#1
|
||||
|
||||
6 knights in Taal Volcano
ชื่อเรื่องดูตื่นเต้นดีมั้ย อิอิ
ตอนแรกได้ทำรูปเล่าเรื่องฉบับการ์ตูนเรื่องเที่ยวที่ภูเขาไฟตาอัลเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ตัดสินใจเขียนเรื่องขึ้นมาใหม่จะดีกว่าเพราะ พอมาย้อนอ่านดูแล้วมันแปลกๆ ด้วยความ พยายามที่จะทำให้เรื่องราวมันดูสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจ แต่ความทรงจำตอนไปเที่ยวมันไม่ ค่อยสนุกเท่าไหร่อ่ะ เรื่องมันก็เลยออกมาแป๊กมากๆ เอาเป็นว่าเขียนเรื่องใหม่ลงจะดีกว่านะ การไปเที่ยวครั้งนี้ออกจะแปลกประหลาดอยู่ซักหน่อยตรง ที่ไปเที่ยวก็ไปพร้อมกัน มีคนนึงมีความสุขสนุกสนานสุดขีด แต่ก็มีอีกคนนึงเครียดวิตกกังวลตื่น กลัวสุดขีดอีกเหมือนกัน ส่วนคนอื่นๆก็หลดหลั่นกันลงมา เรื่องราวจะเป็นยังไง มาติดตามดูกันค่ะ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sugary : 19-05-2009 เมื่อ 16:59 |
#2
|
||||
|
||||
ภูเขาไฟตาอัล
ขี่ม้าชมยอดปล่องภูเขาไฟตาอัล นี่เป็นการเที่ยวต่อเนื่องหลังจากการดำน้ำที่ Puerto Galera และ Anilao พวกเรามีสมาชิก 6 คนด้วยกันที่จองตั๋วเครื่องบินกลับให้ล่าช้าไปอีกหนึ่งวัน เพราะจะได้ ราคาถูกกว่า เลยทำให้เรามีเวลาว่างสำหรับอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ได้อีก 1 วัน โดยเอาส่วนต่าง ราคาค่าตั๋วมาเที่ยวแทน แผนการท่องเที่ยวที่นี่จึงเกิดขึ้น เริ่มจากหาข้อมูลค่ะ เราจะไปเที่ยวไหนดีที่อยู่ในระหว่างเส้นทางกลับจาก Anilao มา สนามบินนิ นอย เมืองมะนิลา เปิดแผนที่ดูแล้วก็ลากเส้นทางย้อนกลับมา ในแผนที่จะเห็นทะเลสาบกว้างใหญ่อยู่อันนึงใกล้ๆกับ เส้นทางกลับของเราพอดี ทะเลสาบนี้มีชื่อว่า Taal Lake อืมดูน่าสนใจ แล้วก็หาข้อมูลต่อไป Taal Lake นี้ เป็นทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟตาอัล ( Taal Volcano) แล้วที่น่าสนใจเข้าไปอีกก็ คือที่ยอดปล่องภูเขาไฟตาอัลนี้ก็ยังมีเป็นทะเลสาบอีกชั้นนึงด้วย จากรูปที่ลองค้นดูในอินเตอร์เนต ได้นั้นดูดึงดูดใจให้ไปเที่ยวชมเป็นอย่างมาก แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sugary : 19-05-2009 เมื่อ 17:06 |
#3
|
||||
|
||||
ที่ฟิลิปปินส์นี่ นอกจากจะเป็นประเทศพันเกาะ แล้วที่นี่ก็ยังเป็นประเทศที่มีภูเขาไฟอยู่เยอะแยะ
มากมาย มีทั้งที่ดับแล้ว และยังไม่ดับ ภูเขาไฟตาอัลนี่ก็เป็นภูเขาไฟอีกหนึ่งที่ที่ยังไม่ดับ ซึ่งหมาย ความว่า วันดีคืนดีก็อาจจะปะทุขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้ เรื่องราว รูปภาพและประวัติชักน่าสนใจ น่าจะไปเปิดหูเปิดตาซักครั้งนึงในชีวิตนะเนี่ย หลังจากเสนอแหล่งเที่ยววันสุดท้ายให้กับเพื่อนๆ เมื่อได้รับความเห็นชอบกลับมาแล้ว ก็เริ่มวาง แผนจองที่พัก ค้นหาทัวร์สำหรับพาเที่ยวชมยอดปล่องภูเขาไฟ และรถรับส่งก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา โดยมีแผนการคร่าวๆ คือ เช้าวันที่ 16 ออกเดินทางจากรีสอร์ทที่อนิเลา แล้วปีนขึ้นไปเที่ยวชมยอด ภูเขาไฟกัน หลังจากนั้นก็พักค้างคืนกันหนึ่งคืนที่รีสอร์ทแถวๆนั้น เช้าวันรุ่งขึ้นก็ต่อรถกลับไป สนามบิน กลับกรุงเทพกัน อืม ฟังดูดี ฟังดูดี เหมือนจะง่ายดายแต่การหาข้อมูลและจองที่พักที่นี่จะเรียกว่ายากก็ได้ เพราะ กว่าจะลงตัว ใช้เวลาหาข้อมูลเป็นเดือน เฮ้อ นานจริง คงเป็นเพราะว่าที่นี่ไม่ได้เป็นที่โด่งดังเป็นที่ รู้จักมาก แต่สุดท้ายก็ลงตัวในที่สุดแต่ก็ฉิวเฉียดก่อนเวลาเดินทางจริงไม่ถึง 2 อาทิตย์ดี ด้วยใจ ตุ้มๆต่อม |
#4
|
||||
|
||||
เจ็ดโมงเช้าของวันที่ 16 ที่ Balai Resort รถตู้ที่ที่นัดไว้ก็มารับพวกเราอย่างตรงเวลา พอคนขับรถ
เห็นกองสัมภาระของเราทั้ง 6 คนแล้วก็ตกตะลึงในความอลังการ ถึงขนาดใส่ในรถไม่พอต้องเอา ขึ้นหลังคากันเลยทีเดียว |
#5
|
||||
|
||||
ยกสัมภาระเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันได้ เส้นทางที่รถขับผ่านไปจะเลาะเรียบไปตามยอดเขา
สันเขาบ้าง ยิ่งขับก็ยิ่งลดเลี้ยว ชวนให้เมารถเป็นอย่างยิ่ง เลยตัดสินใจว่า หลับๆไปดีกว่า ไม่งั้นได้ มีการขอถุงมารองปากผูกคอไว้แน่ๆ หุหุ ระหว่างทางคนขับรถก็แวะให้จอดชมวิวบ้างเป็นระยะๆ แถมคนขับรถก็ยังหันมาสบตาหวานเยิ้ม กับพี่ติ่งเป็นระยะๆ อีกด้วย ... อึ๋ย ... มันยังไงกันแน่นะ รถสองคันนี่เป็นรถพื้นถิ่นหน้าตาเก๋ไก๋มาก |
#6
|
|||
|
|||
รูปเปิดสวยจัง
รอชมต่อจ้า
__________________
มีใจเป็นมิตร มีจิตเป็นเพื่อน |
#7
|
||||
|
||||
พอ 9 โมงเช้า รถก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่ T House Resort ในเมือง ตะไกไต (Taygay) เป็นบูติครีสอร์ทเล็กๆ ที่น่ารักเก๋ไก๋อีกแล้ว
เห็นแล้วชื่นชอบใจจัง แวะเช็คอินและเคลียร์เรื่องเงินๆทองๆ กันอยู่ซักพักนึง แล้วก็รีบลากสัมภาระกองโตๆ เข้าไปเก็บของในห้อง วางของและเข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้วพวกเราก็รีบออกเดินทางเพื่อไปเที่ยว เพราะกลัวว่าแดดจะร้อน |
#8
|
||||
|
||||
แล้วความขลุกขลักก็เริ่มเกิดขึ้น
เพราะหลังจากนี้ต่อไปก็ไม่รู้ข้อมูลอะไรอีกแล้ว เรียกว่าเที่ยวกันแบบมั่วๆนิดนึง ต้องขออภัยอัศวินทั้งหกไว้ณ ที่นี้ด้วยนะคะ พวกเราก็เลยใชิวิธีพยายามถามเอาจากคนขับรถซึ่งก็บอกอะไรเราได้ไม่มาก แล้วเค้าก็มาส่งเราที่ริมทะเลสาบแนะนำให้รู้จักคุณป้าคนนึงแล้วคนขับรถก็หายตัวไป คุณป้าที่มารับช่วงต่อ ถือเสื้อชูชีพมาแจกคนละตัว แล้วก็หมวกคนละใบเอามาขาย แต่ก็ไม่ได้มีการแนะนำอะไรมากมาย เค้ารางเริ่มเห็นท่าจะไม่ดีพวกเราเลยรีบต้องซักถามโปรแกรมและกำหนดการกันเป็น การใหญ่ และที่จองมานี่ก็ไม่มีอาหารกลางวันรวมอยู่ด้วยมองไปรอบด้านก็ไม่เห็นมีที่พอจะให้กินข้าวกันได้ ก็สอบถามคุณป้าไปว่าจะทานได้ที่ไหนบ้าง คุณป้าก็บอกว่าที่นี่ก็มีขายให้สั่งเอาไว้แล้ว พอกลับลงมาก็จะได้ทานกันได้เลย พวกเราก็ค่อยโล่งใจหน่อย ... เง้อ แล้วทำไมไม่รวมมาในแพคเกจด้วยเนี่ย ในรูปนี่คือริมฝั่งทะเลสาบที่เราจะนั่งเรือข้ามไปยังภูเขาไฟตรงกลาง |
#9
|
|||
|
|||
อุ๊ย รีสอร์ตน่ารัก ฮิปมาก
|
#10
|
||||
|
||||
หลังจากการเจรจาที่ดูตามมีตามเกิด เสร็จสิ้นลงพร้อมได้เสบียงและน้ำดื่มจากร้านค้าเล็กๆฝั่ง
ตรงข้าม แล้วก็คว้าเสื้อชูชีพคนละตัวใส่เสร็จก็เดินลงเรือที่มาจอดรออยู่ริมท่าเรียบร้อยแล้ว เรือที่นี่ก็หน้าตาคล้ายๆเรือบังก้า ที่เราใช้กันตอนไปดำน้ำนั่นแหล่ะ แต่จะแตกต่างหน่อยก็ตรงที่รูป ทรงของหัวเรือกับท้ายเรือของที่นี่ดูจะตั้งฉากเก๋ไก๋ไปอีกแบบ เอิ๊ก ชอบใจ |
|
|