#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ยและประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
สลด'โลมา'เกยตื้นหาดฟรีดอมภูเก็ต ส่งซากผ่าหาสาเหตุ? ?พบโลมาเกยติ้นหาดฟรีดอม ภูเก็ต ตำรวจส่งซากให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. พ.ต.ท.(หญิง)ชมภูนุช อนันตญากุล สว.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุวิทยุ สภ.ป่าตอง ว่า พบซากโลมาไม่ทราบชนิด เกยตื้นที่ริมหาดฟรีดอม ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จึงไปตรสจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสายตรวจ พบซากโลมาไม่ทราบชนิดเกยหาดอยู่ ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว เป็นอำนาจการสอบสวนของ สภ.กะรน จึงได้แจ้งไปยัง พนักงานสอบสวน สภ.กะรน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เบื้องต้น ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตพื้นที่ป่าตอง นำซากโลมาไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียด ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน ที่อ่าวมะขาม ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้ง https://www.dailynews.co.th/regional/848108
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ศรีลังกาพบกล่องดำเรือสินค้าสิงคโปร์แล้ว จนท.เฝ้าติดตามป้องกันหายนะสิ่งแวดล้อม เอพี ? ผู้เชี่ยวชาญพบกล่องบันทึกข้อมูลเรือบรรทุกสารเคมีของสิงคโปร์ที่จมนอกชายฝั่งศรีลังกาหลังเกิดไฟไหม้นาน 12 วันแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามสุดกำลังเพื่อป้องกันหายนะร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม เรือเอ็มวี เอ็กซ์-เพรสส์ เพิร์ลของสิงคโปร์เริ่มจมลงเมื่อวันพุธ (2 มิ.ย.) หรือหนึ่งวันหลังจากเจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้บนเรือลำนี้มานาน 12 วัน อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการลากเรือออกสู่ร่องน้ำลึกห่างจากชายฝั่งกรุงโคลอมโบเพื่อลดมลพิษที่อาจเข้ากระทบชายฝั่งล้มเหลว หลังจากส่วนท้ายเรือหลุดออกและจมลงสู่ก้นทะเล การท่าเรือศรีลังกาแถลงในวันอาทิตย์ (6 มิ.ย.) ว่าผู้เชี่ยวชาญและกองทัพเรือพบกล่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง (วีดีอาร์) หรือกล่องดำของเรือเอ็กซ์-เพรสส์ เพิร์ลแล้ว และจะส่งมอบให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่นที่กำลังสอบสวนหาสาเหตุไฟไหม้บนเรือลำนี้ เอ็กซ์-เพรสส์ ฟีดเดอร์ส ผู้ดำเนินการเรือเอ็กซ์-เพรสส์ เพิร์ล เผยว่า เจ้าหน้าที่ที่กู้เรือยังคงอยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อจัดการกับน้ำมันหรือสารเคมีที่อาจรั่วไหลลงทะเล บริษัทยังแถลงขอโทษต่อเหตุการณ์ร้ายแรงนี้ การท่าเรือศรีลังกาและเอ็กซ์-เพรสส์ ฟีดเดอร์สแถลงเพิ่มเติมว่า ยังไม่พบว่า มีน้ำมันหรือสารเคมีรั่วไหลออกมา และว่ากองทัพเรือศรีลังกา หน่วยยามฝั่งอินเดีย เจ้าหน้าที่กู้เรือ และหน่วยงานท้องถิ่น สามารถรับมือได้หากปรากฏสัญญาณมลพิษจากน้ำมันหรือเศษซากวัสดุจากเรือ รวมทั้งกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นทำลายส่วนจัดเก็บสินค้าส่วนใหญ่ที่มีกรดไนตริกและสารเคมีอื่นๆ 25 ตันรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า สารเคมีที่เหลือ ตลอดจนถึงน้ำมันหลายร้อยตันอาจรั่วไหลลงทะเล หายนะนี้อาจทำลายสิ่งมีชีวิตในทะเล และเพิ่มมลพิษให้ชายหาดที่โด่งดังของศรีลังกา นอกจากที่ทำให้เศษซากชิ้นส่วน เช่น เม็ดพลาสติกหลายร้อยตันทะลักออกจากตู้สินค้าลอยเกลื่อนทะเลและซัดขึ้นชายหาด ขณะนี้รัฐบาลศรีลังกาได้สั่งห้ามทำการประมงในระยะ 80 กิโลเมตรจากชายฝั่งแล้ว เจ้าหน้าที่เผยว่า มีน้ำมันบนเรือราว 300 ตัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เผาไหม้ไปแล้วขณะไฟไหม้ สำนักข่าวเอพีได้เปิดเผยบัญชีสินค้าที่บรรทุกในเรือเอ็กซ์-เพรสส์ เพิร์ลที่ประกอบด้วยตู้สินค้าเกือบ 1,500 ตู้ โดย 8 ตู้ระบุเป็นสินค้า "อันตราย" นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเตือนว่า อาจเกิดหายนะต่อสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง เนื่องจากสินค้าอันตราย พลาสติก สารเคมี และน้ำมันอาจรั่วไหลลงทะเล และทำลายระบบนิเวศในทะเล เหตุการณ์ไฟไหม้บนเรือลำนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม เมื่อเรือทอดสมอห่างจากด้านตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโคลอมโบราว 18 กิโลเมตรเพื่อรอเข้าเทียบท่า กองทัพเรือเชื่อว่า สารเคมีในตู้สินค้าที่ขนขึ้นจากท่าเรือฮาซิราในอินเดียเป็นสาเหตุทำให้ไฟไหม้ ตำรวจศรีลังกากำลังสอบสวนเรื่องนี้ และศาลในโคลอมโบสั่งห้ามกัปตัน วิศวกร และผู้ช่วยวิศวกรของเรือลำนี้เดินทางออกนอกประเทศ และรัฐบาลเผยว่า จะดำเนินการทางกฎหมายกับเจ้าของเรือเพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหาย https://mgronline.com/around/detail/9640000054606
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์
วันทะเลโลก 'วราวุธ' ย้ำด้วยมือคนไทยทำทะเลไทยสมบูรณ์ ร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรคู่วิถีชีวิต 6 มิ.ย.64 - ด้วยวันที่ 8 มิถุนายน ของทุกปี ได้ถูกกำหนดให้เป็นวันทะเลโลก เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทะเลและทรัพยากรทางทะเล พร้อมกระตุ้นเตือนให้สังคมร่วมกันอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรทางทะเลได้อย่างยั่งยืน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงความทุ่มเทและการให้ความสำคัญในการดูแลทรัพยากรทางทะเลให้คงความสมบูรณ์และเกิดการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนของรัฐบาล ภายใต้ปัญหาและข้อจำกัดต่างๆ กลับสร้างความท้าทายในการทำงานให้กับทุกภาคส่วน โดยย้ำว่าทุกความสำเร็จและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลเกิดจากความร่วมมือของคนไทยทุกคน สำหรับในด้านวิชาการ ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เผยสถิติสัตว์ทะเลหายากอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นมาก พร้อมแนะยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการโดยความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อความยั่งยืน นายวราวุธ กล่าวว่า แหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่บริหารจัดการได้ยากที่สุด คือ ทะเล เนื่องจาก เป็นฐานทรัพยากรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป็นแหล่งสร้างสมดุลของระบบนิเวศของโลก เป็นพื้นที่รองรับของเสียและปัญหาจากกิจกรรมของมนุษย์ ดังนั้น รัฐบาลจึงมองว่า การบริหารจัดการทะเลเป็นเรื่องสำคัญและท้าท้ายเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ตนได้มีโอกาสลงพื้นที่ทางทะเลหลายครั้ง ได้เห็นปัญหาและพยายามแก้ปัญหาจนสำเร็จไปได้ แต่ก็ยังมีอีกหลายปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข มีสิ่งหนึ่งที่ตนรู้สึกภูมิใจ ไม่ใช่ทรัพยากรทางทะเลของไทยมีความสมบูรณ์ขึ้น ระบบนิเวศสมดุลขึ้นเท่านั้น แต่เป็นความร่วมมือ ร่วมใจของพี่น้องประชาชนทุกคนที่เห็นความสำคัญของทะเลไทยมากขึ้น มีส่วนร่วมมากขึ้น และเข้าใจว่าทรัพยากรทางทะเลเป็นของลูกหลานที่เรายืมเขามาใช้ และต้องดูแลเพื่อส่งคืนลูกหลานในอนาคต วันที่ 8 มิถุนายน ของทุกปี ได้ถูกกำหนดให้เป็น ?วันทะเลโลก? เพื่อกระตุ้นเตือนให้ทุกคนเห็นความสำคัญของท้องทะเลและทรัพยากรทางทะเล ตนเชื่อมั่นว่า ด้วยวิกฤติปัญหาต่าง ๆ ที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนยังคงให้ความสำคัญ คือ การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส.และ นายจตุพร บุรุษ์พัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการเร่งขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลร่วมกับหน่วยงานภาครัฐส่วนกลาง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชน ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงต้องให้เกิดการบริหารจัดการและการใช้ประโยชน์อย่างสมดุลและยั่งยืน อีกทั้ง ต้องเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภายใต้การกำกับสั่งการ ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า การจัดงานวันทะเลโลกในปีนี้ มีข้อจำกัดหลายประการ จากสถานการณ์โรคไวรัสโควิด -19 กรมฯ จึงจัดกิจกรรมเพียงบางพื้นที่ เพื่อกระตุ้นเตือนสังคมให้เห็นถึงความสำคัญของท้องทะเลและทรัพยากรทางทะเล พร้อมกันนี้ ได้จัดประกวดคำขวัญวันทะเลโลก ประจำปี 2564 ซึ่งมีผู้สนใจส่งเข้าร่วมจำนวนมาก โดยคำขวัญที่ชนะการประกวดในปีนี้ คือ "รู้รักษามหาสมุทร เพื่อวิถีมนุษย์ที่ยั่งยืน" ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อการจัดกิจกรรมที่ทางสหประชาชาติกำหนดว่า "The Ocean : Live and Livelihoods" นอกจากนี้ กรมฯ ได้จัดทำสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านทางช่องทางต่าง ๆ เพื่อแสดงถึงความสำเร็จในการดูแลทรัพยากรทางทะเลของไทย ที่เกิดจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนคนไทย และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลทุกคน ด้านนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลและสัตว์ทะเลชื่อดัง ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ตนในฐานะนักวิชาการที่ติดตามสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมาโดยตลอด ตนมองว่าภาพรวมของการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลของไทยค่อนข้างมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะการอนุรักษ์และดูแลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเล ซึ่งในปัจจุบันพบสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 28 ชนิด เป็นโลมาและวาฬ 27 ชนิด และพะยูน 1 ชนิด แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่อาศัยอยู่ประจำถิ่นใกล้ฝั่งพบเห็นได้บ่อยครั้ง จำนวน 7 ชนิด ได้แก่ พะยูน วาฬบรูด้า วาฬโอมูระ โลมาอิรวดี โลมาหัวบาตรหลังเรียบ โลมา หลังโหนก และโลมาปากขวด กลุ่มที่อาศัยอยู่ในทะเลเปิด เป็นกลุ่มที่มีการอพยพย้ายถิ่นระยะไกลมีแหล่งอาศัยค่อนข้างกว้างอาศัยบริเวณไกลฝั่งพบ 21 ชนิด เช่น วาฬสีน้ำเงิน วาฬหัวทุย วาฬนำร่องครีบสั้น โลมาฟราเซอร์ โลมากระโดด และโลมาปากยาว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าการดูแลทรัพยากรสัตว์ทะเลหายากเป็นเรื่องที่ท้าทาย ซึ่งหลายหน่วยงานต้องร่วมมือกัน ซึ่งตนเห็นว่าการทำงานของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ได้พยายามขับเคลื่อนการดำเนินงานจนเห็นผลดีเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเร่งขับเคลื่อนซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะจากประชาชนและชุมชนในพื้นที่ https://www.thaipost.net/main/detail/105464
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|