#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2567
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับแนวร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดจากฝั่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 24 ? 26 มิ.ย. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีค่อนข้างแรง ประกอบกับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27 ? 29 มิ.ย. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24 - 26 มิ.ย. 67 ****************************************************************************************************** ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน ฉบับที่ 6 (120/2567) (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2567) มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับแนวร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ วันที่ 24 มิถุนายน 2567 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี และสระบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง วันที่ 25-26 มิถุนายน 2567 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
น้ำทะเลลดต่ำสุด! ปะการังเกาะทะลุโผล่พ้นน้ำ ประจวบคีรีขันธ์ - เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลลงต่ำสุดในรอบปี ส่งผลให้ปะการังและสัตว์ทะเลนานาชนิดที่เกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ โผล่พ้นน้ำ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติเกิดขึ้นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่มีผลกระทบต่อแนวปะการังและสัตว์น้ำ วันนี้ (23 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติน้ำทะเลลดต่ำสุด ส่งผลให้ปะการังหลากหลายชนิดโผล่พ้นน้ำ บริเวณอ่าวมุก อ่าวใหญ่ และอ่าวเทียน ที่เกาะทะลุ ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเรื่องนี้นายเผ่าพิพัธ เจริญพักตร์ เลขาธิการมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากร ทะเลสยาม กล่าวว่า น้ำทะเลได้เริ่มลดต่ำเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงครึ่งปี 2567 จนเห็นแนวปะการังโผล่เห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งมีทั้งปะการังโขด ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังสมอง ปะการังเขากวาง ปะการังแผ่น ดอกไม้ทะเล เป็นพื้นที่บริเวณกว้าง รวมทั้งหอยมือเสือ หอยเม่น ปลิงทะเล หอยนมสาว เป็นต้น อีกทั้งเมื่อน้ำทะเลขึ้นมันจะปรับตัวได้และไม่ตายเนื่องจากเป็นช่วงเวลาเพียง 1 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น ซึ่งสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ เมื่อน้ำทะเลลดลงมันจะลงไปอยู่ในจุดที่น้ำทะเลลดลงไป ซึ่งถือเป็นเป็นธรรมชาติ โดยทางมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยามมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปบันทึกภาพ และเก็บรวบรวมข้อมูลเก็บไว้เป็นฐานไว้ในทุกๆ ปีที่มีการเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิซึ่งลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นวันเริ่มพบว่าปรากฏการณ์น้ำทะเลลดต่ำสุดเป็นระยะ แต่ช่วง 2 วันที่ผ่านมานั้นแนวปะการังโผล่เพียงนิดเดียว และน้ำจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเที่ยงเป็นต้นไปและเข้าสู่สภาวะปกติ แต่วันนี้และวันพรุ่งนี้เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าน้ำค่อยๆ ลดลงเป็นระยะเช่นกัน และต่ำสุดเวลา 11.00 น. ในส่วนวันนี้และพรุ่งนี้จะพบเห็นปะการังชนิดต่างๆ โผล่เห็นอย่างชัดเจนเป็นพื้นที่กว้าง รวมทั้งหอยมือเสือ หอยนมสาว บางส่วนที่มีการฟอกขาวจากสภาวะอุณหภูมิน้ำที่ร้อนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าจะเห็นได้อย่างชัดเจนเช่นกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูจะได้ลงไปบันทึกภาพและเก็บรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งวันนี้น้ำทะเลได้เริ่มกลับขึ้นตามปกติในช่วงเวลา 12.00 น.เป็นต้นมา จนมองไม่เห็นปะการังตั้งแต่ช่วงบ่ายโมงเป็นต้นไป ซึ่งทุกปีเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลมีการเก็บข้อมูลการเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในทุกปี บางปีเกิดปีละ 1-2 ครั้งในช่วงเดือน มิ.ย.และ ก.ค. ซึ่งปีนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม ราววันที่ 20 ตามข้อมูลตารางน้ำขึ้นน้ำลงของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือซึ่งมีความแม่นยำ เบื้องต้น เห็นว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติน้ำทะเลลงต่ำเป็นระยะเวลาช่วงสั้นๆ ไม่ได้ลงต่อเนื่องตลอดทั้งวันจึงไม่มีผละกระทบต่อแนวปะการังและสัตว์น้ำแต่อย่างใด ดังนั้น เมื่อเกิดน้ำทะเลลงสิ่งที่ต้องปฏิบัตินักท่องเที่ยวจะต้องงดเข้าไปดำน้ำ และแล่นเรือห้ามลงไปเดินเหยียบและจับสัตว์น้ำในบริเวณดังกล่าวในช่วงที่มีน้ำทะเลลงเป็นการชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบได้ แต่เมื่อน้ำทะเลกลับขึ้นสู่ปกติแล้วสามารถดำน้ำได้ตามปกติ โดยที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำที่ด้านหลังเกาะทะลุ ในช่วงที่เกิดน้ำทะเลลดต่ำช่วงนี้เท่านั้น ส่วนช่วงบ่ายๆ ไปแล้วเมื่อน้ำทะเลกลับเข้าสู่สภาวะปกติสามารถทำกิจกรรมดำน้ำได้ตามปกติ https://mgronline.com/local/detail/9...53691?tbref=hp
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก มติชน
ผงะ! พบปะการังฟอกขาวเกือบ 100% อท.สั่งห้ามดำน้ำหมู่เกาะพีพีชั่วคราว เริ่ม 30 มิ.ย.เป็นต้นไป เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ดำน้ำสำรวจติดตามสถานการณ์ปะการังฟอกขาว บริเวณอ่าวโล๊ะบาเกา ถ้ำไวกิ้ง (ด้านทิศเหนือ) และหน้าอ่าวปิเล๊ะ ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ พบการฟอกขาวของปะการัง โขด ปะการังสมอง ปะการังเขากวาง ดอกไม้ทะเล แนวปะการังเกือบ 100% กลายสภาพเป็นสีขาวโพลนไปทั้งหมด ทั้งปะการังเขากวาง ดอกไม้ทะเล และยังมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น ถือเป็นวิกฤตปะการังฟอกขาวครั้งรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยปรากฏมา และยังมีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงมากขึ้น ซึ่งแต่เดิมบริเวณเกาะพีพีจะไม่ค่อยปรากฏรายงานวิกฤตปะการังฟอกขาว และมีแนวโน้มรุนแรง อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการัง รวมถึงลดผลกระทบจากกิจกรรมประเภทต่างๆ ที่อาจเป็นการเร่งให้ปะการังเกิดการฟอกขาว จึงประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวสำหรับประกอบกิจกรรมดำน้ำตื้น (Snorkeling) บริเวณอ่าวโล๊ะบาเกา ถ้ำไวกิ้ง (ด้านทิศเหนือ) และหน้าอ่าวปิเล๊ะ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2567 เป็นต้นไป พร้อมขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวห้ามนำและใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการัง นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เปิดเผยว่า สถานการณ์ที่พบก่อนหน้านี้ จะพบเจออยู่ตามเกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง แต่ในส่วนของเกาะพีพี ยังไม่พบว่ารุนแรงมาก จนกระทั่งมีการสำรวจล่าสุด พบว่าปะการังหลายจุดเริ่มเจอสถานการณ์ฟอกขาวรุนแรงแล้ว จึงต้องสั่งปิดพื้นที่งดกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวไว้ก่อน เพราะเกรงจะไปกระทบต่อระบบนิเวศของแนวปะการัง อาจเป็นการเร่งให้ปะการังเกิดการฟอกขาวรุนแรงขึ้น และต้องการให้ปะการังมีเวลาได้ฟื้นตัว ส่วนจะใช้เวลานานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของแนวปะการัง รวมถึงปัจจัยอุณหภูมิน้ำทะเลด้วย https://www.matichon.co.th/region/news_4644365?sfnsn=mo
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|