เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 21-08-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนบางแห่งในระยะนี้ ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซียและช่องแคบมะละกา ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย

อนึ่ง พายุโซนร้อน "โอไมส์" บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไต้หวัน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 21 - 23 ส.ค. 64 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนบางแห่ง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 24 - 26 ส.ค. 64 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ในขณะในที่ในช่วงวันที่ 25 ? 26 ส.ค. 64 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ตลอดช่วง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 24 - 26 ส.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 21-08-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ผุดเกาะใหม่นอกชายฝั่งญี่ปุ่น หลังภูเขาไฟใต้ทะเลเกิดการปะทุรุนแรง

ญี่ปุ่นพบ "เกาะใหม่" ผุดขึ้นมากลางทะเล ภายหลังการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการสั่งห้ามเรือเข้าไปใกล้แล้ว ด้านนักธรณีวิทยาเฝ้าสังเกตปรากฏการณ์อย่างใกล้ชิด



เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เว็บไซต์ข่าว เดอะ การ์เดียน รายงานว่า หน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นเปิดเผยภาพถ่ายทางอากาศพบเกาะใหม่เป็นรูปทรงพระจันทร์เสี้ยว ผุดขึ้นมาจากใต้ทะเลนอกชายฝั่งทะเลของญี่ปุ่น ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางใต้เกือบ 1,200 กิโลเมตร โดยเกาะนี้ได้รับการตั้งชื่อว่าเกาะ "นีจิม่า" ที่แปลว่าเกาะใหม่ เพิ่งผุดขึ้นมาในทะเลกลางมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ ได้เพียง 2 วันหลังการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเลที่มีชื่อว่า "ฟุคุโตขุ โอคาโนะบะ" เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา

รายงานข่าวระบุว่า จนถึงตอนนี้ภูเขาไฟใต้น้ำลูกนี้ก็ยังคงมีการปะทุอยู่อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดของบรรดานักธรณีวิทยา และหน่วยยามฝั่งเนื่องจากเป็นการระเบิดครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ล่าสุดได้มีการประกาศคำเตือนห้ามเรือเข้าไปใกล้บริเวณนี้แล้ว

โดยเกาะนีจิม่า แห่งนี้มีความกว้างประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ยามฝั่งบินสำรวจทางอากาศมาพบเกาะนี้เข้า และกำลังจับตาดูว่ามันจะอยู่ได้นานแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ การระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำลูกนี้ ก็เคยทำให้มีเกาะใหม่ผุดขึ้นมา 3 เกาะ แต่ไม่นานก็เกาะใหม่ก็ยุบตัวลงไปในทะเลตามเดิม

ขณะที่ในอดีตที่ผ่านมาการผุดขึ้นของเกาะใหม่หลายเกาะของญี่ปุ่นมักทำให้เกิดปัญหากับเพื่อนบ้านทั้งฟิลิปปินส์ จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน เพราะจะส่งผลต่อการกำหนดเขตน่านน้ำใหม่ที่อาจจะขยายออกไปล้ำน่านน้ำเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นรายงานว่า เกาะนีจิม่าอยู่ใกล้กับเกาะอิโวจิม่าใต้ ซึ่งเป็นเกาะสุดเขตน่านน้ำของญี่ปุ่นอยู่แล้ว ทำให้เชื่อว่าต่อให้เกาะนีจิม่าตั้งอยู่ได้นาน ก็คงจะไม่ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรต่อเขตน่านน้ำทางใต้ของญี่ปุ่นมากนัก.

ที่มา Guardian


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2171347


*********************************************************************************************************************************************************


แบคทีเรีย ช่วยให้ปะการังรอดจากความร้อน



การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้อุณหภูมิของมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้น นำมาซึ่งการขัดขวางความสัมพันธ์ระหว่างปะการังกับสาหร่ายสังเคราะห์แสงที่พึ่งพากัน และทำให้ปะการังเกิดการฟอกขาว บางกรณีอาจทำให้ปะการังตายไปในที่สุด

ล่าสุด นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคิงอับดุลลาห์ (KAUST) ในซาอุดีอาระเบีย ได้นำเสนอวิธีจัดการกับไมโครไบโอม (microbiome) หรือจุลินทรีย์ธรรมชาติที่พบอยู่บนผิวปะการัง ที่จะช่วยให้ปะการังรอดจากความร้อน อาจเพิ่มความทนทานต่อความเครียด ซึ่งทีมวิจัยได้เลือกแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ 6 สายพันธุ์โดยแยกออกมาจากปะการังแข็งชื่อ Mussismilia hispida จากนั้นก็นำแบคทีเรียเหล่านั้นไปใช้เพาะเลี้ยงเชื้อ ในเวลาเดียวกันปะการังก็ถูกบำบัดความเครียดด้วยความร้อน ให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น 30 องศาเซลเซียสในช่วง 10 วัน ก่อนที่จะลดลงเหลือ 26 องศาเซลเซียส นักวิจัยได้ตรวจสอบสุขภาพของปะการังและวัดความหลากหลายของจุลินทรีย์ รวมถึงปัจจัยการเผาผลาญในการรักษาที่มีและไม่มีโปรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กที่จัดเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดี รวมถึงความเครียดจากความร้อน

การวิจัยใหม่ระบุว่า การรักษาปะการังด้วยโปรไบโอติกของแบคทีเรียหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ได้ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตหลังปะการังเกิดการฟอกขาว ที่สำคัญคือเมื่อมีการคาดการณ์คลื่นความร้อน ก็สามารถทำวิธีการล่วงหน้าได้เพื่อช่วยให้ปะการังฟื้นตัวจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2170952

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 21-08-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


นักท่องเที่ยวตะลึง! พบฉลามขาวยักษ์ 2 ตัว แทะซากวาฬ อย่างหิวโหย

การพบเห็นฉลามขาวตัวยักษ์ในทะเลเป็นเรื่องยาก ยิ่งตอนที่กินอาหารอันโอชะนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ จึงเป็นความโชคดีของนักท่องเที่ยวล่องเรือชมวาฬที่ได้พบเจอ



เหตุการณ์เกิดขึ้นชายฝั่ง รัฐแมสซาชูเซตส์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะนักท่องเที่ยวกำลังล่องเรือมองหาวาฬอยู่นั้น พวกเขาก็ต้องพบเจอกับความตะลึงจากนักล่าฉลามขาวขนาดมหึมา 2 ตัวกำลังแทะซากวาฬ

ช่วงเวลาอันน่าเหลือเชื่อถูกแชร์ผ่านเฟซบุ๊กบริษัทล่องเรือชมวาฬ Captain John Boats ซึ่งในวิดีโอแสดงภาพฉลามขนาดใหญ่สองตัวแหวกว่ายไปมาในมหาสมุทร ขณะพยายามฉีกกัดเนื้อออกจากร่างของวาฬหลังค่อมที่ตายแล้ว

จอห์น ก็อกกิน กัปตันผู้นำเรือกล่าวว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น? นักท่องเที่ยวหลายคนบนเรือค่อนข้างตื่นเต้น มีคนตะโกนว่า "โอ้ พระเจ้า!" "ว้าว!" "พวกมันตัวใหญ่มาก"

นับตั้งแต่ถูกแชร์บนเฟซบุ๊ก มียอดรับชมถึง 28,000 ครั้งและมีหลายร้อยคนแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะ "มันทั้งน่ากลัวและน่าตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน" "วาฬตายจากสาเหตุอะไร" "วัฏจักรแห่งชีวิต" รวมไปถึงนักท่องเที่ยวบนเรือกล่าวว่า "มันเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ น่าอัศจรรย์ ที่สุดที่พวกเขาเคยเจอ"

ทางด้านนักชีววิทยาฉลามท้องถิ่น จอห์น ชิสโฮล์มโพสต์ภาพพร้อมแคปชั่น "สิ่งหนึ่งที่ยากที่สุดในการอธิบายคือ ฉลามขาวตัวใหญ่ขนาดไหนจนกว่าคุณจะเห็นมันด้วยตัวเอง ซึ่งขนาดของวาฬจะช่วยทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น" ผ่านเฟซบุ๊กของตนเอง อีกทั้งเขากล่าวเสริมว่า หนึ่งในฉลามขาวมีชื่อ เอนวาย ถูกค้นพบในปี 2560 และคาดว่าจะมีความยาวประมาณ 16 ? 17 ฟุต

ขอบคุณที่มาจาก Boston Dailystar


https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_6575208
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:12


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger