เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 15-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นนี้ไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 15 - 16 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมปร้เทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง

ส่วนในช่วงวันที่ 17 - 20 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 4 - 6 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 15-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ทะเลคลั่งกัดเซาะชายฝั่งหัวไทรต่อเนื่อง ชาวบ้านแฉเหตุสร้างแนวหินกันคลื่นส่งผลรุนแรง

นครศรีธรรมราช - คลื่นถล่มกัดเซาะชายฝั่งหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นมะพร้าว และต้นสนล้มระเนระนาด ชาวบ้านแฉเหตุสร้างแนวกันคลื่นหินทิ้ง จนส่งผลกระทบแล้ว ไร้ความรับผิดชอบ



วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ชุมชนริมทะเล บ้านโพธิ์ทะเลงาม หมู่ 5 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านหลายคนยังคงหวาดวิตกกับกระแสคลื่นทะเลที่ทวีกำลังแรง ซัดเข้ากัดเซาะชายหาดลึกเข้ามาถึงชุมชน ทำให้แนวสวนมะพร้าว ป่าสนทะเลขนาดใหญ่โค่นล้มระเนระนาดจำนวนมาก เป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร บางส่วนยังกัดเซาะบ้านเรือน จนเทศบาลตำบลหน้าสตน ต้องขนกระสอบทรายมาทิ้งเป็นแนวป้องกัน ไม่ให้คลื่นเข้ากัดเซาะฐานรากของตัวบ้าน การกัดเซาะอย่างรุนแรงได้เกิดขึ้นตั้งแต่วานนี้จนกระทั่งวันนี้ แม้กำลังคลื่นจะบรรเทาความรุนแรงลง แต่ยังคงกัดเซาะอย่างหนัก

นางสุชีพ จรัญสุข อายุ 62 ปี ชาวบ้านโพธิ์ทะเลงาม เปิดเผยว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นมาจากการก่อสร้างแนวหินกันคลื่น บริเวณบ้านโพธิ์ทะเลงามเป็นปลายสุดของโครงการที่ไม่มีการวางแผนแก้ไขปัญหาใดๆ หากไม่มีการทำโครงการชาวบ้านคงไม่เดือดร้อนเช่นนี้ แต่เมื่อทำแล้วชาวบ้านเดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน เขามาพูดว่าจะช่วยไม่รู้กี่ครั้งแล้ว จนบ้านพัง ต้นมะพร้าวต้นสนพังไปหมด ทำได้กับตาสีตาสาไม่สงสารชาวบ้านเลย

ขณะที่ชาวบ้านยังคงหวาดวิตกกับหน้ามรสุมฤดูกาลนี้ที่คลื่นลมมีกำลังแรงอย่างมาก และหวั่นว่าตามคำเตือนในวันที่ 18 ม.ค.นี้ จะเกิดความรุนแรงของคลื่นอีกครั้ง ชาวบ้านต้องเร่งย้ายเล้าไก่ คอกวัว ออกจากแนวกัดเซาะ ขณะนี้แนวกัดเซาะจากชายหาดเดิมเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 50 เมตร และมีความยาวตลอดแนวหาดมากกว่า 400-500 เมตรแล้ว

ด้าน นายเกษม จิตรานนท์ ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านโพธิ์ทะเลงาม ยืนยันถึงการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงนั้น เกิดจากการก่อสร้างแนวกันคลื่นของทางราชการ ขอเรียกร้องให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งเคลื่อนย้ายหินป้องกันชุมชนชาวบ้านก่อน 2 วันนี้กินไปกว่า 400 เมตรแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการไม่ได้ทำอะไรให้ชาวบ้านเลย มาดูแลชาวบ้านจริงเวลาเกิดเหตุ มาตกปากรับคำแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเช่นเดิม


https://mgronline.com/south/detail/9640000003760


*********************************************************************************************************************************************************


คลื่นซัดชายหาดปากน้ำปราณหาย แนวเขื่อนพังราบ แต่ยังไร้การแก้ปัญหาจากภาครัฐที่ชัดเจน

ประจวบคีรีขันธ์ - คลื่นลมแรงในทะเลพัดเข้าหาชายฝั่ง น้ำทะเลกัดเซาะจนเขื่อนกันคลื่น ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ พังได้รับความเสียหายยาวเพิ่มมากขึ้น เทศบาลตำบลปากน้ำปราณ ต้องนำธงแดงมาปักห้ามไม่ให้เข้าบริเวณพื้นที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะเกรงจะเป็นอันตราย



วันนี้ (14 ม.ค) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบริเวณ ชายหาดปากน้ำปราณ ในเขตเทศบาลปราณบุรี ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับการแจ้งจากชาวบ้านว่า เขื่อนกันคลื่นได้รับความเสียหายต่อเนื่องมาหลายปี ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งร้านอาหาร ทำให้ปัจจุบันการกัดเซาะหนักขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้

สภาพเขื่อนกันคลื่นได้รับความเสียหายเป็นแนวยาว ตั้งแต่สะพานปลา มาถึงบริเวณร้านอาหารจนไปถึงบริเวณแนวเขื่อนกันคลื่นอีกส่วนที่ยังไม่เสียหาย บริเวณจุดที่เสียหายเกิดจากคลื่นลมมรสุมรุนแรงของทุกปีที่ซัดเข้าหาชายฝั่งปากน้ำปราณจนสร้างความเสียหายอย่างหนัก พื้นที่หาดถูกกัดเซาะเข้ามาด้านในกว่า 5 เมตร ทั้งที่เป็นร้านอาหาร และบริเวณลานพักผ่อนปูตัวหนอนแนวต้นสนหายไปถึง 2 ชั้นแล้วในปัจจุบันนี้

นายธงชัย สุณาพันธ์ ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำปราณ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกปีและปีนี้ยอมรับว่าหนัก การกัดเซาะลึกเข้ามาในพื้นที่ด้านใน ซึ่งปัญหาการกัดเซาะที่นี่ ตนเองได้ทำหนังสือให้อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้รับทราบแล้วเมื่อวานนี้ถึงความเสียหายแนวยาวหลายร้อยเมตร ซึ่งการดำเนินการต้องอาศัยกรมโยธาธิการและผังเมือง ลำพังเทศบาลไม่สามารถดำเนินการได้ ยิ่งตอนนี้สะพานปลาเก่าเหลือแต่เสาทำให้กระแสคลื่นซัดเข้ามาในจุดที่พบเสียหายอย่างหนัก และรุนแรงขึ้น ทางเทศบาลทำได้เพียงปักธงแดง และกั้นแนวเชือกและแนวรั้วไม้ไผ่เท่านั้น ห้ามทุกคนเข้าไปเป็นจุดอันตราย หากแก้ไขเฉพาะหน้าต้องรอให้คลื่นลมสงบในช่วงเดือนมีนาคมนี้ จะนำถุงบิ๊กแบ็กไปทิ้งเอาไว้เพื่อเป็นแนวป้องกันชั่วคราว จนกว่าหน่วยงานจะเข้ามาซ่อมแซมและน่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก

ด้าน น.ส.ธนวัฒน์ ธนศร เข้าของร้านอาหารชวนนั่ง กล่าวว่า คลื่นลมแรงตั้งแต่ก่อนปีใหม่ซัดเข้าหาฝั่งอย่างหนัก จนกัดเซาะเข้ามาด้านใต้พื้นศูนย์อาหาร และหลังปีใหม่ก็ยังหนักอยู่จึงว่าจ้างรถลงไปตักทรายเข้ามาถมด้านใต้ไปบ้างแล้ว โชคดีวันนี้คลื่นลมเริ่มเบาเริ่มพัดทรายเข้ามาบ้าง แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขเพราะเกิดขึ้นทุกปี และเป็นอันตราย


https://mgronline.com/local/detail/9640000003916

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 15-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


สลดเขาใหญ่! ช้างป่า บุกเต็นท์นักท่องเที่ยว เหยียบดับ 1 ขณะหลับกลางดึก

ช้างป่าบุกเต็นท์ เหยียบนักท่องเที่ยวดับสลด 1 ราย กลางเขาใหญ่ ก่อนส่งเสียงคำราม จนแตกตื่นวิ่งหนีตายกันกระเจิงท่ามกลางความมืด



เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 15 ม.ค. 2564 นักท่องเที่ยวที่ไปกางเต็นท์พักแรมบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีช้างป่าเดินเข้ามาในลานกางเต็นท์ บริเวณตรงข้ามกับสำนักงานผากล้วยไม้กลางดึก ขณะนักท่องเที่ยวนอนหลับพักผ่อนภายในเต็นท์ และทำร้ายนักท่องเที่ยวชายไทย โดยใช้เท้าเหยียบจนเสียชีวิต ก่อนร้องคำรามจนนักท่องเที่ยวที่นอนในเต็นท์แตกตื่นวิ่งหนีกันกระเจิงท่ามกลางความมืด ทราบว่าน่าจะเป็นช้างป่าที่เคยออกมาหากินและเคยรื้อเต็นท์บริเวณผากล้วยไม้มาแล้ว

ต่อมานายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับแจ้งจากนายอุทัย หัวหน้าลานกางเต็นท์ผากกล้วยไม้ จึงรีบออกไปตรวจสอบ ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมากางเต็นท์นอนพักแรมบริเวณลานฝั่งตรงข้ามสำนักงาน ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่าง จ.ปราจีนบุรี และ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยพ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง ผกก.สภ.หมูสี อ.ปากช่อง อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด


https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_5738977

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 15-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


ชายออสเตรเลียถูกฉลามจู่โจมที่นครเพิร์ท



เพิร์ท 14 ม.ค. ? ชายชาวออสเตรเลียถูกฉลามกัดที่ต้นขาซ้ายขณะกำลังว่ายน้ำในแม่น้ำสวอนของนครเพิร์ท ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย นับเป็นเหตุฉลามจู่โจมในแม่น้ำครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี

เจ้าหน้าที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเผยว่า ชายคนดังกล่าวถูกฉลามหัวบาตรขนาดลำตัวยาว 2-3 เมตรจู่โจมขณะที่กำลังว่ายน้ำในช่วงเช้าที่เขตอนุรักษ์แบล็กวอลล์รีชของนครเพิร์ท ผู้เห็นเหตุการณ์ที่ช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมาบนฝั่งเล่าว่า เขาถูกฉลามกัดที่ต้นขาซ้ายเป็นแผลเหวอะหวะ และมีเลือดสีแดงกระจายอยู่ในน้ำเต็มไปหมด ขณะที่โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินท้องถิ่นระบุว่า ชายคนดังกล่าวได้รับการส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรอยัลเพิร์ทในสภาพที่มีอาการหนัก ในเวลาต่อมาสื่อท้องถิ่นของออสเตรเลียรายงานว่า ชายที่ถูกฉลามกัดมีอายุราว 50 ปีเศษ และมีอาการดีขึ้นแล้ว นอกจากนี้ แถลงการณ์ของสำนักงานพัฒนาท้องถิ่นและอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียยังระบุว่า ได้สั่งปิดสถานที่เกิดเหตุฉลามจู่โจมบริเวณแม่น้ำสวอนไปจนถึงวันพรุ่งนี้แล้ว

แม้ว่านครเพิร์ทและพื้นที่ชายฝั่งของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียขึ้นชื่อเรื่องฉลามขาวชุกชุมและเคยเกิดเหตุฉลามจู่โจมหลายครั้ง ซึ่งทำให้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องสั่งปิดชายหาดหลายแห่ง เนื่องจากมีผู้พบเห็นฉลามมากขึ้น แต่เหตุฉลามจู่โจมล่าสุดที่เกิดขึ้นบริเวณปากแม่น้ำสวอนในเมืองฟรีแมนเทิล ซึ่งเป็นเมืองท่าที่ตั้งอยู่ทางใต้ของนครเพิร์ทนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก ครั้งล่าสุดที่มีรายงานฉลามจู่โจมเกิดขึ้นในปี 2512 และก่อนหน้านั้นมีเหตุฉลามกัดคนเสียชีวิตและอีกคนถูกกัดที่ขาในปี 2466.


https://tna.mcot.net/world-617794

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:47


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger