#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2567
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และทะเลจีนใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนัก โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดจากฝั่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 22 ? 26 มิ.ย. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีค่อนข้างแรง ประกอบกับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางซึ่งมีแนวโน้มมีกำลังแรงขึ้นโดยมีทิศทางการเคลื่อนที่ไปทางเกาะไหหลำ และอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร หลังจากนั้นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 22 - 26 มิ.ย. 67
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
คราบน้ำมันจากเหตุเรือชนกันที่สิงคโปร์ ลอยไปถึงมาเลเซียแล้ว รัฐทางตอนใต้ของมาเลเซียทำความสะอาดคราบน้ำมัน ซึ่งลอยมาจากเหตุเรือชนกันที่สิงคโปร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เครดิตภาพ : AFP. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ว่าทางการรัฐยะโฮร์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของมาเลเซีย รายงานการระดมกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ที่จำเป็น เพื่อการกำจัดคราบน้ำมันตามแนวชายหาด 2 แห่งในพื้นที่ โดยรัศมีของคราบน้ำมันกว้างประมาณ 1 กิโลเมตร ขณะเดียวกัน ทางการรัฐยะโฮร์กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด และประสานงานกับรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐแห่งอื่นในมาเลเซีย ว่าคราบน้ำมันจะแผ่ออกไปปกคลุมชายฝั่งแห่งอื่นด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ คราบน้ำมันดังกล่าวลอยมาจากสิงคโปร์ โดยสำนักงานพาณิชยนาวีและท่าเรือสิงคโปร์ให้ข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเกิดอุบัติเหตุเรือขุดลำหนึ่งของเนเธอร์แลนด์ ชนเข้ากับเรือบังเกอร์ของสิงคโปร์ บริเวณท่าเทียบเรือปาซีร์ ปันจัง ใกล้กับเกาะเซนโตซา เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ผ่านมา ด้านสำนักงานบริหารจัดการเกาะเซนโตซาสั่งปิดน่านน้ำรอบพื้นที่อย่างไม่มีกำหนด จนกว่าขั้นตอนกำจัดคราบน้ำมันและการทำความสะอาดที่เกี่ยวข้องจะเสร็จสิ้น. https://www.dailynews.co.th/news/3561541/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก SpringNews
หนูกลัวสงคราม! "วาฬเบลูกา" 2 ตัวจากยูเครน ถูกย้ายหนีสงครามไปบ้านใหม่สเปน SHORT CUT - ข่าวดี! ได้มีการเคลื่อนย้ายวาฬบูเลกาสองตัว จากเมืองคาร์คีฟ ประเทศยูเครน ไปยังเมืองวาเลนเซีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของสเปนแล้ว หลังพวกมันต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสงครามมานาน - นักชีววิทยาทางทะเลบรรยายว่า ภารกิจช่วยเหลือและย้ายบ้านใหม่ให้พวกมันเป็นอะไรที่ใช้เวลายาวนานและมีความเสี่ยงที่สุดตั้งแต่เคยทำมาวาฬบูเลกาสองตัวเป็นตัวเมียหนึ่งตัว และผู้หนึ่งตัว - สำหรับการเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นจากการเคลื่อนย้ายพวกมันในอ่างขนาดใหญ่ที่มีน้ำ และใส่เข้าไปในตู้ไม้ขนาดใหญ่อีกที ก่อนจะเดินทางด้วยรถยนต์ทางถนนจากเมืองคาร์คีฟ ไปเมืองโอเดสซ่า คำว่าสงคราม มักมีแต่ความเสียหาย และล้มตาย ขนาดน้องวาฬเบลูกา? 2 ตัวจากยูเครน ยังทนมาไหว ล่าสุดนักชีววิทยาทางทะเลได้ทำการเคลื่อนย้ายน้องๆไปที่สเปน อย่างปลอดภัยแล้ว นักชีววิทยาทางทะเลทำการเคลื่อนย้ายเจ้าวาฬเบลูกาสองตัว จากเมืองคาร์คีฟ ประเทศยูเครน ไปยังเมืองวาเลนเซีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของสเปนแล้ว หลังพวกมันต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสงครามมานาน โดยบรรดานักชีววิทยาทางทะเลบรรยายว่า ภารกิจช่วยเหลือและย้ายบ้านใหม่ให้พวกมันเป็นอะไรที่ใช้เวลายาวนานและมีความเสี่ยงที่สุดตั้งแต่เคยทำมา วาฬเบลูกาสองตัวเป็นตัวเมียหนึ่งตัว และผู้หนึ่งตัว ตัวเมียชื่อว่า มิแรนดา อายุ 14 ปี ส่วนตัวผู้ชื่อว่าปลอมเบียร์ อายุ 15 ปี พวกมันเดินทางถึงศูนย์ Oceanografic ในเมืองวาเลนเซียเรียบร้อยเมื่อวันพุธที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับการเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นจากการเคลื่อนย้ายพวกมันในอ่างขนาดใหญ่ที่มีน้ำ และใส่เข้าไปในตู้ไม้ขนาดใหญ่อีกที ก่อนจะเดินทางด้วยรถยนต์ทางถนนจากเมืองคาร์คีฟ ไปเมืองโอเดสซ่า ดาเนียล การ์เซีย ปาร์รากา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการสวนสัตว์ของศูนย์ Oceanografic เปิดเผยว่า ถ้าหากกล่องที่ใช้เคลื่อนย้ายวาฬทั้งสองไม่มีความทนทานมากพอ ก็อาจจะเกิดน้ำรั่วออกมาได้ และถ้าเป็นเช่นนั้นวาฬก็จะตาย หลังจากเดินทางถึงเมืองโอเดสซ่า ผู้ดูแลเจ้าวาฬทั้งสองจากยูเครนก็ได้พบกับทีมสัตวแพทย์จากศูนย์ Oceanografic ของสเปน รวมถึงจากหน่วยงานอื่นๆ และเริ่มมีการตรวจสุขภาพของวาฬ ก่อนจะเริ่มต้นการเดินทางข้ามพรมแดนไปยังประเทศมอลโดวา ซึ่งพวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานของสหภาพยุโรป และเมื่อไปถึงกรุงคีชีเนา พวกมันก็ถูกนำขึ้นเครื่องบิน บินต่อไปยังเมืองวาเลนเซีย ใช้เวลา 5 ชั่วโมง ปาร์รากาบอกว่า จริงๆแล้วสภาพร่างกายของวาฬทั้งคู่ไม่เหมาะที่จะเดินทางไกลแบบนั้น แต่ถ้าหากพวกมันอยู่ในเมืองคาร์คีฟต่อ โอกาสที่พวกมันจะมีชีวิตรอดก็ริบหรี่มาก https://www.springnews.co.th/keep-th...ronment/851110
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|