|
|
Share | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
#1
|
|||
|
|||
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2561
กรมอุตุนิยมวิทยา
ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่องหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. รายละเอียดเพิ่มเติม ออกประกาศ 01 พฤษภาคม 2561 05:00 น. ในช่วงวันที่ 30 เม.ย.-2 พ.ค. บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 6 พ.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 30 เม.ย. - 5 พ.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังในช่วงวันที่ 30 เม.ย.-2 พ.ค. |
#2
|
|||
|
|||
ผู้จัดการออนไลน์
แมงมุมแก่ที่สุดในโลกตายด้วยอายุ 43 ปี หลังถูกตัวต่อต่อย เอเอฟพี ? แมงมุมอายุยืนที่สุดในโลกตายด้วยอายุขัยสูงสุด 43 ปีหลังจากได้รับการเฝ้าติดตามมานานหลายปีระหว่างการศึกษาประชากรระยะยาวในออสเตรเลีย ทีมนักวิจัย ระบุในวันนี้ (30) แมงมุมประตูกลเพศเมียตัวนี้มีอายุเกินกว่าเจ้าของสถิติตัวก่อน แมงมุมทารันทูลาอายุ 28 ปีที่ถูกพบในเม็กซิโก อ้างจากงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Pacific Conservation Biology Journal เจ้าแมงมุมตัวนี้ไม่ได้แก่ตายแต่ตายเพราะเหล็กในของตัวต่อ ทีมนักวิจัย ระบุ แมงมุมหมายเลข 16 ตัวนี้ช่วยนักวิทยาศาสตร์ปลดล็อคข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมของสัตว์ 4 ขาคู่ชนิดนี้ที่สามารถพบได้ทั่วออสเตรเลียรวมถึงในสวนหลังบ้าน ?เท่าที่เรารู้นี่คือแมงมุมอายุยืนที่สุดเท่าที่มีการบันทึก และชีวิตยืนยาวของมันทำให้เราศึกษาพฤติกรรมของแมงมุมประตูกลและพลศาสตร์ประชากรได้มากขึ้น? ลีนดา เมสัน ผู้เขียนจากมหาวิทยาลัยเคอร์ติน กล่าว โครงการวิจัยศึกษาแมงมุมประตูกลในเขตเซนทรัลวีทเบลท์ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 1974 โดย บาร์บารา ยอร์ก เมน ซึ่งเจ้าหมายเลข 16 ถูกพบและเฝ้าติดตาม ?ด้วยการวิจัยโดยละเอียดของบาร์บารา เราสามารถบ่งชี้ว่า อายุขัยอันยืนยาวของแมงมุมประตูกลมีสาเหตุมาจากลักษณะประวัติชีวิตของพวกมันรวมถึงวิธีการที่มันใช้ชีวิตในพื้นที่พุ่มไม้ทึบตามธรรมชาติ การที่มันชอบอยู่นิ่งๆ และการเผาผลาญที่ต่ำของมัน? หมายเลข 6 ถูกเฝ้าติดตามในป่า แมงมุมประตูกลเพศเมียอยู่ในและนอกโพรงๆ เดียวตลอดชีวิตของมัน ดังนั้นนักวิจัยจึงทำสัญลักษณ์ที่โพรงของมันและกลับไปตรวจสอบเป็นประจำ การวิจัยนี้ทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นว่าการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศน่ากังวลมากแค่ไหนในอนาคตและการตัดไม้ทำลายป่าส่งผลกระทบต่อสัตว์สายพันธุ์นี้ได้อย่างไร แมงมุมประตูกลปกติมีอายุขัยระหว่าง 5 ถึง 20 ปี ในขณะที่เพศเมียจะอยู่ในหรือใกล้ๆ โพรง เพศผู้เมื่อโตเต็มที่จะออกไปหาคู่ผสมพันธุ์ พวกมันไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงต่อมนุษย์ ถึงแม้ว่าการกัดสามารถทำให้เกิดบาดแผลและอาการบวมได้ หนึ่งในล้านล้าน! รูปหาชมยาก ช่างภาพมะกันจับภาพ ?เหยี่ยวจับปลาฉลามขณะกำลังกินปลา? เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2561 ช่างภาพผู้เชี่ยวชาญการถ่ายภาพธรรมชาติที่อาศัยอยู่ในมลรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เผยแพร่ภาพผ่านเฟซบุ๊กบัญชี Doc Jon ซึ่งว่ากันว่าหาชมได้ยากยิ่ง โดยเว็บไซต์ด้านภาพถ่ายหลายแห่งบอกว่าภาพเช่นนี้ถือว่าเป็นภาพหายากระดับ 1 ในล้านล้านเลยทีเดียว ?เป็นภาพที่เยี่ยมที่สุดที่ผมเคยถ่าย (โดยเนื้อหามิใช่คุณภาพของภาพ) ผมเห็นเหยี่ยวออสเปรกับปลา จึงถ่ายเอาไว้ แต่เมื่อนำภาพมาดูบนคอมพิวเตอร์ ผมพบว่าปลาที่อยู่ในอุ้งเท้าเหยี่ยวนั้นเป็นปลาฉลาม และเมื่อซูมภาพเข้าไปใกล้ก็พบว่า ปลาฉลามตัวนั้นกำลังกินปลาอีกตัวอยู่!! ภาพเหล่านี้ไม่ได้ทำการตกแต่งภาพแต่อย่างใด? เจ้าของภาพระบุ จอนถ่ายภาพดังกล่าวด้วยกล้องแคนนอน 6ดี กับเลนส์ซูมยี่ห้อซิกมาระยะ 150-500 mm โดยไม่ใช้ขากล้องตั้งแต่อย่างใด นอกจากนี้ เขาเล่าด้วยว่าขณะถ่ายภาพเขาอยู่ห่างจากเหยี่ยวประมาณ 400 เมตร ส่วนปลาฉลามตัวดังกล่าวน่าจะมีขนาดยาวประมาณ 1 ฟุต สำหรับเหยี่ยวออสเปรนั้นเป็นนกล่าเหยื่อที่กินปลาเป็นอาหาร มีขนาดใหญ่ ยาว 60 เซนติเมตร ช่วงปีกกว้าง 2 เมตร ขนส่วนบนเป็นสีน้ำตาล ศีรษะและส่วนล่างมีสีค่อนข้างเทา มีสีดำบริเวณตาและปีก มีการกระจายพันธุ์เป็นวงกว้าง ชอบทำรังใกล้กับแหล่งน้ำ และสามารถพบได้ทุกทวีป ข่าวดีชาวแปดริ้ว..ฝนตกต่อเนื่องทำปริมาณน้ำ 2 อ่างฯ ใหญ่ เพิ่มมากสุดในรอบปี ฉะเชิงเทรา - ฝนตกต่อเนื่องใน จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน เม.ย.เป็นต้นมา ทำปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ2 พี่น้องยักษ์ใหญ่แห่งภาคตะวันออก ทั้งอ่างเก็บน้ำคลองระบม และอ่างเก็บน้ำคลองสียัด มีน้ำไหลลงด้านท้ายอ่างฯมากที่สุดในรอบปี วันนี้ ( 1พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางนิตยา นิยม เจ้าหน้าที่ตรวจวัดปริมาณน้ำ อ่างเก็บน้ำคลองระบม ต.ท่ากระดาน อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า หลังมีฝนตกลงมาในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 เม.ย.เป็นต้นมา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำคลองระบม ในปริมาณมากถึงวันละ 1.7 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบม.) ถือเป็นปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่ท้ายอ่างฯมากที่สุดในรอบปี ? หลังจากเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่เคยมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯสูงสุดเป็นครั้งแรก คือ 0.76 ล้าน ลบม. และจากการที่มีฝนตกหนักในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้อ่างเก็บน้ำคลองระบม มีน้ำกักเก็บ ภายในเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 20.99 ล้าน ลบม. จากปริมาณกักเก็บสูงสุดจำนวน 55 ล้าน ลบม. หรือคิดเป็นร้อยละ 38.16 ของความจุ ?นางนิตยา กล่าว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา อ่างเก็บน้ำคลองสียัด ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ ว่าในวันนี้ได้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่ด้านท้ายของอ่างฯ ในปริมาณมากสูงสุดของปีเช่นเดียวกัน โดยมีน้ำไหลลงอ่างมากถึง 11.61 ล้าน ลบม. ทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิม 152.93 ล้าน ลบม. มาอยู่ที่ระดับ 164.20 ลบม. หรือคิดเป็นปริมาณร้อยละ 39.10 ของความจุ 420 ล้าน ลบม. ถือว่าเป็นปริมาณน้ำไหลลงอ่างมากที่สุดของปีนี้เช่นเดียวกัน |
#3
|
|||
|
|||
[
วิกฤติแหล่งน้ำ! อึ้งโรงงานแปรรูปยาง 2 แห่งลอบปล่อยน้ำเสียลงคลอง ภาพดาวเทียมย้อนหลังเผย ?คลองภูมี? น้ำเริ่มเปลี่ยนสีเมื่อปี 58 เชื่อปล่อยไว้กระทบถึงทะเลสาบสงขลาแน่ ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผลตรวจข้อเท็จจริงเหตุปลาตายในคลองภูมี อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พบโรงงานแปรรูปยางพารา 2 แห่งลักลอบปล่อยน้ำเสียลงลำคลองสาขาของคลองภูมี รอสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ว่าจะดำเนินการอย่างไร จากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลัง พบคลองภูมีเริ่มมีปัญหาสภาพน้ำเปลี่ยนไปในช่วงเดือนสิงหาคม 2558 เป็นต้นมา คาดอาจมาจากสาเหตุบริเวณต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เต็มไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมและบ่อดูดทราย ทำให้ลำคลองสายนี้ อยู่ในสภาพย่ำแย่ และอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์โดยรวมของทะเลสาบสงขลาในอนาคตอย่างแน่นอน ปลาตายเกลื่อนคลองภูมี ชาวบ้านร้องเรียนเมื่อประมาณวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา วันนี้ (30 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามที่ได้มีการนำเสนอภาพในสื่อสังคมออนไลน์ เสนอภาพและรายงานว่าเกิดเหตุปลาตายลอยเป็นแพในคลองภูมี พื้นที่เกิดเหตุบริเวณสะพานชลประทาน หมู่ที่ 11 ต.บางเหรียง อ.ควนเนียง จ.สงขลา ตลอดความยาวตลิ่งคลองร่วม 3 กิโลเมตร เป็นปลาที่อาศัยตามธรรมชาติ วอนผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสภาพน้ำโดยด่วน โดยชาวบ้านสันนิฐานกันว่าน่าจะเกิดจากโรงงานใดโรงงานหนึ่งริมคลองภูมีลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองเป็นสาเหตุให้น้ำในคลองปนเปื้อนและทำให้ปลาตายจำนวนมากอย่างแน่นอน ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมาเว็บไซต์ www.gimyong.com รายงานว่านางพิมพ์ธาดา จันทร์สุริยา นายอำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา ได้มอบหมายให้นายรังสิธร วังสุภา ปลัดอำเภอรัตภูมิ พร้อมด้วยสมาชิก อส.และผู้ใหญ่บ้านที่รับผิดชอบพื้นที่เข้าตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมยางพารา ในพื้นที่ ม.13 ต. กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำก่อนไหลลงคลองภูมี ท่อน้ำทิ้งจากโรงงานแปรรูปยางแห่งหนึ่ง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ปรากฏผลดังนี้ 1.โรงงานไทยกู๊ดแลนด์รับเบอร์ พบว่ามีการปล่อยน้ำเสียลงในคลองแพรกสุวรรณ ซึ่งน้ำจากคลองแพรกสุวรรณจะไหลต่อไปลงยังคลองภูมี ก่อนไหลออกสู่ทะเลสาบสงขลาที่ปากบางภูมี 2.โรงงานไทยเทค รับเบอร์ มีการปล่อยน้ำเสียลงในคลองแพรกสุวรรณ 3.โรงงานวินเท็กซ์รับเบอร์ มีผู้จัดการโรงงานมาร่วมตรวจสอบและเชิญเข้าไปดูบ่อพักน้ำเสียในโรงงาน จากการตรวจสอบยังไม่พบการปล่อยน้ำเสีย หลังการตรวจสอบได้ประสานไปยังหัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลาเรียบร้อยแล้ว และจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ท่อน้ำทิ้งจากโรงงานแปรรูปยางแห่งหนึ่ง สำหรับคลองภูมี มีต้นน้อยู่บนำเทือกเขาแก้ว ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา น้ำจากคลองภูมีจะไหลไปลงทะเลสาบสงขลา ที่ ต.ปากบางภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา จากต้นน้ำถึงทะเลสาบสงขลา รวมความยาวของลำคลองสายนี้ประมาณ 63 กิโลเมตร ภาพดาวเทียม สภาพคลองภูมี บริเวณจุดที่ไหลลงทะเลสาบสงขลา ภาพปี 2550 สภาพน้ำยังไม่ขุ่น ทั้งนี้ MGR Online ภาคใต้ ได้ตรวจสอบสภาพของคลองภูมี ด้วยภาพถ่ายทางอากาศแบบย้อนหลังที่บันทึกไว้ในโปรแกรมกูเกิล เอิร์ธ พบว่า ตลอดลำน้ำคลองภูมี มีสถานประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมประเภทแปรรูปยางพารา, โรงงานผลิตอาหารสัตว์ และบ่อดูดทรายอยู่ตลอดสองฝั่งลำน้ำจำนวนหลายจุด แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย แมลงปอ : 01-05-2018 เมื่อ 10:37 |
#4
|
|||
|
|||
โดยจากภาพถ่ายดาวเทียมพบว่าคลองภูมี เริ่มมีปัญหาสภาพน้ำเสียลักษณะเป็นสีเหลืองขุ่น ปรากฎขึ้นครั้งแรกในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2558 ซึ่งหลังจากนั้นสภาพน้ำได้มีลักษณะเป็นอยู่เช่นนี้ตลอด โดยสันนิษฐานว่านอกเหนือจากตะกอนดินและทรายที่เกิดจากการดูดทรายแล้ว คลองภูมียังปนเปื้อนน้ำเสียและสารเคมีที่โรงงานในละแวกดังกล่าวลักลอบปล่อยออกมา
ภาพดาวเทียม สภาพคลองภูมี บริเวณจุดที่ไหลลงทะเลสาบสงขลา ภาพปี 2558 สภาพน้ำเริ่มขุ่น โดยพบว่าในช่วงกลางคืนบริเวณสถานที่ตั้งของโรงงานริมถนนเพชรเกษมในพื้นที่รอยต่อ อ.บางกล่ำ และ อ.ควนเนียง จะมีกลิ่นเหม็น เป็นที่ทราบกันดีของคนที่สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว โดยกลิ่นเหม็นจะมีความรุนแรงในช่วงค่ำเป็นต้นไป ขณะที่ปัญหาปลาตายมักจะพบหลังจากที่เกิดฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะมาจากสภาพน้ำเปลี่ยนแปลงกระทันหันจากปริมาณน้ำฝนที่ไหลลงมารวมกับน้ำในคลองซึ่งอาจทำให้ปลาตายเพราะปรับตัวกับสภาพน้ำไม่ทัน ภาพดาวเทียม สภาพคลองภูมี บริเวณจุดที่ไหลลงทะเลสาบสงขลา ภาพปี 2561 แต่ที่ชัดเจนในเวลานี้คือผลจากการลงพพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของปลัดอำเภอรัตภูมิ พบว่ามีโรงงานแปรรูปยางพารา 2 แห่งที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงในลำคลองสายนี้ ที่สุดท้ายปริมาณน้ำทั้งหมด จะไหลไปรวมกันในทะเลสาบสงขลา อันเป็นพื้นที่ผลิตอาหารสำคัญของคน จ.สงขลา จ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช ช้างป่าสีดอแดง และเพื่อนช้างป่าอีก 2 ตัว ยังไม่ยอมกลับเข้าป่า จันทบุรี - ช้างป่าสีดอแดง และเพื่อนช้างป่าอีก 2 ตัว ยังไม่ยอมกลับเข้าป่า ซ้ำเปลี่ยนแหล่งหากินจาก อ.มะขามมายัง อ.เขาคิชฌกูฏ ก่อนบุกกัดกินเหยียบย้ำสวนทุเรียนของชาวบ้านจนได้รับความเสียหาย เมื่อเวลา 19.30 น.วันนี้ (30 เม.ย.) นายอนุวัฒน์ ชอบชล หัวหน้าหน่วยอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เขาพระบาทคิชฌกูฏ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ม. 6 บ้านคลองตะเคียน ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ว่าช้างป่าสีดอแดง และเพื่อนช้างป่าอีก 2 ตัว ได้บุกเข้ามาในสวนทุเรียนของชาวบ้าน ก่อนจะพากันกเข้ากัดกินและเหยียบย้ำผลทุเรียนจนได้รับความเสียหาย หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ,และเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองหมู่บ้านและผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยพบช้างป่าสีดอแดง และเพื่อนช้างป่าอีก 2 ตัว กำลังยืนกินผลทุเรียนอยู่ภายในสวนอย่างเพลิดเพลิน เบื้องต้นจึงใช้แสงไฟสาดส่องเพื่อให้ช้างป่าทั้ง 3 ตัว ออกจากสวนทุเรียน แต่ช้างป่าสีดอแดง กลับวิ่งเข้าหาเพื่อจะทำร้ายจนเจ้าหน้าที่ต้องถอนกำลังออกห่าง และเฝ้าระวังไม่ให้ช้างป่าเข้าใกล้หมู่บ้าน รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านปิดไฟและอยู่แต่ เพื่อป้องกันการถูกทำร้าย และจัดเวรยามเฝ้าดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง นายอนุวัฒน์ กล่าวว่าเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ผลไม้ของชาวสวนออก ผลผลิตจำนวนมาก จึงทำให้ช้างป่าออกมาหากิน จึงขอแนะนำให้ชาวสวนเร่งตัดทุเรียนให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างป่าเข้ามาสร้างความเสียหาย แรงงานแห่เที่ยว จ.จันทบุรี เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ จันทบุรี - แรงงาน- นักท่องเที่ยว แห่พาครอบครัวท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.จันทบุรี ทั้งบริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว หรือชุมชนริมน้ำจันทบูรณ์ ส่งผลให้ร้านอาหาร และร้านขายของฝากคึกคัก วันนี้ ( 1 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวใน จ.จันทบุรี เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติว่า บรรดาผู้ใช้แรงงานและนักท่องเที่ยว ยังคงพาครอบครัวเดินทางท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อย่าง อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี เพื่อเล่นน้ำตกคลายร้อนกันอย่างคึกคัก รวมทั้งนำอาหารมานั่งรับประทานร่วมกันอย่างมีความสุข โดยอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยตามจุดเสี่ยงต่างๆ รวมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวได้รับอันตราย และยังจัดเตรียมรถกู้ชีพ จากหน่วยกู้ภัยอุทยานแห่งชาติ เพื่อดูแลหากจะต้องนำผู้ป่วยฉุกเฉินส่งโรงพยาบาลอีกด้วย บรรยากาศริมน้ำจันทบูรณ์ คึกคักไม่แพ้กัน เช่นเดียวกับที่ บริเวณริมชุมชนริมน้ำจันทบูรณ์ อ.เมืองจันทบุรี ที่ในวันนี้มีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ถ่ายรูป และเลือกซื้อสินค้าและของฝากเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ, ร้านเจ๋อี๊ด ริมน้ำ ,ขนมไข่ป้าไต๊ ,ไอศกรีมตราจรวจ รวมทั้งร้านจำหน่ายขนมพื้นบ้านและของฝากพื้นเมือง ส่งผลดีให้ชาวบ้านในชุมชนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ นายอินทราวุฒิ สิมะพิเชษฐ์ อายุ 36 ปี นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร บอกว่าตนเองและครอบครัวได้เดินทางมายัง จ.จันทบุรี ตั้งแต่วานนี้ โดยพบว่ามีฝนตกตลอดทั้งวัน แต่ในวันนี้ท้องฟ้าเปิด จึงทำให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย แมลงปอ : 01-05-2018 เมื่อ 10:39 |
#5
|
|||
|
|||
เร่งปรับพื้นดินภายในป้อมมหากาฬ ก่อนปรับภูมิทัศน์เป็นสวนสาธารณะ
สำนักการโยธา กทม. เร่งปรับปรุงหน้าดินภายในป้อมมหากาฬ หลังรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ด้านสำนักสิ่งแวดล้อมเตรียมปรับปรุงภูมิทัศน์ คาด ทำสวนสาธารณะชั่วคราวแล้วเสร็จ พ.ค. นี้ ด้านสำนักงานเขตพระนครติดไฟชั่วคราวดูแลความปลอดภัย ความคืบหน้าการรื้อสิ่งปลูกสร้างภายในชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะ โดยเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้ทำการรื้อถอนบ้าน 5 หลังสุดท้าย และจะต้องย้ายเศษซากต่างๆ ออกทั้งหมดภายในวันที่ 29 เม.ย. 2561 วันนี้ (30 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในป้อมมหากาฬ ว่า สำนักการโยธาได้เข้ามาดำเนินการปรับพื้นดินภายในป้อมมหากาฬต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 เม.ย. โดยนำดินเข้ามาเทเพิ่มเติม พร้อมใช้รถไถเกลี่ยบริเวณจุดที่เป็นหลุมเป็นบ่อให้ราบเรียบเสมอกัน รวมทั้งเตรียมพื้นที่สำหรับดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าสาธารณะและทำทางเดิน ส่วนสำนักสิ่งแวดล้อมได้สำรวจพื้นที่เตรียมดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์จัดทำสวนสาธารณะ ปูหญ้า ปลูกต้นไม้ สำนักงานเขตพระนครดำเนินการพัฒนาทำความสะอาด จัดเก็บขยะ กำจัดวัชพืช เก็บเศษวัสดุจากการรื้อย้าย นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับสวนหย่อมบริเวณด้านข้างริมคลองโอ่งอ่าง ซึ่งอยู่ติดกับประตูระบายน้ำคลองหลอดราชนัดดา กทม. ได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์จัดทำเป็นสวนหย่อม โดยเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว สามารถเข้ามาพักผ่อนได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภายในป้อมมหากาฬได้ตัดไฟฟ้าออกไปหมดแล้ว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่เข้ามาใช้บริการในช่วงเวลาเย็น จึงได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพระนครจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจหมุนเวียนเข้ามาดูแลความปลอดภัยในช่วงเวลาดังกล่าว ?วันนี้สำนักการโยธาได้ดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งนี้ การพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในป้อมมหากาฬ โดยการปรับปรุงพื้นที่ชั่วคราวให้เป็นสวนสาธารณะ คาดว่า จะแล้วเสร็จประมาณ พ.ค. 2561? นายจักกพันธุ์ กล่าว กทม.เร่งปรับปรุง 10 ท่าเรือ ?คลองผดุงกรุงเกษม? พร้อมสร้างใหม่ 1 ท่า เชื่อมรถไฟฟ้าใต้ดิน กทม. เร่งปรับปรุง 10 ท่าเรือคลองผดุงกรุงเกษม เพิ่มความปลอดภัยการเดินทาง พร้อมสร้างท่าเรือใหม่อีก 1 ท่า คือ ท่าสถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง คาด ก.ย. เสร็จสิ้นทั้งหมด ประชาชนใช้บริการเพิ่มขึ้น เหตุเชื่อมต่อรถไฟฟ้าใต้ดิน วันนี้ (30 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงเรือสำรวจท่าเรือคลองผดุงกรุงเกษม ตามโครงการพัฒนาการเดินเรือสัญจรทางน้ำคลองผดุงกรุงเกษม เพื่อดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมท่าเรือที่ชำรุด ตั้งแต่บริเวณท่าเรือหัวลำโพง ถึงท่าเรือวัดเทวราชกุญชร นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า สำนักการจราจรและขนส่ง ได้ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมท่าเรือที่ชำรุด ตั้งแต่วัดเทวราชกุญชร จนถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง ความยาวประมาณ 5 กม. ในขณะนี้คลองผดุงกรุงเกษมมีท่าเรือทั้งหมด จำนวน 10 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นท่าเรือที่สำนักการจราจรและขนส่งได้สร้างขึ้นใหม่ จำนวน 1 แห่ง คือ ท่าเรือตลาดเทวราช ส่วนท่าเรืออีก 9 แห่ง เป็นท่าเรือเดิมที่จำเป็นต้องดำเนินการปรับปรุงและซ่อมแซม นอกจากนี้ จะดำเนินการก่อสร้างท่าเรือใหม่ จำนวน 1 แห่ง คือ ท่าเรือสถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง สรุปแล้วตั้งแต่วัดเทวราชกุญชร จนถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง จะมีท่าเรือทั้งหมด 11 แห่ง นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักการจราจรและขนส่งได้เซ็นสัญญากับบริษัทผู้รับจ้างแล้ว ระยะเวลาการก่อสร้าง 180 วัน วิธีการก่อสร้างในส่วนของโป๊ะเรือ จะทำการประกอบที่บริษัท จากนั้นจะนำมาติดตั้งและทำโครงสร้างท่าเรือขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งตรวจสอบในจุดที่ชำรุดเสียหาย โดยจะดำเนินการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างมั่นคงแข็งแรง เพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชนที่มาใช้บริการเดินเรือ ตามสัญญาการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายใน ก.ย. 61 อย่างไรก็ตาม สำนักการจราจรและขนส่งจะเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จก่อนสัญญา ในส่วนของการเดินเรือเพื่อให้บริการประชาชน ในขณะนี้มีเรือของสำนักการระบายน้ำ นอกจากนี้ สำนักการจราจรและขนส่งได้ประสานกับทางบริษัท กรุงเทพธนาคม (KT) นำเรือมาให้บริการอีก 2 ลำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ?จากข้อมูลเบื้องต้นในแต่ละวันจะมีประชาชนมาใช้บริการประมาณวันละ 250 คนขึ้นไป เหตุที่ประชาชนมาใช้บริการไม่มาก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะท่าเรือชำรุด ซึ่งหลังจากดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมแล้ว คาดว่า จะมีประชาชนมาให้บริการเพิ่มขึ้น เพราะเรือที่เดินในคลองผดุงกรุงเกษมจะไปเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ตรงบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง? นายจักกพันธุ์ กล่าว สำหรับท่าเรือในคลองผดุงกรุงเกษม จำนวน 11 แห่ง ประกอบด้วย ท่าเรือตลาดเทวราช (สร้างขึ้นใหม่) ท่าเรือเทเวศร์ ท่าเรือประชาธิปไตย ท่าเรือราชดำเนินนอก ท่าเรือนครสวรรค์ ท่าเรือแยกหลานหลวง ท่าเรือกระทรวงพลังงาน ท่าเรือยศเส ท่าเรือนพวงษ์ ท่าเรือหัวลำโพง และ ท่าเรือสถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง (เตรียมก่อสร้าง) ในส่วนของคลองผดุงกรุงเกษม ปากคลองเริ่มจากริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดเทวราชกุญชร ผ่านตลาดเทเวศร์ ผ่านหัวลำโพง ตัดผ่านคลองมหานาค ไปออกแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดแก้วแจ่มฟ้า ย่านสี่พระยา มีความยาวประมาณ 5.7 กม. กว้าง 20 ม. ลึก 3 ม. ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของเขตพระนคร เขตดุสิต เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตปทุมวัน เขตสัมพันธวงศ์ และ เขตบางรัก ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการซ่อมแซมเขื่อนคลองผดุงกรุงเกษม โดยเอาส่วนที่เป็นกำแพงลายอิฐมาปูในบริเวณส่วนที่ดำเนินการซ่อมแซม เพื่อให้ภูมิทัศน์บริเวณคลองผดุงกรุงเกษมให้มีความสวยงาม เนื่องจากคลองดังกล่าวเป็นคลองที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ข่าวสด หมีหมาโบกมือ ?ช่วยด้วย? เจ้าหน้าที่เลยมองเห็นติดกับดักอยู่กลางป่า เดลี่เมล์รายงานปฏิบัติการช่วยชีวิตหมีหมาตัวเมียที่ถูกกับดักอยู่ในป่าที่ถูกลอบถางปลูกยาง บนเกาะบอร์เนียวของอินโดนีเซีย หลังจากมันยกขาหน้าขึ้นเหมือนโบกมือให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองสัตว์ป่าที่ผ่านไปบริเวณนั้นเห็นเข้าพอดี เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิเจจัก ปูลัง รุดเข้าไปช่วยหมีมารักษายังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ขององค์กรโฟร์พาวส์ สภาพขาหน้าของมันถูกกับดักเป็นแผลฉกรรจ์จนต้องตัดทิ้ง หมีหมาตัวนี้ได้ชื่อจากทีมงานช่วยเหลือมันว่า บีเลียอยู่ในกรงแบบกลางแจ้ง 8 วันเพื่อพักฟื้น หลังจากแผลเริ่มเยียวยาดีขึ้น ฟื้นฟูเต็มที่แล้ว เจ้าหน้าที่จึงส่งกลับคืนป่าต่อไป แคลร์ ลาฟรานซ์ ผู้อำนวยการองค์กรโฟร์ พาวส์ เผยกับสื่อเดอะโดโด ว่าอายุของหมีมาตัวนี้น่าจะประมาณสองปีและมีอนาคตที่สดใส แม้ว่าจะเสียอุ้งเท้าไปข้างหนึ่ง มันได้รับการปล่อยตัวไปยังจุดเดิมที่เจ้าหน้าที่พบ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย แมลงปอ : 01-05-2018 เมื่อ 10:54 |
#6
|
|||
|
|||
กรมชลฯ พร้อมรับมืออิทธิพลพายุฤดูร้อน ? ย้ำเจ้าหน้าที่ติดตามใกล้ชิด
กรมชลฯ พร้อมรับมืออิทธิพลพายุฤดูร้อน 1 ? 6 พ.ค. นี้ ย้ำเจ้าหน้าที่ติดตามอย่างใกล้ชิด กรมชลประทาน ย้ำเจ้าหน้าที่ชลประทานในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลันติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน 1 ? 6 พ.ค. ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีการคาดหมายสภาพอากาศล่วงหน้า 7 วัน โดยช่วงวันที่ 1 ? 2 พ.ค. 61 ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 3 ? 6 พ.ค. 61 ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง นั้น สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ปัจจุบัน (30 เม.ย. 61) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 47,448 ล้านลูกบาศก์เมตร(ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 62 ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมด มากกว่าปี 2560 รวม 5,281 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำใช้การได้ 23,529 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 45 (ปี 2560 มีน้ำใช้การได้ 18,192 ล้าน ลบ.ม.) สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์เกิดขึ้นบนโลกเร็วกว่าที่คาด 1 พันล้านปี ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ถือกำเนิดขึ้นบนโลกเมื่อราว 600 ล้านปีก่อน ในขณะที่ชั้นบรรยากาศและใต้มหาสมุทรเริ่มมีปริมาณออกซิเจนเพิ่มขึ้น แต่ล่าสุดหลักฐานใหม่กลับชี้ว่า สิ่งมีชีวิตแบบซับซ้อนอาจมีมานานกว่านั้นถึงหนึ่งพันล้านปี ทีมนักวิจัยจากสถาบันธรณีวิทยาจีน รวมทั้งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระและมหาวิทยาลัยลีดส์ของสหราชอาณาจักร ตีพิมพ์เผยแพร่ผลการค้นพบข้างต้นในวารสาร Nature Geoscience โดยระบุว่าพื้นที่ใต้มหาสมุทรในมหายุคมีโซโพรเทอโรโซอิก (Mesoproterozoic Era) เมื่อราว 1.6 พันล้าน ถึง 1 พันล้านปีก่อน มีปริมาณออกซิเจนในระดับสูงกว่าที่เคยเข้าใจกัน และเงื่อนไขนี้เอื้ออำนวยต่อการเกิดสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ได้ เปิดป่าแอมะซอน ไดโนเสาร์มีเขาไว้ดึงดูดเพศตรงข้ามมากกว่าเพื่อป้องกันตัว วงการบรรพชีวินวิทยาเคยเข้าใจกันว่า มหายุคมีโซโพรเทอโรโซอิกนั้นอยู่ในช่วงเวลาที่โลกยังมีออกซิเจนในระดับต่ำอย่างคงที่ยาวนานถึงหนึ่งพันล้านปี ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่เกิดขึ้น นอกจากสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวหรือแบคทีเรียที่มีมาก่อนหน้านั้น นักวิทยาศาสตร์บางรายเรียกช่วงเวลานี้ว่า Boring Billion หรือ ?หนึ่งพันล้านปีที่น่าเบื่อ? กรมอุตุฯเตือน 1-4 พ.ค. ทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง-ตกหนักหลายพื้นที่ วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 เมื่อเวลา 11.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศล่าสุดตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้ ดังนี้ ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่องหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าใกล้อ่าวมะตะบัน ประเทศเมียนมา ในช่วงวันที่ 1 ? 2 พฤษภาคม 2561 ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 3- 4 พฤษภาคม 2561 บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณทะเจีนใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกต่อเนื่อง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และพิษณุโลก อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย สกลนคร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. |
|
|