เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 02-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุโซนร้อน ซินลากูบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563

อนึ่ง พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู)บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 160 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม ในเช้าวันนี้ ( 2 ส.ค. 63 ) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศลาวในระยะต่อไป และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 2 - 4 ส.ค. 63 ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ส่วนในวันที่ 5 - 7 ส.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

อนึ่ง พายุดีเปรสชัน (ระดับ 2) บริเวณชายฝั่งเกาะไหหลำ ประเทศจีน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 2 - 3 ส.ค. 63


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 2 - 4 ส.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) (SINLAKU)" ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 02 สิงหาคม 2563

เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันนี้ (1 ส.ค. 63) พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 230 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 19.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.6 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่เมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม ในวันพรุ่งนี้ ( 2 ส.ค. 63 ) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศลาว และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ

อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้

พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้


ในช่วงวันที่ 1-2 สิงหาคม 2563

ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น

กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ

ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช


ในช่วงวันที่ 3-4 สิงหาคม 2563

ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร ตาก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์

ภาคกลาง: ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ และลพบุรี

ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี


ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563

สำหรับพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวันได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 โซนร้อน (ฮากูปิต)แล้ว คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเกาะไต้หวันและเมืองเซียงไฮ้ ประเทศจีนในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค. 63 ซึ่งพายุระดับ 3 โซนร้อน (ฮากูปิต) นี้ ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 02-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เรือเฟอร์รี่ถูกคลื่นซัดจมกลางทะเลเกาะสมุย ช่วยได้ 9 คน ยังสูญหาย 7 คน

เรือราชาเฟอร์รี่เกาะสมุยเที่ยวเหมาบรรทุกสิ้นค้า เจอคลื่นลมแรงล่มกลางทะเล ผู้ว่าฯรุดอำนวยการช่วยได้แล้ว 9 ราย คาดว่ายังคงสูญหายอีก 7 ราย เจ้าหน้าเร่งระดมค้นหา



เมื่อกลางดึกวันที่ 1 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 22.00 น. พนักงานท่าเทียบเรือโดยสารเฟอร์รี่ ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ท่าเทียบเรือเกาะสมุย ได้รับแจ้งจากกับตันเรือเฟอร์รี่ราชา 4 ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ จำกัดที่บรรทุกสิ้นค้า ออกจากท่าเทียบเรือของบริษัทราชาเฟอร์รี่ อ.เกาะสมุย มุ่งหน้า อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ว่าเรือเจอคลื่นแรง จนทำให้ตัวเรือเอียง ก่อนจะอับปาง เกิดเหตุบริเวณระหว่างเกาะสี่ เกาะห้า ห่างจากท่าเทียบเรือฝั่ง อ.เกาะสมุย ประมาณ 5 ไมล์ทะเล จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำเกาะสมุย ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเกาะสมุย ออกทำการช่วยเหลือ

ต่อมา นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางบัญชาการเหตุการณ์ ณ ท่าเทียบเรือราชาเฟอร์รี่ ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย ร่วมกับนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย พร้อมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเกาะสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย ทหารเรือ โดยได้ตำรวจน้ำได้ส่งเรือตรวจการณ์ร่วมกับราชาเฟอร์รี่ ส่งเรือ R6 และ R10 เข้าช่วยเหลือลูกเหลือซึ่งตามที่ได้รับแจ้งเบื้องต้นมีจำนวนทั้งหมด 16 ราย


นายวิชวุทย์ เผยอีกว่า เรือเฟอร์รี่ลำดังกล่าวที่ประสบอุบัติเหตุล่มกลางทะเล เป็นเรือเช่าเหมาลำบรรทุกสิ้นค้า ไม่ได้มีการให้บริการบรรทุกผู้โดยสาร เดินทางออกจากเกาะสมุยเมื่อเวลาประมาณ 20.48 ออกจากท่าเทียบเรือบริทัษราชาเฟอร์รี่ ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยเรือลำดังกล่าว ได้บรรทุกรถสิบล้อพ่วงจำนวน 3 คัน และรถกระบะอีก 1 คัน มีลูกเรือจำนวน 12 คน คนขับรถบรรทุกและรถกระบะจำนวน 4 คน เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด โดยในช่วงเกิดเหตุคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง

ด้าน ร.ต.ต.ศิรวิทย์ นาคมุสิก รอง สว.ตำรวจน้ำเกาะสมุย เปิดเผยว่าได้นำเรือตำรวจน้ำพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ออกไปทำการช่วยเหลือ พบผู้ที่เดินไปเรือเฟอร์รี่ลำดังกล่าวจำนวน 9 คน เกาะห่วงยางลอยคออยู่ในทะเล เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าช่วยเหลือ แต่ไม่พบซากเรือเฟอร์รี่ที่ประสบเหตุ คาดว่าน่าจะจมลงใต้ทะเลแล้ว ส่วนผู้ที่เดินทางไปกับเรือลำดังกล่าวอีก 7 คนที่เหลือ เจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาแต่ยังไม่เจอ โดยทางเจ้าหน้าที่ยังระดมกันออกค้นหาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนนี้


https://www.thairath.co.th/news/local/south/1901757

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 02-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ประมงเรือเล็กสวนสนเพ ..ร้อง !โครงการสร้างเขื่อนกันตลิ่งริมหาดสวนสนทำเดือดร้อน

ระยอง - ประมงเรือเล็กสวนสนเพ ร้อง..โครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมหาดสวนสนทำเดือดร้อน ทั้งน้ำทะเลเปลี่ยนสีกระทบท่องเที่ยว ดำเนินวิถีประมงหาหอยเสียบ ปูลม ฯลฯ ไม่ได้ วอนเจ้าของโครงการแก้ไขด่วน



วันนี้ ( 1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายสมพร พันธุมาศ ประธานกลุ่มประมงเรือเล็กสวนสนเพ ต.แกลง อ.เมืองระยอง ว่าชาวประมงซึ่งหากินบริเวณชายหาดสวนสน ด้วยการหาหอยเสียบ หาเคยทำกะปิ จับปูลม รวมทั้งวางอวนปู ?ปลา กำลังได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล (เขื่อนป้องกันตลิ่งแบบขั้นบันได) ตั้งแต่บริเวณสะพานปากคลองไปถึงเขตสวนพฤกษศาสตร์สวนสนระยะทางยาว 520 เมตร ซึ่งดำเนินงานโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองกระทรวงมหาดไทย

เนื่องจากการก่อสร้างโครงการดังกล่าวที่มีระยะเวลาดำเนินงานถึง 990 วันและจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ ด้วยงบดำเนินการกว่า 44 ล้านบาท กำลังทำให้ชาวประมงไม่สามารถทำมาหากินตามวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมได้ หลังมีการรถแบคโฮขุดเข้าขุดลอกบริเวณชายหาดที่มีระยะทางยาวตลอดโครงการฯ จนทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสี และยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่กล้าลงเล่นน้ำ



นายสมพร ยังกล่าวอีกว่าวิถีชีวิตชุมชนชายฝั่งที่มีมานาน คือการทำประมงวางอวนปู และปลา รวมทั้งหาเคยเพื่อทำกะปิ และหาหอยเสียบมาดองขาย จับปูลมขายแม่ค้าส้มตำ แต่ในวันนี้ทุกคนไม่สามารถทำเช่นนั้นได้จากการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ที่นอกจากจะมีการนำรถแบ็คโฮขุดลอกบริเวณชายหาดยาวเป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร

และจากการลงสำรวจพื้นที่ของผู้สื่อข่าวยังพบว่ามีการทิ้งซากเสาปูนและเสาโครงเหล็กเกลื่อนชายหาด จนทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าลงเล่น

เมื่อสอบถามไปยังผู้ควบคุมโครงการฯ ได้รับคำชี้แจงว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดลอกทรายชายหาดขึ้นมากองกั้นระหว่างพื้นที่การทำงานในบางส่วนแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้ยังมีน้ำขุ่นบริเวณด้านหน้ากองทรายเป็นบางส่วน

แต่เชื่อว่าในระยะ 2-3 วันนี้เมื่อมีการนำรถมาขนย้ายเศษซากเสาปูนที่กองบริเวณชายหาดขึ้นไว้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มชาวบ้านได้ในระดับหนึ่ง


https://mgronline.com/local/detail/9630000078686

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:38


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger