#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีลมแรงและมีฝนบางแห่ง ในขณะที่ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง "เนสาท" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นพายุไต้ฝุ่น คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนผ่านตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 19-20 ต.ค. 65 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับอย่างรวดเร็ว กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น โดยมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 17 ? 20 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง และมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนกลางเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 21 ? 22 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลางตลอดช่วง โดยมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เว้นแต่ในช่วงวันที่ 17 - 18 ต.ค. 65 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง "เนสาท" บริเวณตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน ในวันที่ 16 ต.ค. 65 โดยคาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนผ่านตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 19 ? 20 ต.ค. 65 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับอย่างรวดเร็ว ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 17 ? 20 ต.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง และประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วยตลอดช่วง ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 17 - 18 ต.ค. 65 นี้ไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
"ดร.ธรณ์" เปรียบ "อ่าวมาหยา" 5 ปีที่ผ่านมาระบบนิเวศสมบูรณ์หลังไร้สิ่งคุกคาม ขอบคุณที่ช่วยกันคืนสวรรค์ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม โพสต์ภาพเปรียบเทียบอ่าวมาหยาระหว่างปี 2560 กับปี 2565 ชี้สวยงาม อุดมสมบูรณ์ขึ้นมากหลังไร้สิ่งคุกคามระบบนิเวศ ขอบคุณคนไทยคืนสวรรค์ที่อ่าวมาหยา อีกทั้งยังสามารถทำให้นักท่องเที่ยวมีความสุขบนหาดโดยไม่กระทบธรรมชาติ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. เฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat" หรือ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเปรียบเทียบอ่าวมาหยาในปี 2560 กับปี 2565 ที่สื่อให้เห็นถึงความสวยงามของอ่าวมาหยาเมื่อไร้สิ่งก่อกวนหรือสิ่งที่คุกคามระบบนิเวศในอ่าวมาหยา โดย ผศ.ดร.ธรณ์์ได้ระบุข้อความว่า "ผมตั้งใจทำภาพเปรียบเทียบ before/after ที่อ่าวมาหยา เพื่อบอกว่าการท่องเที่ยวยุคก่อนกับยุคนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง ภาพบนปี 2560 ภาพล่างเพิ่งถ่ายวันนี้ สิ่งที่ชัดเจนคือเรือหายไปหมด เรือคือสิ่งคุกคามระบบนิเวศในอ่าวมาหยา เรือมากมายทำให้ตะกอนฟุ้งกระจาย เรือมากมายทิ้งสมอในแนวปะการัง เรือมากมายวิ่งไปวิ่งมาจนฉลามไม่สามารถใช้อ่าวมาหยาเป็นบ้าน เรือมากมายยังทำให้อ่าวมาหยากลายเป็นที่จอดเรือ ไม่ใช่อ่าวสวยที่สุดในโลก ซึ่งนั่น มันเกินไป มันเจ็บใจ มันเจ็บปวด มันบาดลึกในหัวใจคนรักทะเล พวกเราจึงลุกขึ้นมา "ช่วยกัน" ในคืนที่ฟ้ามืดถึงที่สุด "ช่วย" ใช้การลงมือทำ "ช่วย" มุ่งหวังที่ผลลัพธ์มันจะเกิดขึ้นให้จงได้ ในวันนี้ อ่าวมาหยาเปิดอีกครั้ง แต่ไม่มีเรือมากมายอีกแล้ว ในอ่าวมีเพียงปะการังที่กำลังเติบโต มีฝูงฉลามที่กลับมา "บ้าน" เป็นภาพที่ตอบคำถามว่า เปิดท่องเที่ยวในอ่าวมาหยาอีกครั้ง ทุกอย่างจะกลับไปสู่ความเศร้าในอดีตอีกหรือไม่? ความหวังจะเป็นเพียงแสงเทียนวูบเดียวในค่ำคืนแห่งพายุหรือเปล่า? คำตอบคือไม่! เป็นคำตอบที่เพื่อนธรณ์สามารถเห็นด้วยสายตา ปะการังยังอยู่ในน้ำ ฉลามยังอยู่ในทะเล และนักท่องเที่ยวในจำนวนที่ได้รับการควบคุมดูแลอย่างดี ยังมีความสุขบนหาด มีความสุขกับการถ่ายภาพคู่อ่าวสวยที่สุดในโลก! และนั่น เพียงพอแล้วสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรา "ช่วยกัน" ทำมา ปฏิบัติการคืนสวรรค์ที่อ่าวมาหยา ผลงานก้องโลกด้วยฝีมือคนรักทะเลไทย สำเร็จ ครบถ้วน บริบูรณ์ " https://mgronline.com/onlinesection/...pNuuMPAqRlmvyE
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|