เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,526
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2567

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 4 ? 9 มิถุนายน 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก

สำหรับในช่วงวันที่ 3 ? 4 มิ.ย. 67 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 5 ? 9 มิ.ย. 67 บริเวณทะเลอันดามันตอนบน ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ตลอดช่วง






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,526
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


เฮ! แม่เต่าตนุขึ้นวางไข่ 129 ฟอง หาดอ่าวเทียน ประจวบฯ จนท.เฝ้าระวัง 24 ชม.

แม่เต่าตนุที่พบตามธรรมชาติ ขึ้นวางไข่รังที่ 2 จำนวน 129 ฟอง ที่อ่าวเทียน อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ จนท.จัดทำคอกกั้นและเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. เพื่อให้ปลอดภัยจากสัตว์และคนที่เข้ามารบกวน



เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า ได้จัดชุดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังการขึ้นวางไข่ของแม่เต่าตนุ บริเวณอ่าวเทียน และ บ.ท่าเรือประจวบ จำกัด ในท้องที่หมู่ที่ 3 ต.เเม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.67 ต่อเนื่องจนถึงเวลา 01.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบแม่เต่าตนุขึ้นวางไข่บริเวณอ่าวเทียน จำนวน 1 รัง พิกัด UTM 47 P 563020 E 1238223 N ซึ่งอยู่นอกเขตพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ)

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบรอยตำหนิบริเวณพายหลังของกระดองด้านซ้ายมีลักษณะแหว่ง และได้ทำการสแกนหาหมายเลขไมโครชิพ ไม่พบหมายเลขดังกล่าว โดยแม่เต่าตนุตัวนี้เป็นแม่เต่าที่พบตามธรรมชาติ เคยขึ้นวางไข่บริเวณ บ.ท่าเรือประจวบ จำกัด เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2563 เนื่องจากมีรอยตำหนิที่เดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงทำการฝังหมายเลขไมโครชิพ 900219001878515 โดยนับเป็นรังที่ 2 ของปี 2567 มีรายละเอียดดังนี้ ขนาดลำตัว กว้าง 84 เซนติเมตร ยาว 97 เซนติเมตร ขนาดของหลุมกว้าง 20 เซนติเมตร ลึก 31 เซนติเมตร ห่างจากน้ำทะเล 16 เมตร รอยพาย 95 เซนติเมตร จำนวนไข่ที่พบทั้งหมด 129 ฟอง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้จัดทำคอกกั้นและเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. เพื่อให้ปลอดภัยจากสัตว์และคนที่เข้ามารบกวน


https://www.dailynews.co.th/news/3498126/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,526
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


เขียวอีกแล้วทะเลบางแสนหลังฝนหนักช่วงหลายวันที่ผ่านทำปรากฏการณ์?แพลงก์ตอน?บลูมเกิดถี่

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เขียวอีกแล้วน้ำทะเลชายหาดบางแสน นักท่องเที่ยวบางส่วนเริ่มชินปรากฏการณ์แพลก์ตอนบลูม พากันลงเล่นน้ำคลายร้อนตามปกติ ขณะบางส่วนบอกยังไม่กล้าเสี่ยงเลือกนั่งรับประทานอาหารริมทะเล ก่อนพาครอบครัวเดินทางกลับ



วันนี้ ( 3 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าน้ำทะเลบริเวณชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี ได้กลับมามีสีเขียวข้นอีกครั้งจนทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาพักผ่อนไม่กล้าให้ลูกหลานลงเล่นน้ำ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายและเลือกที่จะสั่งอาหารทะเล ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง นั่งรับประทานในพื้นที่เตียงผ้าใบ และพื้นที่ว่างที่เทศบาลเมืองแสนสุข จัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น

แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่เริ่มชิ้นกับสภาพการเกิดแพลงก์ตอนบลูม บริเวณชายหาดบางแสนที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และได้พากันลงเล่นน้ำตามปกติด้วยความสนุกสนาน

จากการสอบถาม นายทองชั้น เที่ยงอยู่ อายุ 50 ปี นักท่องเที่ยวที่พาครอบครัวเดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ ทราบว่าสมาชิกในครอบครัวยังไม่กล้าลงเล่นน้ำทะเลสีเขียวเพราะ รู้สึกแปลก แต่ยังโชคดีที่น้ำทะเลในวันนี้ยังไม่มีกลิ่นเหม็นคาว จึงทำให้ยังคงนั่งรับประทานอาหารบริเวณชายทะเลได้ตามปกติ

ขณะที่ น.ส. นันท์นภัส ลิ้มวุฒิพงษ์ อายุ 48 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้าชายหาดบางแสน บอกว่าสาเหตุที่ทำให้น้ำทะเลบางแสนกลับมาเป็นสีเขียวอีกครั้ง เพราะในช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จนทำให้มีน้ำจืดไหลลงทะเลจำนวนมาก แต่หากในช่วงหลังจากนี้ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มก็เชื่อว่าสถานการณ์น้ำทะเลบริเวณชายหาดบางแสนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

"ปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูม ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ยังไม่พบว่ามีปลาตาและยังไม่มีกลิ่นเหม็นซึ่งน้ำทะเลที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวเพราะเกิดจากการขาดออกซิเจนในน้ำจึงทำให้สาหร่ายตาย ซึ่งหากคนที่ลงเล่นน้ำไม่มีอาการแพ้ก็สามารถเล่นน้ำได้ตามปกติ เพียงแต่เมื่อขึ้นจากทะเลแล้วให้รีบอาบน้ำล้างตัวให้สะอาด ส่วนคนที่มีผิวหนังแพ้ง่ายก็ไม่แนะนำให้ลงเล่นน้ำทะเลในช่วงนี้เช่นกัน" แม่ค้าขายเสื้อผ้าชายหาดบางแสน กล่าว


https://mgronline.com/local/detail/9670000047595

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,526
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


กรมทรัพย์ฯ แจงเหตุแผ่นดินไหวเกาะสมุย จากการเลื่อนตัวของรอยแตกในหินแกรนิต



สุราษฎร์ธานี - กรมทรัพยากรธรณีเผยสาเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะสมุย ติดต่อกัน 2 ครั้ง ภายใน 2 วัน ระบุเกิดจากการเลื่อนตัวของรอยแตกในหินแกรนิตที่ถูกกระตุ้นโดยพลังงานความร้อนใต้พิภพ เตรียมลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 4 -5 มิ.ย.นี้

จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวติดต่อกัน 2 ครั้ง ในอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ค.67 เวลา 08.24 น. ขนาดความแรง 2.4 ริกเตอร์ ที่ระดับความลึก 4 กิโลเมตร ที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ละติจูด 9.527 องศาเหนือ ลองจิจูด 99.939 องศาตะวันออก ที่มา กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว และวันที่ 1 มิถุนายน 2567 เวลา 08.24 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 2.2 ที่ความลึก 2 กิโลเมตร ที่ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ละติจูด 9.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 100 105 องศาตะวันออก

ซึ่งหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวติดต่อกัน 2 ครั้ง ได้สร้างความกังวลให้คนในพื้นที่ เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมาก่อน โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า แผ่นดินไหวทั้ง 2 ครั้ง จัดเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็กมาก (Micro) อยู่นอกพื้นที่ของรอยเลื่อนมีพลังและห่างจากรอยเลื่อนคลองมะรุ่ยประมาณ 80 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กรมทรัพยากรธรณี บอกว่าแผ่นดินไหวทั้ง 2 เหตุการณ์ในครั้งนี้ เกิดจากการเลื่อนตัวของรอยแตกในหินแกรนิตที่ถูกกระตุ้นโดยพลังงานความร้อนใต้พิภพ และในช่วงระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายนนี้ กรมทรัพยากรธรณีจะลงพื้นที่เกาะสมุย เพื่อเตรียมติดตั้งเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวเพื่อติดตามสถานการณ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย ได้ติดตามประเมินสถานการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวขณะเกิดแผ่นดินไหว


https://mgronline.com/south/detail/9670000047492

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,526
Default

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


ยูเอ็นคาด 'เอลนีโญ' จะเปลี่ยนเป็น 'ลานีญา' ปีนี้!



องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) คาดการณ์ สภาพอากาศเอลนีโญที่ทำให้เกิดเหตุรุนแรงอย่างไฟป่าและไซโคลนเขตร้อน จะเปลี่ยนเป็นลานีญาที่อากาศเย็นลงในปีนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานถ้อยแถลงจาก WMO มีโอกาส 60% ที่ลานีญาจะเริ่มส่งผลระหว่าง ก.ค.-ก.ย. และมีโอกาส 70% ที่จะเกิดขึ้นระหว่างเดือน ส.ค.-พ.ย.

"การสิ้นสุดเอลนีโญไม่ได้หมายความว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในระยะยาวจะสิ้นสุดลง โลกเรายังร้อนต่อเนื่องเพราะก๊าซเรือนกระจกที่กักความร้อนเอาไว้ อุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่สูงผิดปกติยังคงมีบทบาทสำคัญในช่วงหลายเดือนข้างหน้า" นางโค แบร์เร็ตต์ รองเลขาธิการ WMO กล่าว

ตามข้อมูลของ WMO เก้าปีที่ผ่านมาเป็นที่ร้อนสุดเป็นประวัติการณ์ แม้มีความเย็นบ้างจากปรากฏการณ์ลานีญาระหว่างปี 2563-ต้นปี 2566

เอลนีโญเป็นปรากฏการณ์ที่ผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกและตอนกลางอุ่นขึ้น ส่วนลานีญาเป็นปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในแถบเส้นศูนย์สูตรของแปซิฟิกเย็นลง ทำให้เกิดน้ำท่วมและความแห้งแล้ง


https://www.bangkokbiznews.com/world/1129707

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,526
Default

ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ


ผู้ว่าฯสงขลา ชี้แจง ถูกแจ้ง ม.157 ปล่อยให้กลุ่มประมงโพงพาง ทำผิดกฎหมาย

ผู้ว่าฯสงขลา แจงกรณีถูกแจ้งความมาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้ "กลุ่มประมงโพงพาง" ทำผิดกฎหมาย ยันไม่มีใครอนุญาตให้ทำผิดกฎหมายได้ ส่วนข้อเสนอขอทะเลสาบสงขลาเป็น "เขตประมงพิเศษ" ไม่ใช่อำนาจจังหวัด เป็นเรื่องเชิงนโยบาย



วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 กรณีที่นายสมโภช โชติชูช่วง อายุ 65 ปี อดีตรองผู้ว่าราชการ จ.กระบี่ ได้เข้าแจ้งความกับที่สถานีตำรวจภูฦธรเมืองสงขลา เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประมงจังหวัด ผอ.เจ้าท่าจังหวัดสงขลา และผู้กำกับการกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ (จังหวัดสงขลา) ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนจังหวัดสงขลา

จากการที่ปล่อยให้ชาวประมงโพงพางใช้เครื่องมือทำประมงผิดกฎหมายกีดขวางในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา และการปล่อยปละละเลยให้กลุ่มผู้ทำโพงพางมีการชุมนุมปิดท่าแพขนานยนต์เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 67 รวมถึงรับข้อเสนอที่จะทะเลสาบสงขลาเป็นเขตประมงพิเศษนั้น

นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า รับทราบเรื่องที่ถูกแจ้งความกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อยากจะชี้แจงข้อมูลความเป็นมาว่า ตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีใครอนุญาตให้กระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายได้ วิธีการทำงานของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน แต่ยังมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการรื้อโพงพาง การจัดระเบียบทะเลสาบสงขลา แต่กว่าจะสำเร็จอาจต้องใช้เวลา จะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ กรณีที่ทางกลุ่มผู้ประท้วงเสนอว่า เมื่อจัดระเบียบทะเลสาบสงขลา จะขอทำ "เขตประมงพิเศษ" นั้น เรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของจังหวัด ทางจังหวัดจะนำเสนอไปเชิงนโยบาย

นายสมนึกกล่าวต่อไปว่า ขอเล่าย้อนกลับไปกรณีปัญหาโพงพางที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้มีข้อร้องเรียนมาจากหลายภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากชาวประมงโพงพางที่ทำผิดกฎหมาย หลังจากนั้นประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ได้มีการเชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ดูแลเรื่องความมั่นคง อัยการจังหวัด ตำรวจภูธร

ซึ่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาติดภารกิจ มอบให้ รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา มา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ประมงจังหวัดฯ เจ้าท่าภูมิภาคฯ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) พูดคุยกันหลายประเด็นว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรให้ยั่งยืน และดูแลเรื่องผลกระทบต่าง ๆ

ในอดีตเคยมีการรื้อโพงพางไป 2 ครั้ง สุดท้ายกลับมาเหมือนเดิม และมีการกระทบกระทั่งกับกลุ่มโพงพางที่ทำผิดกฎหมาย อัยการจังหวัดเคยแนะนำว่า ในการแก้ไขปัญหาให้ยั่งยืน และลดผลกระทบในเรื่องการปะทะกัน ให้ใช้กฎหมายทั่วไป ให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบตามกฎหมายประมง เจ้าท่าไปดำเนินการในเรื่องของการแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อจะรวบรวมพยานหลักฐานนำเข้าสู่ศาล เพื่อใช้กระบวนการยุติธรรมปกติ ให้ศาลได้มีคำสั่งในการรื้อถอน หรือมีประเด็นอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นดุลยพินิจของทางศาล

หลังจากนั้นประมงได้มีการประกาศให้รื้อถอนโพงพาง ซึ่งในข้อเท็จจริงทราบกันอยู่แล้วว่า กลุ่มที่ทำโพงพางผิดกฎหมายคงไม่รื้อ เพื่อนำไปสู่กระบวนว่า เมื่อประมงออกคำสั่งให้รื้อถอน ซึ่งถือเป็นคำสั่งทางการปกครองจะได้ใช้คำสั่งตัวนี้นำไปประกอบในเรื่องของการแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ปรากฏว่า พอประมงจังหวัดออกคำสั่ง นายเดชอิศม์ ขาวทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอตัวเข้ามาเพื่อเป็นแกนกลางในการไกล่เกลี่ยกับชาวประมงในเรื่องการรื้อถอนโพงพาง ขอเวลา 90 วัน

การไกล่เกลี่ยไม่สามารถตกลงกันได้ ประมงจังหวัดกับเจ้าท่าได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อที่จะให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามที่ได้มีการวางแผนไว้แต่แรก เพราะฉะนั้น การแก้ไขปัญหา เป้าหมายเดียวกันคือ การรื้อถอนโพงพางที่ผิดกฎหมายออก แต่ใช้วิธีการแตกต่างกัน ดำเนินการตามกฎหมายในการแก้ไขปัญหา

ในขณะเดียวกัน ไม่ได้มีความประสงค์จะให้กำลังของเจ้าหน้าที่ไปปะทะกับชาวบ้าน จึงใช้ช่องทางของกระบวนการยุติธรรม และส่วนหนึ่งเพื่อที่จะให้ในระดับนโยบายได้พิจารณาดูแลในเรื่องผลกระทบ ได้ทำหนังสือในนามของจังหวัดสงขลา ถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงทั้ง 2 กระทรวง อธิบดีกรมประมง อธิบดีกรมเจ้าท่า

ใจความโดยสรุป 1.ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด 2.การดูแลผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นทั่วกัน เป้าหมายคือ แก้ไขปัญหาแล้วให้จบจริง ๆ และยั่งยืน

หลังจากนั้น วันเสาร์ที่ 25 พ.ค. 67 ตำรวจน้ำไปพบผู้ที่ทำการประมงโดยผิดกฎหมาย 2 รายซึ่งหน้า จึงได้ดำเนินการจับกุมนำเข้าสู่กระบวนการ

พอเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ค. 67 ได้มีชาวประมงโพงพางออกมาปิดท่าแพขนานยนต์ และก็เรียกร้องให้ผู้ว่าฯลงไปพบ ผมบอกผมไม่ลงไปพบคนกลุ่มใหญ่ 100 คน คุย 100 เรื่องไม่จบ เลยมอบหมายให้นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ตำรวจภูธรจังหวัด ประมงจังหวัด ฯลฯ และบอกถ้าต้องการคุยกับผู้ว่าฯให้ส่งตัวแทนมา พอพูดคุยตกลง เงื่อนไข 2 ข้อ 1.ขอประกันตัวบุคคล 2.ประกันเรือ เร่งรัดให้ทำประกันไป ส่วนเรื่องการกระทำที่ผิดกฎหมาย ไม่มีใครไปบอกให้ทำได้ ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

"ในตอนเย็นผู้ประท้วงยังปิดแพขนาดยนต์ ทางตำรวจได้ออกประกาศห้ามการชุมนุม และให้เลิกชุมนุมในตอนเย็นวันนั้น แต่ผู้ชุมนุมก็ยังไม่เลิก ถึงตอนกลางคืนทางฝ่ายผู้ชุมนุมก็ยังตกลงกันได้ไม่เบ็ดเสร็จ ส่วนหนึ่งก็อยากส่งตัวแทนมาพบผู้ว่าฯ อีกส่วนหนึ่งก็อยากให้ผู้ว่าฯ ลงไปพบ ผมก็ยืนยันเหมือนเดิมถ้าอยากคุยก็จัดส่งตัวแทนมา สุดท้ายผมบอกกับทางผู้ที่ประสานงานไปว่า พรุ่งนี้ผมให้เวลาแค่ 09.00 น. ถ้าไม่มาก็ไม่คุยด้วยแล้ว ผมก็กลับไปพักผ่อน

เช้ามา ผบก.ภ.จว.สงขลา นายเศวต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ฝ่ายประชาสัมพันธ์มานั่งกันที่ห้องทำงาน ก็หารือกัน ถ้าผู้ประท้วงไม่เลิกชุมชนจะให้ศาลสั่งสลายการชุมนุม แต่ปรากฏว่าใกล้ 08.00 น. นายอำเภอ โทร.มาหาว่าผู้ชุมนุมยอมเปิดทางให้รถลงแพขนานยนต์แล้ว และขอพบผู้ว่าฯ ก็เลยมานั่งคุยกัน เรื่องประกันคน และประกันเรือก็ได้ไปแล้ว ส่วนเรื่องการกระทำที่ผิดกฎหมาย ไม่มีใครไปบอกให้กระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายได้ ใครก็อนุญาตไม่ได้

ทั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ประท้วงมีประเด็นเพิ่มเติมที่ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ทั้งให้เจ้าท่าภูมิภาค กำหนดร่องน้ำให้ชัดเจน รวมถึงเมื่อจัดระเบียบทะเลสาบสงขลา แล้วผู้ประท้วงจะขอทำ "เขตประมงพิเศษ" นั้น

"ผมก็บอกเรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของจังหวัด ทางจังหวัดจะนำเสนอไปเชิงนโยบาย รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ หลังจากนั้นกลุ่มชาวประมงก็กลับไป แต่สุดท้ายวานนี้ (30 พ.ค. 67) ก็มีคนส่งข่าวว่า มีการแจ้งความผม ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงในการดำเนินการเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน"


https://www.prachachat.net/local-economy/news-1576617

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #7  
เก่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,526
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


ขยะล้นโลก ไร้วิธีจัดการ ขยะมากถึง 1 ใน 5 ของโลกอยู่ในอาเซียน


SHORT CUT

- ในแต่ละปี มนุษย์ทั่วโลกสร้างขยะมากถึง 2.12 พันล้านตัน แต่กลับมีการบริหารจัดการที่ไม่เหมาะสม

- ขยะส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ถูกนำไปทิ้งตามบ่อทิ้งขยะ หรือทิ้งตามแม่น้ำ และในท้ายที่สุด พวกมันก็ลอยไปอยู่ในทะเล

- หากมนุษย์เราไม่ช่วยเหลือกันอย่างจริงจัง คำกล่าวที่ว่า "ขยะล้นโลก" ก็คงจะเกิดขึ้นในอนาคต




ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหา "ขยะล้นโลก" เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกิดจากการใช้ทรัพยากรในการอุปโภค-บริโภคของมนุษย์ ร่วมรณรงค์เร่งแก้ปัญหาขยะเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน

ในแต่ละปี มนุษย์ทั่วโลกสร้างขยะมากถึง 2.12 พันล้านตัน แต่เรากลับมีการบริหารจัดการที่ไม่เหมาะสม โดยขยะส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ถูกนำไปทิ้งตามบ่อทิ้งขยะ หรือทิ้งตามแม่น้ำ และในท้ายที่สุด พวกมันก็ลอยไปอยู่ในทะเล แต่ปัญหาขยะจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นในประเทศที่มีฐานะไม่ร่ำรวย ดังนั้นหากมนุษย์เราไม่ช่วยเหลือกันอย่างจริงจัง คำกล่าวที่ว่า "ขยะล้นโลก" ก็คงจะเกิดขึ้นในอนาคต


ประเทศร่ำรวยขนขยะมาทิ้งที่ประเทศยากจนกว่า

เมื่อปลายปี 2021 สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ ประกาศนโยบายที่ตั้งเป้าว่า สหรัฐฯจะต้องมีอัตราการรีไซเคิลขยะให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2030 โดยตัวเลขเมื่อปี 2018 คาดการณ์ว่า สหรัฐฯสามารถรีไซเคิลขยะได้เพียงแค่ 32 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และมีขยะพลาสติกเพียงแค่ 8.7 เปอร์เซ็นต์ที่ถูกนำกลับมารีไซเคิลในแต่ละปี

ทั้งนี้ เนื่องจากในปี 2018 จีน ซึ่งเป็นประเทศนำเข้าขยะรายใหญ่ ประกาศจะไม่รับขยะพลาสติกจากต่างประเทศมาจัดการอีกแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการลงนามของกว่า 180 ประเทศที่จะใช้มาตรการอันเข้มงวดขึ้น ต่อประเด็นการที่ชาติร่ำรวยจะขนขยะพลาสติกไปทิ้งในประเทศยากจนกว่า อย่างไรก็ตาม แม้จีนจะไม่รับขยะพลาสติกและยังมีข้อตกลงร่วมกันของหลายชาติ แต่ในปี 2021 สหรัฐฯก็ยังคงส่งออกขยะพลาสติก 45 ล้านตันไปทิ้งในต่างประเทศอยู่ดี และมากขึ้นกว่าปี 2020 ด้วย

สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร แคนาดา ไอร์แลนด์ และเยอรมนี เคยพึ่งพาประเทศอย่างจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย เคนยา เวียดนาม และตุรกี ในการรีไซเคิลขยะ อย่างไรก็ตาม เมื่อประเทศเหล่านั้นเต็มไปด้วยขยะจำนวนมาก และไม่มีเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ที่จะจัดการขยะรีไซเคิลอย่างเหมาะสม ก็ทำให้ในท้ายที่สุดขยะเหล่านั้นได้รับการจัดการที่ไม่ดี และถูกเผาแทนที่จะถูกนำไปรีไซเคิล


ประชากรในอาเซียนกำลังเพิ่มขึ้น ขยะก็เพิ่มตาม

ขยะมากถึง 1 ใน 5 ของโลกใบนี้อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนอกจากสาเหตุเรื่องการรับขยะจากต่างประเทศมาจัดการแล้ว อีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ขยะในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็คือ การขยายตัวของเขตเมือง และการขยายตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรามีประชากรเพิ่มขึ้นเกือบ 25 เปอร์เซ็นต์ เป็นกว่า 690 ล้านคนแล้ว

ปัจจัยต่างๆนำมาสู่การบริโภคที่เพิ่มขึ้น และทำให้เกิดการสร้างขยะตามมา ซึ่งขยะเกิดขึ้นได้จากทุกช่องทางการบริโภค ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อของออนไลน์ ที่ต้องมีขยะจากบรรจุภัณฑ์ หรือจะเป็นการซื้อของจากหน้าร้านทั่วไป

รายงานยังชี้ว่า กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของขยะที่ลอยลงไปในทะเลมาจากภูมิภาคอาเซียนของเรานี่เอง นอกจากนี้ เรายังมีการจัดการขยะอย่างไม่เหมาะสม โดยพบว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของขยะถ้าไม่ถูกทิ้งในที่ทิ้งขยะ ก็จะถูกนำไปเผา


ขยะล้นอินโดนีเซียจนชาวบ้านต้องย้ายบ้านหนี

ในอินโดนีเซีย แต่ละวันจะมีขยะมากถึง 7 พันตันมาถึงที่บ่อทิ้งขยะบันตาร์เกบัง ซึ่งมีขนาดความกว้างเท่าสนามฟุตบอลกว่า 200 สนามรวมกัน และมีความสูงกว่าตึก 15 ชั้น โดยบ่อทิ้งขยะแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองเบกาซี ที่นี่รองรับขยะจากกรุงจาการ์ตามานานกว่า 30 ปีแล้ว รอบๆบ่อทิ้งขยะแห่งนี้ก็รายล้อมไปด้วยหมู่บ้านจำนวนมาก ซึ่งมีประชาชนราว 20,000 คนอาศัยอยู่ ปัญหาที่ตามมาก็คือกลิ่นและความสะอาด ส่งผลทำให้ชาวบ้านจำนวนมากต้องย้ายหนี แต่ประชาชนส่วนใหญ่ที่ยังอาศัยอยู่ก็คือคนที่ประกอบอาชีพเก็บของเก่าขาย

บ่อทิ้งขยะบันตาร์เกบังเป็นหนึ่งในบ่อทิ้งขยะที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมันยังคงมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้รัฐบาลพยายามผลักดันให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ๆย้ายออก เพราะรัฐต้องการขยายพื้นที่ทิ้งขยะ


ในแต่ละปี โลกของเราสร้างขยะจากสิ่งทอราว 92 ล้านตัน

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือขยะจากสิ่งทอ โดย Fast fashion หรือแฟชั่นตามกระแสที่ได้รับความนิยมกำลังผลักดันให้ปัญหานี้รุนแรงมากขึ้น เราพบเห็นปัญหาขยะเสื้อผ้าจำนวนมากเกลื่อนทะเลทรายอาตากามาของชิลี ซึ่งคาดการณ์ว่า มีเสื้อผ้ามือสองมากถึง 59,000 ตันส่งมาถึงท่าเรือในประเทศชิลี เพื่อให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้มาเลือกสินค้าดีๆนำไปขายต่อ แต่เสื้อผ้ามากถึง 39,000 ตันกลับกลายเป็นขยะและถูกนำไปทิ้งในทะเลทราย

ปัญหานี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกันในประเทศกานา ซึ่งหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม OR Foundation รายงานว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้ากานานำเข้าเสื้อผ้าถึง 15 ล้านตัวต่อสัปดาห์ แต่ 40 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าเหล่านั้นกลายเป็นขยะ เพราะเสื้อผ้าที่สภาพไม่ดีและน่าจะนำไปขายต่อไม่ได้แล้ว จะถูกนำไปทิ้งที่บ่อขยะ และบ่อยครั้งพวกมันก็ลงเอยอยู่ที่ทะเล ก่อให้เกิดปัญหาด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมตามมา

กานากลายเป็นประเทศที่นำเข้าเสื้อผ้ามากที่สุดในโลกเมื่อปี 2021 โดยข้อมูลจากหอสังเกตการณ์ความซับซ้อนทางเศรษฐกิจ หรือ OEC ระบุว่า เสื้อผ้าที่กานานำเข้าในปี 2021 นั้นมีมูลค่า 214 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่มาจากจีน สหราชอาณาจักรและแคนาดา

ที่มา : globalcitizen , eco-business


https://www.springnews.co.th/keep-th...ronment/850750

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:52


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger