#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้และประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (3 เมษายน 2564) ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดต่อเนื่องกันหลายวัน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งระวังอันตรายจากฟ้าผ่าในขณะที่เกิดพายุฤดูร้อนไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงยังคงปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีกหนึ่งวัน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 3 - 6 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับบริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ในขณะที่มีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกเป็นบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่า โดยจะเริ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนในช่วงวันที่ 7 - 8 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงเกิดขึ้น สำหรับอ่าวไทยและภาคใต้ลมตะวันออกพัดปกคลุมทำให้มีฝนตกหนักบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 2 ? 3 เม.ย. 64 ภาคใต้ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 8 เม.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3-6 เมษายน 2564)" ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 03 เมษายน 2564 ในช่วงวันที่ 3-6 เมษายน 2564 ประเทศไทยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้น โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่ง เริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งระวังอันตรายจากฟ้าผ่าในขณะที่เกิดพายุฤดูร้อนไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยจะมีผลกระทบดังนี้ วันที่ 3 เมษายน 2564 ภาคเหนือ: จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหารกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น และมหาสารคาม ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และสิงห์บุรี ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ในช่วงวันที่ 4 - 5 เมษายน 2564 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเชร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 6 เมษายน 2564 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย และกำแพงเชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้และประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (3 เมษายน 2564) ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดต่อเนื่องกันหลายวัน อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงยังคงปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีกหนึ่งวัน
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ถึงคิวจัดระเบียบชายหาด เจ้าท่าลุย "จอมเทียน-บางแสน-บางเสร่" นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เผยถึงนโยบายจัดระเบียบสิ่งล่วงล้ำลำน้ำคลอง แม่น้ำทั่วประเทศว่า จากที่มีการจัดระเบียบที่ผ่านมา ทางเจ้าท่าได้มีการเจรจากับผู้ล่วงล้ำน้ำทั้งหมด ส่วนมากจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงกลุ่มผู้เลี้ยงกระชังปลา ซึ่งจากการหารือและทำความเข้าใจมากว่า 1 ปี ทางเจ้าท่าได้มีการให้ผู้ล่วงล้ำแต่ละประเภทมาขึ้นทะเบียนกับเจ้าท่าในท้องที่นั้น และจัดกลุ่มประเภท ส่วนไหนที่ให้ยังคงดำเนินการต่อไป เช่น กลุ่มผู้เลี้ยงปลาก็จะยังมีอยู่เพราะวิถีชีวิตเป็นเช่นนั้น แต่จะไม่ให้มีเพิ่มเติมล่วงล้ำลำน้ำมากขึ้นและกระทบผู้สัญจรทางน้ำ ส่วนร้านค้าร้านอาหาร รวมถึงบ้านเรือนประชาชนที่บุกรุกได้เจรจาเพื่อขอให้ออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ ในปี 64 จะเน้นเข้าไปตรวจสอบและสำรวจพื้นที่ริมทะเลมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากปัจจุบันจะพบว่า ริมชายหาด นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปนั่งเล่นหรือทำกิจกรรม อะไรริมหาดได้ เพราะส่วนมากจะมีเก้าอี้ ร้านค้า เต็มชายหาด ซึ่งนอกจากการรุกล้ำผิดกฎหมายแล้ว ยังทำให้ทัศนียภาพชายหาดไม่สวยงาม มีความสกปรก โดยพื้นที่เป้าหมายที่จะเข้าไปจัดระเบียบคือ ชายหาดจอมเทียน พัทยา, ชายหาดบางแสน, บางเสร่ สัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ การเข้าจัดระเบียบ จะเน้นการพูดคุยเจรจาก่อน ขณะเดียวกันจะมีการประสานงานกับกรมการปกครอง, กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นของกระทรวงมหาดไทยเข้าพื้นที่ร่วมกัน เพื่อทำความเข้าใจก่อน นายวิทยา เผยว่า ในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวกลับภูมิลำเนา ดังนั้น จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางน้ำ 41 แห่งทั่วประเทศ เตรียมเรือรักษาการณ์ 51 ลำ อำนวยความสะดวกรองรับเดินทางและท่องเที่ยวหยุดยาว. https://www.thairath.co.th/news/busi...siness/2062417 ********************************************************************************************************************************************************* อิตาลีสั่งห้ามเรือสำราญเข้าทะเลสาบเวนิส เพื่อหวังฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม รัฐบาลอิตาลีออกกฎห้ามเรือสำราญขนาดใหญ่และเรือบรรทุกสินค้าผ่านเข้าไปใกล้ศูนย์กลางของเวนิส เพื่ออนุรักษ์สภาพแวดล้อมบริเวณทะเลสาบเวนิส และจะเริ่มกระบวนการหารือกับประชาชนเพื่อสร้างท่าเรือใหม่นอกทะเลสาบ เพื่อรองรับเรือขนาด 40,000 ตันและเรือบรรทุกสินค้า ดาริโอ ฟรานเซสชินี รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมทวีตถึงการตัดสินใจเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2021 ของรัฐบาลว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และหลายคนรอคอยมานานหลายปี คนที่มาเยือนเวนิสในช่วงไม่กี่ปีมานี้ต่างตกใจกับเรือขนาดหลายร้อยเมตร สูงเท่าอพาร์ตเมนต์ แล่นผ่านพื้นที่ซึ่งเปราะบาง รัฐบาลแถลงว่า ต้องการฟื้นฟูมรดกทางศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมของเวนิส รวมทั้งทะเลสาบ ซึ่งได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของเรือสำราญและการจราจร ก่อนวิกฤติโควิด-19 เวนิสมีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละ 25 ล้านคน ชาวเวนิสเรียกร้องให้รัฐบาลออกคำสั่งห้ามเรือขนาดใหญ่แล่นผ่านทะเลสาบมานานหลายปีแล้ว ที่ผ่านมา รัฐบาลเคยออกคำสั่งแก้ไขปัญหานี้มาหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ผลนัก ในปี 2013 ห้ามเรือที่มีขนาดเกิน 96,000 ตันข้ามคลอง จูเดกกา (Giudecca) แต่ศาลท้องถิ่นถอนคำสั่ง ต่อมาปี 2017 รัฐบาลพยายามแจ้งให้เรือขนาดใหญ่ไปจอดที่ท่าเรือมาเกรา แต่เรือต่างๆ ก็ไม่ได้ปฏิบัติตาม จนเมื่อปี 2019 เรือสำราญชนกับท่าเทียบเรือและเรือท่องเที่ยวลำหนึ่ง ขณะแล่นเข้าไปยังท่าเรือ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน นายกเทศมนตรีเมืองเวนิสเรียกร้องให้ทางการเร่งหาวิธีแก้ปัญหาเรือสำราญ และให้ไปใช้ท่าเรืออื่นแทน นอกจากนี้ เรือสำราญขนาดใหญ่ยังสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจารณ์ระบุว่า คลื่นจากเรือลำใหญ่ส่งผลต่อทะเลสาบที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ รุกล้ำพื้นใต้ทะเล จนทำให้ทะเลสาบเป็นสาขาหนึ่งของทะเลเอเดรียติก และทำให้สถานที่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอย่าง เซนต์มาร์ก สแควร์ อยู่ใต้น้ำ เดือนที่แล้ว กลุ่มนักเคลื่อนไหว โน กรานดิ เนวี (No Grandi Navi) เพิ่งถูกปรับ 23,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการปิดกั้นทางออกของเรือสำราญ 3 ลำเมื่อปี 2017 มีประชาชนระดมทุนจ่ายค่าปรับให้ รวมทั้งบริจาคเงินด้วย เช่น นักแสดงสาว เอมมา ทอมป์สัน ซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่เวนิสด้วย https://www.thairath.co.th/news/fore...PANORAMA_TOPIC
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|