#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ อนึ่ง ในช่วงวันที่ 17-20 ธันวาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและอันดามันมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 1?2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2-3 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 15 - 16 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 17 - 21 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 6 - 8 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ทะเลอันดามันห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง และอันตรายที่อาจเกิดจากลมแรง และในช่วงวันที่ 17 - 19 ธ.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ****************************************************************************************************** ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 4 (350/2565) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 17 ? 20 ธันวาคม 2565) ในช่วงวันที่ 17-20 ธันวาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบอุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ วันที่ 17 ธันวาคม 2565 ภาคใต้: จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ในช่วงวันที่ 18 - 19 ธันวาคม 2565 ภาคใต้: จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยและทะเลอันดามันบริเวณห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2565
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ทัวร์ลง! นักท่องเที่ยว 2 หนุ่ม-สาวอัดคลิปลงติ๊กต็อก หมิ่นสุสานหอย 75 ล้านปี กระบี่ - อัดคลิปลงติ๊กต็อก สุสานหอย 75 ล้านปี เก็บค่าเข้าชม 40 บาท แวะซื้อขนมปังที่เซเว่นฯ ยังคุ้มกว่า ทำทัวร์ลงสนั่นโซเชียล ขณะที่ชาวกระบี่โวยไม่ศึกษาก่อนมาเที่ยว และยังดูหมิ่นไม่ให้เกียรติสถานที่ ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว จ่อแจ้งความดำเนินคดี วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลได้มีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม เมื่อผู้ใช้แอปพลิเคชันติ๊กต็อกชื่อ ?mansri88? ได้มีการโพสต์คลิปลงติ๊กต็อกระหว่างที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ พร้อมกับเพื่อนชายอีก 1 คน มีอยู่ตอนหนึ่งขณะที่กำลังเดินทางไปถึงสุสานหอย 75 ล้านปี หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นเอกลักษณ์ของของจังหวัดกระบี่ กลับแสดงท่าทางผิดหวัง แล้วยังใช้ถ้อยคำที่หยาบคายพูดถึงสุสานหอย เช่น มาแล้วผิดหวัง ไม่มี...อะไรเลย เสียค่าเข้าชมสี่สิบบาท แวะซื้อขนมปังเซ่เว่นฯ ยังคุ้มกว่า... แถมยังพูดถึงแผ่นพื้นที่เกิดการทับถมฟอสซิลของสุสานหอยว่า เหมือนปูนซีเมนต์ที่เททับกัน ส่วนเพื่อนชายอีกคนที่มาด้วยกันก็พูดในลักษณะเดียวกันพร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ย..... เท่านั้นยังไม่พอ ก่อนจบคลิปชายคนดังกล่าวยังบอกไปยังผู้ติดตามติ๊กต็อกอีกว่า ?ไม่ต้องมาสุสานหอยหรอก! อี ด.ก? ดูถนนซีเมนต์แถวบ้านก็ได้ ภายหลังได้มีการแชร์ในโลกออนไลน์ ปรากฏว่า เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสมโดยเฉพาะสังคมโซเชียลในจังหวัดกระบี่ ต่างออกมาประณามถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของของบุคคลในคลิป เช่น คนกระบี่ไม่โอเคกับคำพูดที่หยาบคาย ดูถูกสุสานหอยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดกระบี่มาอย่างยาวนาน ต้องออกมาขอโทษชาวกระบี่ คนทำคลิปไม่มีความรู้อะไรเลย ไม่ศึกษาให้ดีก่อนมาเที่ยว คนกระบี่ไม่ขำด้วย และยังพูดจาหมิ่น ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ บางคนบอกว่า สุสานหอยมีอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เป็นเจ้าของสถานที่ สามารถแจ้งความเอาผิดได้ ด้านนายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร กรรมการที่ปรึกษาหน่วยอนุรักษ์วัฒนธรรมและศิลปกรรมท้องถิ่น จ.กระบี่ กล่าวว่า คนที่ทำคลิปใช้ภาษาไม่เหมาะ ไม่ควรเน้นจะทำคลิปเอายอดวิว โดยขาดความรู้ในพื้นที่ที่จะมาชม ทำแบบคนไร้การศึกษา ที่นี่คือ สุสานหอยน้ำจืด หนึ่งเดียวของโลกที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา เมื่อ 35 ล้านปีมาแล้ว มีอยู่ 3 พื้นที่ ทางธรณีวิทยาเรียก สุสานหอยบ้านแหลมโพธิ์ 1 สุสานหอยบ้านแหลมโพธิ์ 2 คือพื้นที่ในคลิปที่พวกคุณเดินเหยียบย่ำอยู่เป็นลานหินสุสานขนาดใหญ่ และสุสานหอยบ้านแหลมโพธิ์ 3 ที่จริงแล้ว มีรายละเอียดของข้อมูลให้อ่านอยู่ที่บริเวณลานหิน แต่คงไม่อ่าน มุ่งแต่จะทำคลิปอย่างเดียวมากกว่า เป็นการดูถูกสถานที่และทำร้ายจิตใจชาวกระบี่ สำหรับสุสานหอย 75 ล้านปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกระบี่ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี บ้านแหลมโพธิ์ หมู่ที่ 6 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ลักษณะแผ่นที่มองเห็นคล้ายปูนซีเมนต์เกิดจากการทับถมของฟอสซิลซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดส่วนใหญ่เป็นหอยขม ซากหอยเหลานี้ได้ทับถมกันโดยมีน้ำประสานธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็งทับอยู่ชั้นหินลิกไนต์ และหินดินดาน และจากหลักฐานด้านธรณีวิทยา พบว่า อายุของสุสานหอยประมาณ 20-40 ล้านปี และทางกรมทรัพยากรธรณีได้ประกาศให้สุสานหอยฯเป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ ที่ขึ้นทะเบียน เมื่อปี พ.ศ.2560 ปัจจุบันยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางมาเที่ยวชมไม่ขาดสาย และศึกษาเรียนรู้ https://mgronline.com/south/detail/9650000118913
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
ตอบปม! สุสานหอย 75 ล้านปีของจริง-บางส่วนน้ำกัดเซาะพัง กรมทรัพยากรธรณี แจงปมหนุ่มรีวิวเที่ยวสุสานหอยแหลมโพธิ์ จ.กระบี่ เทียบแค่แผ่นปูนซีเมนต์ ชี้อายุ 40-20 ล้านปีเป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ชายฝั่งทะเลยาว 2 กม.ทีขึ้นทะเบียนปี 2560 ชี้บางจุดเจอกระแสน้ำกัดเซาะจนซากหอยหายไป กรณีผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok รายหนึ่ง โพสต์คลิปรีวิวสุสานหอย 75 ล้านปี แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจ.กระบี่ ในทำนองว่าเหมือนปูนซีเมนต์เททับกัน ไม่มีหอย ทำให้เกิดการวิจารณ์ในวงกว้าง และต้องการให้ชายคนดังกล่าวออกมาขอโทษชาวกระบี่ วันนี้ (15 ธ.ค.2565) กรมทรัพยากรธรณี แจงข้อมูลเรื่องสุสานหอยแหลมโพธิ์ 75 ล้านปี จ.กระบี่ ระบุว่า สุสานหอยแหลมโพธิ์ แหล่งท่องเที่ยวที่รู้จักกันในนามของ ?สุสานหอย 75 ล้านปี? แห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี บริเวณชายฝั่งทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ สถานที่แห่งนี้ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ.2507 โดยนายภุมวาร โกมลารชุน พบซาก ดึกดำบรรพ์หอยน้ำจืดเป็นชั้นหนาส่วนใหญ่เป็นหอยฝาเดียวจำพวกหอยขม (วงศ์ Viviparidae) หอยคัน (วงศ์ Thiaridae) และหอยมวนพลู (วงศ์ Turritellidae) เรียงตัวอัดกันอย่างหนาแน่นคล้ายแผ่นซีเมนต์ผสมกรวดแผ่ออกไปเป็นลานกว้าง และยื่นออกไปตามแนวชายฝั่งทะเลระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร หอยที่พบบริเวณนี้เป็นหอยน้ำจืดที่ยังคงพบในปัจจุบัน ซึ่งในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไปทำให้แอ่งน้ำกลายเป็นพื้นที่แห้งแล้งฉับพลัน หอยต่างๆ ซึ่งหนีออกไปไม่ได้จึงตายอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่ชายฝั่งทะเล เนื่องจากการเพิ่มระดับของน้ำทะเลหลังจากการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกเมื่อสิ้นสุดยุคน้ำแข็ง จากการสำรวจและศึกษาวิจัยซากเรณู และสปอร์ของพืชโบราณที่พบในสุสานหอย ทำให้สามารถกำหนดอายุของสุสานหอยแหลมโพธิ์ได้ว่าอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 40-20 ล้านปี แต่ชื่อเรียกเดิม ซึ่งมีอายุ 75 ล้านปี ก็ยังคงถูกเรียกจนติดปากประชาชนในพื้นที่มาจนถึงปัจจุบัน สุสานหอยแหลมโพธิ์ ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ.2551 เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2560 จำนวน 3 ประกาศ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ อย่างไรก็ตาม บริเวณที่เป็นลานหินที่ยื่นออกไปในทะเลโดนกระแสน้ำกัดเซาะเป็นเวลานาน ทำให้ร่องรอยซากหอยโดนลบจนไม่แทบไม่เห็นรูปร่าง แนะนำให้เดินไปบริเวณที่ไม่โดนน้ำกัดเซาะ ตามโขดหินใกล้ๆ แนวชายฝั่ง จะเห็นได้ชัดเจน https://www.thaipbs.or.th/news/content/322605
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|