เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 26-10-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก สำหรับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคใต้ ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่าง และอ่าวไทยตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือ ด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 26 ? 28 ต.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในวันที่ 29 ? 31 ต.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นฝนจะลดลง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรตลอดช่วง

อนึ่ง พายุดีเปรสชัน "ฮอมูน" (HAMOON) ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณตอนใต้ของประเทศบังคลาเทศแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในระยะต่อไป โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในระยะนี้ไว้ด้วย


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 29 - 30 ต.ค. ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 26-10-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


สตูลพบพะยูนตายเกยตื้น



เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอดุลย์ ชนะบัณฑิต ประธานพลเมืองรักษ์สตูล รับแจ้งจากชาวบ้านแหลมการีม ม.5 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 25 ตุลาคม ได้พบพะยูนเพศเมีย ยาว 2 เมตร น้ำหนัก 250-300 กก. นอนตายเกยตื้นบริเวณเวิ้งอ่าว แหลมการีม คาดว่าน่าจะเข้ามากินหญ้าทะเลที่ขึ้นเต็มบริเวณแหลมการีมและกินจนเพลินจนกระทั่งน้ำลดจะออกจากเวิ้งอ่าวไม่ได้ เลยเกยตื้นตายดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณลำตัวไม่พบบาดแผลใดๆ

นายอดุลย์ กล่าวว่า พะยูนตัวดังกล่าว เป็นพะยูนประจำถิ่นที่มีอยู่ 2 ฝูงคือบริเวณแหลมการีม ระหว่าง ม.5 และ ม.6 ต.เกาะสาหร่าย ซึ่งเป็นแหล่งหญ้าทะเล ฝูงพะยูนดังกล่าวมีประมาณ 3-5 ตัว ส่วนอีกฝูงหากินบริเวณหน้าเกาะบากันใหญ่ ม.2 บ้านบากันใหญ่ ต.เกาะสาหร่าย

ทั้ง 2 แห่งเป็นแหล่งหญ้าทะเลที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับพะยูนตัวที่ตายคาดว่าเป็นตัวแม่ที่โตเต็มวัย ถือเป็นการสูญเสียทรัพยากรที่สำคัญของพื้นที่อีกตัวหนึ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันอนุรักษ์ฝูงพะยูนฝูงนี้ไว้ให้อยูคู่ทะเลแห่งนี้ให้คงอยู่สืบไป


https://www.matichon.co.th/region/news_4251284

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 26-10-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


สุดเศร้า !! โลกล้มเหลวในการหยุดตัดไม้ทำลายป่า ตัวเลขยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ



ปี 2021 ผู้นำกว่า 100 ประเทศให้สัญญาว่า จะเป็นตัวแทนของผืนป่าสีเขียว ในการป้องกันภัยอันตรายที่อาจนำมาสู่ป่า ตั้งเป้าจะร่วมกันฟื้นฟูผืนป่าภายในปี 2030 แต่ตัวเลขการประเมินการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลก ย้อนแย้งกับเป้าหมาย อัตราการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 20

อย่างที่ทราบกัน ป่าไม้ มิเพียงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำหรับสัตว์นานาชนิดเท่านั้น แต่ป่าไม้ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนแผงควบคุมสภาพภูมิอากาศของโลก แถมยังเป็นฟองน้ำที่คอยดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากฝีมือมนุษย์เอาไว้ ก่อนที่จะลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ

ฉะนั้น หลาย ๆ ประเทศทั่วโลกจึงแสดงท่าทีชัดเจนว่าต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการลดการตัดไม้ทำลายป่าในประเทศเพื่อคงไว้ซึ่งปอดของโลก

เฉกเช่นในปี 2021 ผู้นำกว่า 100 ประเทศ ได้ตบปากให้สัญญาว่าจะเป็นตัวแทนของผืนป่าสีเขียว ในการป้องกันภัยอันตรายที่อาจนำมาสู่ป่า และตั้งเป้าว่าจะร่วมกันฟื้นฟูผืนป่าภายในปี 2030

แต่ดูเหมือนตัวเลขการประเมินการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลกจะย้อนแย้งกับเป้าหมายที่หลาย ๆ ประเทศตั้งร่วมกัน ในปีที่แล้ว อัตราการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ซึ่งคิดเป็นพื้นที่ป่าราว 6.6 ล้านเฮกตาร์

ตัวเลขที่ออกมานี้ กลุ่มที่ประเมินตัวเลขการตัดไม้ทำลายป่าได้สื่อสารต่อเรื่องนี้อย่างชัดเจนว่า ความเสื่อมโทรมของป่าไม้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และน่ากังวล


เสื่อมโทรมอย่างไร?

ความเสื่อมโทรมที่ว่าก็คือ ป่าไม้ยังคงเกิดไฟป่าขึ้นอยู่เรื่อย ๆ จนสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพไป ซึ่งผลกระทบตรงนี้ทำให้สุขภาพของป่าโดยรวมย่ำแย่ลง

"ข้อมูลปีต่อปี มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวล" เอริน แมตสัน ผู้ประเมินในครั้งนี้ กล่าว

"แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่าก็คือ ตั้งแต่ปี 2018 ? 2020 เรามีแนวโน้มว่ากำลังเดินไปในทางที่ผิด"

แม้ผู้เชี่ยวชาญจะเตือนว่า เรากำลังเดินไปในทางที่ผิด แต่ก็ใช่ว่าตัวเลขการตัดไม้ทำลายป่าจะติดลบไปเสียหมด เพราะมีถึง 50 ประเทศ ที่ถือว่ายังอยู่ในเส้นทางที่จะยุติการตัดไม้ทำลายป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินโดนิเซีย บราซิล และมาเลเซีย 3 ประเทศนี้ สูญเสียพื้นที่ป่าน้อยลง แต่ 3 ประเทศที่ยกมานี้ ก็มีเรื่องที่ต้องกังวล

ประเทศอินโดนีเซีย ที่แนวโน้มการสูญเสียพื้นที่ป่าลดลงเพราะถูกเชื่อมโยงอยู่กับการระงับการตัดไม้ทำลายป่าชั่วคราว ทว่าสิ่งที่น่าเป็นกังวลคือ กฎหมายใหม่เกี่ยวกับการสร้างงาน ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมุ่งมั่นที่ประเทศอินโดนีเซียปูมาได้ดีกับเรื่องการดูแลรักษาป่า

ส่วนประเทศบราซิล ความสนใจส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ป่าแอมะซอนเพราะเป็นระบบนิเวศแห่งใหญ่ของประเทศ มีคนให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ มีการสร้างความรู้ความเข้าใจ และรณรงค์ไม่ให้ตัดไม้ทำลายป่า แต่ผลกรรมก็ไปตกที่ทุ่งหญ้าเซอร์ราโด้ (Cerrado) แทน ทุ่งหญ้านี้มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบจากการทำลายป่ามากขึ้นเรื่อย ๆ


ทำไมการตัดไม้ถึงส่งผลเสียต่อโลก

เป็นที่เข้าใจกันดีว่า ต้นไม้คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนฯ ก่อนที่จะลอยออกสู่ชั้นบรรยากาศของโลก

ดังนั้น การตัดไม้ทำลายป่าจึงเปรียบได้กับการตัดแขนตัดขาตัวช่วยสำคัญของโลก ในการผ่อนมลพิษที่โลกได้รับให้ทุเลาลง

ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาบอกว่า

หากโลกของเราเกลี้ยงเตียน ไม่มีพื้นที่สีเขียวอยู่เลย โลกของเราจะได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์เต็ม ๆ เพราะไม่มีต้นไม้คอยดูดซับ หรือสะท้อนรังสีความร้อนออกไป นอกจากนี้ยังมีผลเสียอีกมากมายที่โลกของเราจะได้รับหากขาดต้นไม้ไป ถือเป็นโจทย์ให้กับทุกประเทศว่าจะดำเนินมาตราการฟื้นฟูผืนป่าต่อไปอย่างไร


https://www.nationtv.tv/gogreen/378934209

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:16


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger