#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีฝนน้อย ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ ได้เคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางแล้ว คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 13-14 ต.ค. 65 ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 14-15 ต.ค. 65 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 13 ? 15 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย ขณะที่ในช่วงวันที่ 13 ? 14 ตุลาคม 65 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางและเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนใต้ ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 14 ? 15 ต.ค. 65 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนเพิ่มขึ้นโดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ส่วนในช่วงวันที่ 16 ? 18 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจะปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรงในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย และขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณฝนฟ้าคะนอง ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง " ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2565 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ ได้เคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางแล้ว คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 13-14 ต.ค. 65 ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 14-15 ต.ค. 65 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
สุดสลด วาฬนำร่องเกยตื้นหาดนิวซีแลนด์ 2 จุด ตายหมดแล้ว 477 ตัว วาฬนำร่อง 477 ตัวที่มาเกยตื้นชายหาด 2 จุดของประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ตายหมดทุกตัวแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ประสบปัญหาในการให้ความช่วยเหลือ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของประเทศนิวซีแลนด์เปิดเผยในวันพุธที่ 12 ต.ค. 2565 ว่า วาฬนำร่องกว่า 477 ตัวที่มาเกยตื้นบนชายหาด 2 จุดบนเกาะแชตแฮม ซึ่งห่างจากเกาะหลักราว 800 กม. เมื่อสัปดาห์ก่อนและเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว ตามการเปิดเผยของสำนักงานอนุรักษ์พันธุ์สัตว์นิวซีแลนด์ วาฬนำร่อง 232 ตัวมาเกยชายหาดของเมือง ตูปูอันกี บีช (Tupuangi Beach) บนเกาะแชตแฮม เมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) ก่อนที่อีก 245 ตัวจะมาเกยหาดไวเฮเร เบย์ (Waihere Bay) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นายดาเรน โกรเวอร์ ผู้จัดการขององค์กรไม่แสวงกำไร ?Project Jonah? ซึ่งมาร่วมภารกิจช่วยเหลือวาฬทั้ง 2 กลุ่มด้วยเปิดเผยว่า ไม่มีวาฬตัวใดเลยที่สามารถกลับไปลอยตัวในทะเลได้อีกครั้ง โดยพวกเขาไม่สามารถส่งนักประดาน้ำไปช่วยนำวาฬกลับสู่ทะเลได้เหมือนภารกิจก่อนๆ ได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกลและมีฉลามปรากฏตัวอยู่บริเวณนั้น สุดท้าย วาฬทั้งหมดก็เสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติหรือไม่ก็ถูกทำการุณยฆาต เพื่อให้พ้นจากความทรมาน และเนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ห่างไกล มีประชากรอยู่เพียง 600 คน จึงจะไม่มีการกลบฝังหรือขนซากวาฬลงทะเล แต่จะปล่อยให้เน่าเปื่อยหายไปตามกาลเวลา เหตุสลดล่าสุดยังเกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังจาก วาฬนำร่องประมาณ 200 ตัวเกยตื้นตายบนหาดแทสมาเนีย ของประเทศออสเตรเลีย ทั้งนี้ เหตุการณ์วาฬเกยตื้นกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน แต่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนได้ แต่มีการตั้งทฤษฎีว่า อาจเป็นเพราะความสับสนในระดับนำร่องของพวกมัน นายโกรเวอร์กล่าวว่า วาฬเหล่านี้พึ่งพาระบบหาตำแหน่งของวัตถุด้วยการสะท้อนกลับของเสียง หรือ เอคโค (echolocation) ที่มีติดตัวตามธรรมชาติ แต่ระบบนี้ไม่ได้บอกพวกมันว่า มันกำลังจะพ้นน้ำแล้ว เกาะแชตแฮมมีอาหารสำหรับวาฬมากมาย พวกมันเข้าใกล้ชายฝั่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการสับสน และอาจถูกกระแสน้ำดันเข้ามา พอรู้ตัวอีกที พวกมันก็เกยตื้นแล้ว https://www.thairath.co.th/news/foreign/2525695
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์
สุดเศร้า! พบซากเต่าตนุวัยเด็กนอนเกยหาดกมลา สุดสลด! ชาวบ้านพบซากเต่าตนุวัยเด็กลอยเกยหาดกมลา ภูเก็ต จนท.ถึงกับผงะซากเน่ามาก เตรียมผ่าพิสูจน์หาสาเหตุเสียชีวิต 12 ต.ค.2565 - นายสัตวแพทย์ปฐมพงษ์ จงจิตต์ สัตวแพทย์ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันกล่าวว่า เมื่อเวลา ประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบซากเต่าตนุที่บริเวณชายหาดกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ไปรับ จึงให้พลเมืองดีแจ้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กมลา ให้นำซากมาเก็บรักษาเบื้องต้น ที่ อบต.กมลา เมื่อเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ เดินทางไปถึง อบต.กมลา พบสภาพของซากเต่าดังกล่าว เป็นสภาพที่เน่ามาก เป็นเต่าตนุ วัยเด็ก น้ำหนัก ประมาณ 10 กิโลกรัม ขณะนี้อยู่ระหว่างนำซากเต่าดังกล่าว ทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย สำหรับช่วงนี้เป็นหน้ามรสุมและมีคลื่นลมแรง ทำให้จะพบเคสแบบนี้มาเรื่อยๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต https://www.thaipost.net/district-news/240849/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก อสมท.
แพ็กกระเป๋ารอเลย "หมู่เกาะสิมิลัน" เปิดรับนักท่องเที่ยว 15 ตุลาคม 2565 วันหยุดยาววางแพลนเที่ยวใต้กันเถอะ! แพ็กกระเป๋า เตรียมตัวเที่ยว ดำน้ำ ถ่ายรูป ดูปะการัง ท่องทะเลอันดามัน ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา สวรรค์ของนักดำน้ำ ผู้ที่หลงใหลความงดงามของท้องทะเล เตรียมเปิดฤดูท่องเที่ยว 15 ตุลาคม 2565 โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาท่องเที่ยวและประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ได้จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2525 เป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ ในทะเลอันดามัน มี 9 เกาะ เรียงจากเหนือมาใต้คือ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง เกาะปายู เกาะหัวกะโหลก เกาะสิมิลัน และเกาะบางู ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะสวรรค์ ที่มีความสวยงามทั้งบนบกและใต้น้ำ สามารถดำน้ำชมความสวยงามได้ทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น เกาะต่าง ๆ ในหมู่เกาะสิมิลัน มีจำนวน 9 เกาะ ได้แก่ 1. เกาะหูยง หรือเกาะหนึ่ง มีความยาวที่สุด ในบรรดา 9 เกาะ จะมีเต่าขึ้นมาวางไข่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ? กุมภาพันธ์ หากจะไปเกาะนี้อาจต้องสอบถามทางอุทยานก่อน 2. เกาะปาหยัง หรือเกาะสอง ไม่มีหาดทราย รอบเกาะมีหน้าผา และภูเขาหิน เรือไม่สามารถเข้าจอดได้ 3. เกาะปาหยัน หรือเกาะสาม เป็นเกาะที่ไม่มีหาดทราย บนเกาะมีปลาจำนวนมาก ปะการัง กัลปังหาอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งดำน้ำลึกที่นิยมมาก ใต้น้ำมีกำแพงหินธรรมชาติขนาดใหญ่ 4. เกาะเมี่ยง เกาะสี่ มีขนาดใหญ่อันดับสอง เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ (มส.1) มีสัตว์ที่หายาก เช่น ปูไก่ 5. สวนปลาไหล หรือเกาะห้า จุดดำน้ำที่น่าสนใจ คือ สวนปลาไหล มีปลาไหลสีขาวอาศัยอยู่จำนวนมาก 6. เกาะปายู หรือ เกาะหก มีลักษณะเป็นภูเขาหิน หน้าผาสูงชัน ดำน้ำลึกหรือดำน้ำตื้นได้หลายจุด 7. เกาะหัวกะโหลก หินปูซา เกาะเจ็ด ลักษณะคล้ายกับหัวกะโหลก มีหุบเขาใต้น้ำ สามารถพบปะการังอ่อน กัลปังหา พบปลากระเบนราหู และปลาฉลามวาฬได้มากที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน 8. เกาะสิมิลัน เกาะแปด นับได้ว่าเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน ที่มีหาดทรายขาวละเอียด ใต้ทะเลมีปะการังหลายชนิด สามารถทำกิจกรรมดำน้ำได้ทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น ด้านเหนือของเกาะมีหินขนาดใหญ่ มีลักษณะคล้ายรองเท้าบู๊ต ถัดมาเป็นหินเรือใบ 9. เกาะบางู เกาะเก้า เกาะเล็ก ๆ กองหินคริสต์มาสพอยต์ เป็นกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ มีความสวยงาม ไปเที่ยวเยี่ยมชมความสวยงามของทะเลอันดามันกันแล้ว ก็อย่าลืมช่วยกันอนุรักษ์ให้ความสวยงามนี้อยู่กับพวกเราไปอีกนานแสนนาน https://www.mcot.net/view/TvWoxkcU
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|