาชาติ (UN) จะทำให้ Oceanix City ของประเทศเกาหลีใต้ กลายเป็นเมืองต้นแบบที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในพื้นที่อื่นของโลกได้ต่อไป https://news.thaipbs.or.th/content/310562
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|