#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นนี้ไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 15 - 16 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมปร้เทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ส่วนในช่วงวันที่ 17 - 20 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 4 - 6 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ทะเลคลั่งกัดเซาะชายฝั่งหัวไทรต่อเนื่อง ชาวบ้านแฉเหตุสร้างแนวหินกันคลื่นส่งผลรุนแรง นครศรีธรรมราช - คลื่นถล่มกัดเซาะชายฝั่งหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นมะพร้าว และต้นสนล้มระเนระนาด ชาวบ้านแฉเหตุสร้างแนวกันคลื่นหินทิ้ง จนส่งผลกระทบแล้ว ไร้ความรับผิดชอบ วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ชุมชนริมทะเล บ้านโพธิ์ทะเลงาม หมู่ 5 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านหลายคนยังคงหวาดวิตกกับกระแสคลื่นทะเลที่ทวีกำลังแรง ซัดเข้ากัดเซาะชายหาดลึกเข้ามาถึงชุมชน ทำให้แนวสวนมะพร้าว ป่าสนทะเลขนาดใหญ่โค่นล้มระเนระนาดจำนวนมาก เป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร บางส่วนยังกัดเซาะบ้านเรือน จนเทศบาลตำบลหน้าสตน ต้องขนกระสอบทรายมาทิ้งเป็นแนวป้องกัน ไม่ให้คลื่นเข้ากัดเซาะฐานรากของตัวบ้าน การกัดเซาะอย่างรุนแรงได้เกิดขึ้นตั้งแต่วานนี้จนกระทั่งวันนี้ แม้กำลังคลื่นจะบรรเทาความรุนแรงลง แต่ยังคงกัดเซาะอย่างหนัก นางสุชีพ จรัญสุข อายุ 62 ปี ชาวบ้านโพธิ์ทะเลงาม เปิดเผยว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นมาจากการก่อสร้างแนวหินกันคลื่น บริเวณบ้านโพธิ์ทะเลงามเป็นปลายสุดของโครงการที่ไม่มีการวางแผนแก้ไขปัญหาใดๆ หากไม่มีการทำโครงการชาวบ้านคงไม่เดือดร้อนเช่นนี้ แต่เมื่อทำแล้วชาวบ้านเดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน เขามาพูดว่าจะช่วยไม่รู้กี่ครั้งแล้ว จนบ้านพัง ต้นมะพร้าวต้นสนพังไปหมด ทำได้กับตาสีตาสาไม่สงสารชาวบ้านเลย ขณะที่ชาวบ้านยังคงหวาดวิตกกับหน้ามรสุมฤดูกาลนี้ที่คลื่นลมมีกำลังแรงอย่างมาก และหวั่นว่าตามคำเตือนในวันที่ 18 ม.ค.นี้ จะเกิดความรุนแรงของคลื่นอีกครั้ง ชาวบ้านต้องเร่งย้ายเล้าไก่ คอกวัว ออกจากแนวกัดเซาะ ขณะนี้แนวกัดเซาะจากชายหาดเดิมเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 50 เมตร และมีความยาวตลอดแนวหาดมากกว่า 400-500 เมตรแล้ว ด้าน นายเกษม จิตรานนท์ ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านโพธิ์ทะเลงาม ยืนยันถึงการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงนั้น เกิดจากการก่อสร้างแนวกันคลื่นของทางราชการ ขอเรียกร้องให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งเคลื่อนย้ายหินป้องกันชุมชนชาวบ้านก่อน 2 วันนี้กินไปกว่า 400 เมตรแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการไม่ได้ทำอะไรให้ชาวบ้านเลย มาดูแลชาวบ้านจริงเวลาเกิดเหตุ มาตกปากรับคำแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเช่นเดิม https://mgronline.com/south/detail/9640000003760 ********************************************************************************************************************************************************* คลื่นซัดชายหาดปากน้ำปราณหาย แนวเขื่อนพังราบ แต่ยังไร้การแก้ปัญหาจากภาครัฐที่ชัดเจน ประจวบคีรีขันธ์ - คลื่นลมแรงในทะเลพัดเข้าหาชายฝั่ง น้ำทะเลกัดเซาะจนเขื่อนกันคลื่น ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ พังได้รับความเสียหายยาวเพิ่มมากขึ้น เทศบาลตำบลปากน้ำปราณ ต้องนำธงแดงมาปักห้ามไม่ให้เข้าบริเวณพื้นที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะเกรงจะเป็นอันตราย วันนี้ (14 ม.ค) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบริเวณ ชายหาดปากน้ำปราณ ในเขตเทศบาลปราณบุรี ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับการแจ้งจากชาวบ้านว่า เขื่อนกันคลื่นได้รับความเสียหายต่อเนื่องมาหลายปี ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งร้านอาหาร ทำให้ปัจจุบันการกัดเซาะหนักขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ สภาพเขื่อนกันคลื่นได้รับความเสียหายเป็นแนวยาว ตั้งแต่สะพานปลา มาถึงบริเวณร้านอาหารจนไปถึงบริเวณแนวเขื่อนกันคลื่นอีกส่วนที่ยังไม่เสียหาย บริเวณจุดที่เสียหายเกิดจากคลื่นลมมรสุมรุนแรงของทุกปีที่ซัดเข้าหาชายฝั่งปากน้ำปราณจนสร้างความเสียหายอย่างหนัก พื้นที่หาดถูกกัดเซาะเข้ามาด้านในกว่า 5 เมตร ทั้งที่เป็นร้านอาหาร และบริเวณลานพักผ่อนปูตัวหนอนแนวต้นสนหายไปถึง 2 ชั้นแล้วในปัจจุบันนี้ นายธงชัย สุณาพันธ์ ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำปราณ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกปีและปีนี้ยอมรับว่าหนัก การกัดเซาะลึกเข้ามาในพื้นที่ด้านใน ซึ่งปัญหาการกัดเซาะที่นี่ ตนเองได้ทำหนังสือให้อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้รับทราบแล้วเมื่อวานนี้ถึงความเสียหายแนวยาวหลายร้อยเมตร ซึ่งการดำเนินการต้องอาศัยกรมโยธาธิการและผังเมือง ลำพังเทศบาลไม่สามารถดำเนินการได้ ยิ่งตอนนี้สะพานปลาเก่าเหลือแต่เสาทำให้กระแสคลื่นซัดเข้ามาในจุดที่พบเสียหายอย่างหนัก และรุนแรงขึ้น ทางเทศบาลทำได้เพียงปักธงแดง และกั้นแนวเชือกและแนวรั้วไม้ไผ่เท่านั้น ห้ามทุกคนเข้าไปเป็นจุดอันตราย หากแก้ไขเฉพาะหน้าต้องรอให้คลื่นลมสงบในช่วงเดือนมีนาคมนี้ จะนำถุงบิ๊กแบ็กไปทิ้งเอาไว้เพื่อเป็นแนวป้องกันชั่วคราว จนกว่าหน่วยงานจะเข้ามาซ่อมแซมและน่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ด้าน น.ส.ธนวัฒน์ ธนศร เข้าของร้านอาหารชวนนั่ง กล่าวว่า คลื่นลมแรงตั้งแต่ก่อนปีใหม่ซัดเข้าหาฝั่งอย่างหนัก จนกัดเซาะเข้ามาด้านใต้พื้นศูนย์อาหาร และหลังปีใหม่ก็ยังหนักอยู่จึงว่าจ้างรถลงไปตักทรายเข้ามาถมด้านใต้ไปบ้างแล้ว โชคดีวันนี้คลื่นลมเริ่มเบาเริ่มพัดทรายเข้ามาบ้าง แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขเพราะเกิดขึ้นทุกปี และเป็นอันตราย https://mgronline.com/local/detail/9640000003916
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
สลดเขาใหญ่! ช้างป่า บุกเต็นท์นักท่องเที่ยว เหยียบดับ 1 ขณะหลับกลางดึก ช้างป่าบุกเต็นท์ เหยียบนักท่องเที่ยวดับสลด 1 ราย กลางเขาใหญ่ ก่อนส่งเสียงคำราม จนแตกตื่นวิ่งหนีตายกันกระเจิงท่ามกลางความมืด เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 15 ม.ค. 2564 นักท่องเที่ยวที่ไปกางเต็นท์พักแรมบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีช้างป่าเดินเข้ามาในลานกางเต็นท์ บริเวณตรงข้ามกับสำนักงานผากล้วยไม้กลางดึก ขณะนักท่องเที่ยวนอนหลับพักผ่อนภายในเต็นท์ และทำร้ายนักท่องเที่ยวชายไทย โดยใช้เท้าเหยียบจนเสียชีวิต ก่อนร้องคำรามจนนักท่องเที่ยวที่นอนในเต็นท์แตกตื่นวิ่งหนีกันกระเจิงท่ามกลางความมืด ทราบว่าน่าจะเป็นช้างป่าที่เคยออกมาหากินและเคยรื้อเต็นท์บริเวณผากล้วยไม้มาแล้ว ต่อมานายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับแจ้งจากนายอุทัย หัวหน้าลานกางเต็นท์ผากกล้วยไม้ จึงรีบออกไปตรวจสอบ ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมากางเต็นท์นอนพักแรมบริเวณลานฝั่งตรงข้ามสำนักงาน ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่าง จ.ปราจีนบุรี และ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยพ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง ผกก.สภ.หมูสี อ.ปากช่อง อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_5738977
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย
ชายออสเตรเลียถูกฉลามจู่โจมที่นครเพิร์ท เพิร์ท 14 ม.ค. ? ชายชาวออสเตรเลียถูกฉลามกัดที่ต้นขาซ้ายขณะกำลังว่ายน้ำในแม่น้ำสวอนของนครเพิร์ท ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย นับเป็นเหตุฉลามจู่โจมในแม่น้ำครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี เจ้าหน้าที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเผยว่า ชายคนดังกล่าวถูกฉลามหัวบาตรขนาดลำตัวยาว 2-3 เมตรจู่โจมขณะที่กำลังว่ายน้ำในช่วงเช้าที่เขตอนุรักษ์แบล็กวอลล์รีชของนครเพิร์ท ผู้เห็นเหตุการณ์ที่ช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมาบนฝั่งเล่าว่า เขาถูกฉลามกัดที่ต้นขาซ้ายเป็นแผลเหวอะหวะ และมีเลือดสีแดงกระจายอยู่ในน้ำเต็มไปหมด ขณะที่โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินท้องถิ่นระบุว่า ชายคนดังกล่าวได้รับการส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรอยัลเพิร์ทในสภาพที่มีอาการหนัก ในเวลาต่อมาสื่อท้องถิ่นของออสเตรเลียรายงานว่า ชายที่ถูกฉลามกัดมีอายุราว 50 ปีเศษ และมีอาการดีขึ้นแล้ว นอกจากนี้ แถลงการณ์ของสำนักงานพัฒนาท้องถิ่นและอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียยังระบุว่า ได้สั่งปิดสถานที่เกิดเหตุฉลามจู่โจมบริเวณแม่น้ำสวอนไปจนถึงวันพรุ่งนี้แล้ว แม้ว่านครเพิร์ทและพื้นที่ชายฝั่งของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียขึ้นชื่อเรื่องฉลามขาวชุกชุมและเคยเกิดเหตุฉลามจู่โจมหลายครั้ง ซึ่งทำให้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องสั่งปิดชายหาดหลายแห่ง เนื่องจากมีผู้พบเห็นฉลามมากขึ้น แต่เหตุฉลามจู่โจมล่าสุดที่เกิดขึ้นบริเวณปากแม่น้ำสวอนในเมืองฟรีแมนเทิล ซึ่งเป็นเมืองท่าที่ตั้งอยู่ทางใต้ของนครเพิร์ทนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก ครั้งล่าสุดที่มีรายงานฉลามจู่โจมเกิดขึ้นในปี 2512 และก่อนหน้านั้นมีเหตุฉลามกัดคนเสียชีวิตและอีกคนถูกกัดที่ขาในปี 2466. https://tna.mcot.net/world-617794
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|