เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 28-10-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 28 ? 29 ต.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในวันที่ 30 ต.ค. ? 2 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นฝนจะลดลง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตลอดช่วง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 29 - 31 ต.ค. ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ตลอดช่วง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 28-10-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


นักวิทย์ฯ พบ ปะการังน้ำลึก 90 เมตร เกิดการฟอกขาว ภาวะโลกร้อนส่งผลไปยังน้ำลึกแล้ว



นักสำรวจต่างกล่าวกันว่า ใต้มหาสมุทรลึกของโลกเราเป็นระบบนิเวศที่มีการสำรวจและเข้าใจน้อยที่สุด ข้อมูลในการศึกษาพบว่า กว่า 80% ยังไม่ได้รับการสำรวจและยังมีข้อมูลและความเข้าใจน้อยกว่าดวงจันทร์ดาวบริวารเพียงหนึ่งเดียวของโลก

ทีมนักวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยพลีมัธ พบปะการังที่อยู่ใต้น้ำลึกลงไป 90 เมตรเกิดการฟอกขาว ในมหาสมุทรอินเดียในการล่องเรือสำรวจ ซึ่งการพบในครั้งนี้เป็นการค้นพบที่ลึกที่สุดเท่าที่เคยมี และชี้ให้เห็นว่าผลกระทบจากภาวะโลกร้อนส่งผลไปยังน้ำลึกแล้ว หลังจากที่เคยเชื่อว่าพื้นที่ใต้มหาสมุทรนี้จะปลอดภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

Phil Hosegood หัวหน้าทีมสำรวจ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างมา มันไม่ควรจะเกิดขึ้น ปะการังที่อยู่ลึกกว่านั้นถูกมองว่ามีความยืดหยุ่นต่อภาวะโลกร้อนในมหาสมุทรมาตลอด เพราะน้ำที่พวกมันอยู่นั้นเย็นกว่าบนผิวน้ำและเชื่อกันว่ายังคงค่อนข้างคงที่

การค้นพบในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดและเป็นสัญญาณที่น่ากังวล เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์เคยคิดกันว่าปะการังน้ำลึกนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบจากโลกร้อน หรืออย่างน้อยก็ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย ในการเก็บข้อมูลจากหลายแหล่ง จากติดตามเป็นระยะ การใช้หุ่นยนต์ใต้น้ำพร้อมกล้องบันทึก ข้อมูลดาวเทียม และอุณหภูมิของมหาสมุทร ทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าแนวปะการัง 80% ในพื้นที่สำรวจที่ระดับความลึก 90 เมตรเกิดการฟอกขาวแล้ว

ข้อมูลในการสำรวจแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการฟอกขาวเกิดจากเทอร์โมไคลน์ (Thermocline, ชั้นดินระหว่างน้ำเย็นและน้ำอุ่น) มีความลึกขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ วงจรความแปรปรวนนี้ขยายวงกว้างมากขึ้น?

หลังจากการค้นพบที่น่ากังวลนี้ ทางทีมวิจัยเรียกร้องให้มีการศึกษาอย่างเร่งด่วนเพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งทำได้คือขยายความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบที่มากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ซึ่งมีข้อมูลน้อยมาก

"สิ่งนี้น่าจะส่งผลให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศที่สำคัญซึ่งแนวปะการังเหล่านี้มอบให้กับโลกของเรา" .... Nicola Foster หนึ่งในทีมวิจัยเสริม


https://mgronline.com/science/detail/9660000095167

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 28-10-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


'ชาวบ้านเกาะสาหร่าย' ร้อง 'ศรชล.' แก้เครื่องมือผิดกม. คราด 'ปลิงทะเลลูกบอล' ส่งจีน-เวียดนาม



27 ตุลาคม 2566 ที่ท่าเทียบเรือเจ้าท่า สาขาสตูล ตำบลตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 โดย พลเรือโท สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช มอบนโยบายนาวาเอก แสนย์ไท บัวเนียม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพื้นที่ตอนใต้ จ.สตูล ศรชล.ภาค 3/รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล , ว่าที่ นาวาเอก รัฐพล แก้วกระจาย หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสตูล ศรชล.ภาค 3 , นายสุขเกษม ศรีงาม เจ้าพนักงานประมงชำนาญงาน หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล)ประมงจังหวัดและประมงอำเภอเมืองสตูล สนธิกำลังนำเรือ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาสตูล และเรือของมนุษย์กบ ศรชล.ออกลาดตระเวนตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ว่ามีการลักลอบใช้เครื่องมือผิดกฎหมายคราดปลิงทะเลลูกบอล สร้างความเสียหายให้ทรัพยากรธรรมชาติและเครื่องมือประมงของชาวบ้าน ซึ่งการออกลาดตระเวนพร้อมเพิ่มความถี่ในการตรวจตรารอบเกาะสาหร่ายในครั้งนี้ แม้จะไม่พบการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว

นาวาเอกแสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ศรชล.สตูล) พร้อมคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงรับฟังปัญหา จากผู้นำชาวบ้านในพื้นที่และเชิญเจ้าของแพรับซื้อปลิงทะเลลูกบอล มาแจ้งถึงการรับซื้อปลิงทะเลลูกบอลจากกลุ่มเรือประมงที่ใช้เครื่องมือคราดในครั้งนี้มีความผิดทางกฎหมาย พร้อมให้แนวทางการทำงาน 3 ข้อประเด็นหลัก

ด้านนายรอดาษ นากมา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะสาหร่าย ยอมรับว่า ปัญหาการลักลอบทำประมงด้วยการใช้เครื่องมือ คราดปลิงทะเลลูกบอล มีจริง โดยมีการใช้เรือประมาณ 10 ลำเป็นเรือหางพร้อมเครื่องมือคราดสร้างความเสียหายให้กับเครื่องมือประมงของชาวบ้าน ซึ่งปัญหานี้มีมาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 2 ปีแล้วที่ชาวบ้านเกาะสาหร่ายประสบปัญหา โดยกลุ่มเรือที่เข้ามาทำส่วนใหญ่มาจากต่างถิ่น จึงอยากให้ศรชล.เข้ามาช่วยเหลือ ตรวจตรา ป้องปรามการกระทำผิด

รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ศรชล.สตูล) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่รับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงจากชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ได้เสนอแนะ 3 ประเด็นใหญ่คือ 1 ให้มีการรวมตัวกันผู้นำชุมชน ผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านรวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อทำการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น 2. หากเกินขีดความสามารถให้แจ้งมายัง ศรชล.หรือ ว่าสำนักงานประมงจังหวัด/หรือว่าหน่วยปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ 3 ศรชล.ได้เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวน/เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาการกระทำความผิดประมงผิดกฎหมายเพื่อจำกัดเสรีในการกระทำความผิดกฎหมาย ควบคุมดำเนินคดีการกระทำความผิดต่อไป โดยลักษณะของการกระทำความผิดเป็นการใช้เครื่องมือคราดปลิงทะเล สร้างความเสียหายให้ทรัพยากรและเครื่องมือประมงอื่น เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรสัตว์น้ำ สำหรับการแก้ไขปัญหาประมง และการกระทำความผิดประมง เป็นปัญหาซับซ้อนที่ต้องร่วมมือกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐประชาชนและผู้ทำอาชีพประมง ในทุก ๆ เรื่องการสร้างความตระหนักรู้วินัย/ทุกคนต้องร่วมมือกันเชื่อว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย

สำหรับปลิงทะเลลูกบอล การข่าวพบว่ามีการซื้อขายกิโลกรัมละ 60-70 บาทในตัวปลิงที่มีขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก 35 บาท มีการจับเพื่อส่งขายไปเป็นยาบำรุงร่างกาย ในประเทศเวียดนามและจีน ซึ่งชาวบ้านเกาะสาหร่ายหากเดินหาริมชายหาดหลังน้ำลดสามารถทำได้

สำหรับคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดสตูล ได้ประกาศ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมง และพื้นที่ทำการประมง ที่ห้ามใช้ทำการประมงจับสัตว์น้ำ พ.ศ.2560 เครื่องมือประมงประเภทคราดประกอบกับเรือยนต์ทำการประมงปลิงทะเล ทำให้เกิดการทำลายหน้าดิน หญ้าทะเล ปะการัง อันเป็นแหล่งวางไข่และเลี้ยงตัวอ่อนของสัตว์น้ำ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อชาวประมง อาศัยมาตรา 28 วรรคหนึ่ง (3) และวรรคสอง มาตรา 71 (1)แห่งพระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 (มีโทษปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาท ถึงหนึ่งแสนบาท หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมง)


https://www.naewna.com/likesara/765579

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 28-10-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


โลกร้อนทะลุพิกัด 5 เดือนติดต่อกันตั้งแต่ มิ.ย.-ต.ค. รับปี 66 ขึ้นแท่นร้อนที่สุด



รายงานการประเมินผลสภาพอากาศโลกปี 2566 ชี้ชัด ปีนี้จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการตรวจวัด ภายหลังอุณหภูมิเฉลียโลกร้อนทะลุพิกัด 5 เดือนติด ตั้งเดือนมิถุนายน ลากยาวจนมาถึงตุลาคม


สัญญาณโลกเดือดไม่ได้ปรากฎแค่ในกระดาษ

ช่วงเวลานับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา เป็นครั้งแรกที่คนทั่วโลกรับรู้ถึงผลกระทบภัยโลกร้อนที่พุ่งทะยานขึ้นเรื่อบๆ จากอุณหภูมิโลกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์มาโดยตลอดทุกเดือน จวบจนถึงเดือนตุลาคม ไฟป่ารุนแรงในหลายทวีป คลื่นความร้อนครั้งปรัวติศาสตร์ถล่มยุโรป และพายุรุนแรงที่พัดกระหน่ำหลายประเทศ ชี้ชัดว่าโลกกำลังเดือดของจริง

จาก 5 รายงานวิเคราะห์สถานะภูมิอากาศโลกในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2566 โดย
? NASA?s GISTEMP
? NOAA?s GlobalTemp
? Hadley/UEA?s HadCRUT5
? Berkeley Earth
? Copernicus/ECMWF

เผยว่า โลกกำลังเดินหน้าสู่ปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการตรวจวัดนับตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 หรือกว่า 100 ปีก่อนเป็นต้นมา และอาจเป็นปีที่ร้อนที่สุดในรอบหลายพันปี โดยพบว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา สูงทำลายสถิติในปีก่อนๆ อย่างมาก


จากข้อมูลสรุปโดย Carbon Brief ที่ได้รีวิวทั้ง 5 รายงานวิเคราะห์ที่กล่าวมานี้ พบว่า

? เดือนมิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน และมีแนวโน้มมากว่าเดือนตุลาคมนี้ จะเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึก

? ปี 2566 จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์

? ปรากฎการณ์เอลนีโญจะยังคงสถานะรุนแรงไปจนถึงกลางปี 2567 ส่งให้อุณหภูมิโลกในปีหน้าจะยังคงสูงผิดปกติ

? เดือนตุลาคมนี้มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นร้อนกว่าปกติมากเท่าเดือนกันยายน ที่อุณหภูมิเฉลี่ยโลกได้พุ่งทะลุ 1.8 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบก่อนช่วงก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม

? การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิมหาสมุทรก็พุ่งสูงจนสร้างสถิติใหม่ในเดือนกันยายนเช่นกัน โดยพบว่ามหาสมุทรกำลังร้อนขึ้นอย่างมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

? พืดน้ำแข็งทะเลขั้วโลกกำลังหดตัวอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ภายใต้ความร้อนของอุณหภูมิโลกที่พุ่งสูงขึ้น

? การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกในปีนี้ สอดคล้องกับการพยากรณ์การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ย้ำชัดว่าภาพการณ์อนาคตที่เลวร้ายเมื่อโลกยิ่งร้อนขึ้น อาจเกิดขึ้นจริง


สาเหตุโลกร้อนสุดขั้วในปี 66

จากการวิเคราะห์ของนักวิทยาศาตร์จากสถาบันชั้นนำทั่วโลก ระบุว่า ต้นตอการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกอย่างรวดเร็วในปี 2566 เป็นผลมาจากสภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากทั่วโลกยังคงปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณมหาศาลขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ประกอบกับสถานการณ์เอลนีโญในปีนี้ ที่ส่งแรงให้ภูมิอากาศทั่วโลกมีความร้อนและแห้งแล้งมากขึ้น

อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การเพิ่มขึ้นของกิจกรรมดวงอาทิตย์ในรอบ 11 ปี และการเพิ่มขึ้นของเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดในช่วงปีที่ผ่านมา ก็มีส่วนในการทำให้อุณหภูมิโลกพุ่งสูงอย่างรวดเร็วในปีนี้เช่นกัน

ในขณะที่ภาพการณ์สภาวะภูมิอากาศโลกในช่วงปีหน้ายังคงมีแนวโน้มอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้น จากสถานการณ์ปรากฎการณ์เอลนีโญที่ยังคงความรุนแรงจนถึงช่วงกลางปีหน้า


https://www.nationtv.tv/gogreen/378934451

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:09


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger