#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำหรับลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อยในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 64 ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 16 พ.ค. 64 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนจากประเทศเมียนมาเข้าปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 14 - 16 พ.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ระมัดระวังจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
เพิ่มวิกฤตโลกร้อน!! 4 เดือนแรกของปี'64 พบ "ป่าฝน" กว่า 1 พันตารางกิโลเมตรในแอมะซอนถูกทำลาย "ป่าแอมะซอน" ป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งเก็บคาร์บอนที่สำคัญ ซึ่งช่วยชะลอการเกิดภาวะโลกร้อน แต่รายงานล่าสุดพบว่า ป่าฝนทั้งหมด 1,157 ตารางกิโลเมตร หรือ 446 ตารางไมล์ ถูกทำลายในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2021 โดยลดลง 4% จากปีก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า การตัดไม้ทำลายป่าของป่าฝนแอมะซอนในบราซิลในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นถึง 43% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน นักอนุรักษ์กล่าวว่า การตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ประธานาธิบดี Jair Bolsonaro ของบราซิลเข้ารับตำแหน่งในปี 2019 โดยมีการยกเลิกกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม เปิดให้ทำการเกษตรและทำเหมือง ในพื้นที่ป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หน่วยงานอวกาศของบราซิล (Inpe) รายงานว่า การตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอนพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 นอกจากนี้ นักอนุรักษ์ยังเกรงว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมปีนี้ การตัดไม้ทำลายป่าจะถึงจุดเลวร้ายที่สุด ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ประชาคมระหว่างประเทศซึ่งนำโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน กดดันให้บราซิลลดการตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอน และแม้ว่าในการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศ ที่นำโดยสหรัฐฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โบลโซนาโร สัญญาว่าจะเพิ่มงบประมาณเป็นสองเท่า สำหรับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและยุติการตัดไม้ทำลายป่าอย่างผิดกฎหมายภายในปี 2030 แต่นักวิจารณ์ต่างตั้งคำถามถึงความมุ่งมั่นของเขาต่อคำมั่นสัญญาดังกล่าว โดยชี้ให้เห็นถึงการลดงบประมาณของกระทรวงสิ่งแวดล้อม เมื่อเร็วๆ นี้ รวมทั้ง การเสนอร่างกฎหมายให้เอกชนสามารถยึดครองพื้นที่สาธารณะ ซึ่งอาจเร่งการตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอน https://mgronline.com/greeninnovatio.../9640000044796
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
หวั่นชะตาวาฬน้อย แม้หลุดฝายแม่น้ำเทมส์ ว่ายหลงทิศกลับมาอีก หวั่นชะตาวาฬน้อย ? วันที่ 10 พ.ค. รอยเตอร์ รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์วาฬมิงกี้ ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อังกฤษให้หลุดจากฝายกั้นน้ำในแม่น้ำเทมส์ กรุงลอนดอน ไปได้แล้ว แต่ต่อมาพบว่า มันบาดเจ็บ จนหวั่นใจกันว่าจะรอดชีวิตหรือไม่ ชะตาของวาฬน้อยตัวยาว 3 เมตร ได้รับความสนใจจากชาวอังกฤษในกรุงลอนดอนอย่างกว้างขวาง หลายคนเดินทางไปลุ้นที่สะพานเหนือแม่น้ำเทมส์ นับจากติดตามความช่วยเหลือตลอดช่วงข้ามคืนวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ค. จนมาถึงเช้าวันจันทร์ ช่างภาพรอยเตอร์จับภาพวาฬน้อยได้ ขณะที่มันว่ายทวนน้ำจากจุดที่ทีมของการท่าเรือลอนดอน หน่วยกู้ภัยแห่งชาติ และทีมนักประดาน้ำอังกฤษ ช่วยกันผลักดันออกไป ซึ่งเป็นทิศทางที่ผิด เพราะยิ่งทำให้มันห่างจากออกจากทะเลแอตแลนติก จึงทำให้วิตกกันว่า มันอาจไม่รอด "เดิมมันว่ายออกจากแม่น้ำไปแล้ว แต่พอไม่รู้จะว่ายไปที่ไหน มันก็ว่ายตรงกลับเข้ามาในแม่น้ำอีก" มาร์ติน การ์ไซด์ โฆษกการท่าเรือลอนดอน กล่าว และว่า "มันเป็นวาฬที่ยังเล็กมากๆ ยังอ่อนๆ อยู่เลย ชีวิตของมันแขวนอยู่บนเส้นด้าย ยิ่งมันบาดเจ็บและห่างไกลจากบ้านของมันมาก" นายการ์ไซด์กล่าว มิงกี้ วาฬพันธุ์เล็ก วัยทารก ยาว 3 ? 4 เมตรถูกพบในสภาพเกยตื้นบริเวณฝายริชมอนด์ ล็อกกั้นแม่น้ำเทมส์ ย่านริชมอนด์ กรุงลอนดอน ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. มีเจ้าหน้าที่ที่ช่วยชีวิตตรวจอวัยวะสำคัญของวาฬและฉีดพ่นน้ำให้มัน ขณะที่สัตวแพทย์ตรวจสภาพร่างกายวาฬที่ริมแม่น้ำ ก่อนที่ศูนย์เรือกู้ชีพแห่งชาติจะมาถึง ร่วมกับนักดับเพลิงรวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยช่วยชีวิตสัตว์ทะเลมาที่เกิดเหตุ นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเฝ้าระวัง คอยกันให้ประชาชนออกห่างจากวาฬ รวมถึงแม่น้ำและริมแม่น้ำ จนในที่สุดเจ้าที่ผลักดันให้วาฬเข้ามาในอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับช่วยสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมลอยตัวได้ ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ตรวจสุขภาพวาฬเป็นระยะๆ เพื่อประเมินว่ามันไหวหรือไม่ ก่อนช่วยวาฬน้อยได้ นายเจก มันเกโต ชาวบ้านจากย่านริชมอนด์ที่มาลุ้นภารกิจช่วยวาฬน้อย กล่าวว่า ทุกคนที่อยู่ที่นี่ เพียงหวังว่าเจ้าหน้าที่จะช่วยวาฬขึ้นมาได้ "เราแทบไม่เชื่อสายตา เมื่อเห็นวาฬที่น่าสงสารครั้งแรก เพราะไม่ได้เกิดขึ้นทุกวันในย่านริชมอนด์แห่งนี้" ด้านนายริชาร์ด แฟรงก์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกคนกล่าวว่า วาฬแทบไม่เคลื่อนไหว ผมแทบไม่รู้อะไรเลย จนในที่สุดก็มีเจ้าหน้าที่ที่อาจรู้วิธีช่วยมัน แต่ระดับน้ำก็ลดต่ำลงๆ สำหรับผมมองว่า วาฬเจอปัญหาใหญ่เลย ขณะที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่งโพสต์ว่า มันเป็นวาฬที่หลงทางเอามากๆ ตัวหนึ่ง ว่ายมาทั่วกรุงลอนดอนไปจนถึงฝายริชมอนด์ ล็อก ส่วน นายแดนนี โกรฟส์ จากกลุ่มอนุรักษ์วาฬและโลมา กล่าวว่า เหตุที่วาฬน้อยหลงทางมา อาจมาจากมันถูกล่า หรือไม่ก็ป่วยและบาดเจ็บ ปกติแล้ววาฬและโลมาจะเจอสถานการณ์เสี่ยงแบบนี้ ถ้ามันเจอเรือดำน้ำ แหอวน เสียงดังใต้น้ำ หรือการสำรวจหาแหล่งน้ำมันและก๊าซใต้ทะเล หรือแม้แต่การซ้อมรบทางทหาร "สัตว์ที่น่าสงสารนี้จะดิ้นรนหาทางกลับทะเลอย่างยากลำบาก" นายโกรฟส์ กล่าว ทั้งนี้ วาฬมิงกี้เป็นวาฬพันธุ์เล็กที่สุด ตัวเต็มวัยยาวราว 10 เมตร สามารถพบวาฬมิงกี้ได้ทั่วมหาสมุทรแอนแลนติกตอนเหนือและมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อปี 2562 วาฬหลังค่อมที่ยังเล็ก เจ้าเฮซซี่ ตายในแม่น้ำเทมส์ ห่างเพียง 11 วันหลังมีคนเจอมันครั้งแรกใกล้สะพานดาร์ตฟอร์ด ในเมืองเคนต์ ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพ ผลการชันสูตร วาฬขาดสารอาหาร และพบปรสิตในลำใส้จำนวนมาก https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_6389390
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก อสมท.
เต่าตนุ นักเดินทางแห่งท้องทะเล ช่วงเวลาน้ำทะเลขึ้นจนเกือบสูงสุด เหมาะแก่การนำพาร่างกายอันหนักและไข่ที่เต็มท้องขึ้นมาบนชายหาด เพราะจะช่วยย่นระยะทาง เวลา และลดการสูญเสียพลังงานในการหาที่วางไข่ รวมถึงให้แน่ใจว่าน้ำทะเลจะไม่ขึ้นมาท่วมลูกๆของมัน ชายหาดที่เงียบสงบปราศจากสัตว์ผู้ล่า สิ่งปลูกสร้าง แสงไฟ และมนุษย์รบกวน เป็นที่ที่เหมาะสำหรับมัน เพราะเมื่อใดที่ถูกรบกวนมันจะบ่ายหน้ากลับลงสู่ท้องทะเล เมือหาทำเลเหมาะสมได้แม่เต่าจะขุดหลุมเพื่อวางไข่ทันที เพียงไม่นานภารกิจก็เสร็จสิ้น ทิ้งลูกเต่าตัวน้อยให้เผชิญชีวิตด้วยตนเองไว้เบื้องหลัง นับจากที่แม่เต่าเดินกลับลงทะเลไปแล้ว เราไม่อาจล่วงรู้เลยว่าพวกมันเดินทางไปยังที่ใด... https://www.mcot.net/view/aCdogsxb
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
ชาวประมงค้านถมทะเล ผุดท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 ห่วงซ้ำเติมโควิด ชาวประมงพื้นบ้าน จ.ระยอง พร้อมใจกันนำเรือกว่า 400 ลำ ลอยกลางทะเล ส่งเสียงสะท้อนไปยังรัฐจากโครงการถมทะเลเฟส 3 ห่วงกระทบการทำมาหากินซ้ำเติมพิษ COVID-19 ภาพเรือประมงพื้นบ้านหลายร้อยลำ ลอยลำอยู่กลางทะเลหน้าหาดตากวน อ.เมืองระยอง นับเป็นการรวมตัวกันครั้งแรกของกลุ่มประมงพื้นบ้านที่ลุกขึ้นมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องให้เยียวยาผลกระทบโครงการถมทะเลเฟส 3 นายศรีนวล อักษรศรี ประธานกลุ่มประมงบ้านตากวน ประธานกลุ่มประมงบ้านตากวน ยืนยันว่า การรวมตัวของเรือประมงพื้นบ้านในครั้งนี้ ไม่ใช่การประท้วงปิดอ่าว หรือ คัดค้านการก่อสร้างโครงการถมทะเลมาบตาพุด เพียงแต่ต้องการให้เห็นถึงความยากลำ ที่เรือทุกลำ ยังต้องทำมาหากิน ท่ามกลางการพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 การถมทะเลมาบตาพุดเฟส 1 และเฟส 2 ชาวประมงถูกยึดพื้นที่ทำมาหากินในทะเลมาบตาพุด โดยไม่มีการเยียวยา แต่เมื่อขยับไปหากินในถิ่นทะเลแห่งใหม่ ก็จะมาเผชิญถมทะเลเฟส3อีก ทำให้ต้องแสดงพลัง ส่งเสียงไปยังภาครัฐให้หันมาดูแล เยียวยา ให้กับชาวประมงที่ไม่สามารถเปลี่ยนวิถีประมงที่เคยทำมาตั้งแต่บรรพบุรุษได้ "ไม่ได้ต่อต้าน คัดค้านโครงการรัฐบาล แต่ไม่ถมได้หรือไม่ ถ้าให้เลิกประมงแล้วจะไปทำอาชีพอะไร และอยากขอให้เยียวยาเราเถอะ" ด้านนายละม่อม บุญยงศ์ ประธานกลุ่มประมงก้นปึก บอกว่า สถานการณ์โควิดชาวประมง ก็เดือดร้อนกันอย่างหนักเพราะนอกจากจะขายของไม่ได้ สัตว์น้ำก็หาได้ยาก เพราะการระบาดครั้งนี้ รุนแรงกว่าทั้งสองครั้งที่ผ่านมา หากติดเชื้อดหรือต้องถูกกักตัว 14 วัน จะทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดอย่างหนัก "อยากบอกนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร ลงมาดูแล เพราะชาวประมงเดือดร้อนทั้ง COVID-19 และการทำมาหากิน กลัวต้องถูกกักตัว ถ้าออกหากินไม่ได้จะกระทบกับคนในครอบครัว แล้วแล้วจะทำกันอย่างไร" เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา สมาชิกกลุ่มประมง 9 กลุ่ม ยื่นหนังสือเรียกร้องกับนายเริงฤทธิ์ กุศลกรรมบถ ผู้อำนวยการสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ให้นำไปทบทวน และแก้ไขปัญหาให้กับชาวประมง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ เยียวยาชาวประมงเรือเล็กพื้นบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเหตุถมสร้างท่าเรือเฟส 3 กว่า 1,000 ไร่ โดยชาวประมงต้องการให้นำแนวทางของการท่าเรืออุตสาหกรรมแหลมฉบัง มาเป็นโมเดลในการเยียวยาให้กับชาวประมงตามสัดส่วนของความเดือดร้อน และระยะเวลาในการดำเนินการ https://news.thaipbs.or.th/content/304206
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|