นาฬิกาดาราศาสตร์ เรือนหนึ่งและ การเดินทางของกาลเวลา

[Super_Srinuanray]

ถ้ามาที่เมืองปราฮา ก็คงจะไม่พลาด ที่จะมาดู นาฬิกาดาราศาสตร์ The Astronomical Clock หรือที่คนที่นี่จะเรียกว่า "Orloj" ในย่าน Old Town Square หรอกนะ เพราะเป็นอีกจุดหมายหนึ่งเลยทีเดียว

[Super_Srinuanray]

จากหลักฐานเอกสารเก่า ที่ศาสตราจารย์ Jan Sindel แห่งPrague Charles University ได้พบทำให้ ทราบว่านาฬิกาเรือนนี้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1410 โดย Mikulas แห่ง Kadan ที่เป็นช่างทำนาฬิกา พร้อมกับนักดาราศาสตร์ ในสมัยนั้น

และได้ถูกพัฒนาขึ้นมาใน ศตวรรษที่ 16 โดย Jan Taborsky ซึ่งมันก็ยังเดินไม่เที่ยงตรง และในปี 1780 ก็ได้หยุดเดินอีก แน่นอนว่าเวลาผ่านไป นาฬิกาเรือนนี้ก็ย่อมผ่านการซ่อมแซมมาหลายครั้ง และก็เสร็จสิ้นในปี 1865 ซึ่งก็ได้มีการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น พร้อมกับมีการวาดภาพประกอบโดยศิลปินที่มีชื่อเสียง Josef Marnes

[Super_Srinuanray]

ในปี 1945 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หอคอยที่นาฬิกานี้ได้ตั้งอยู่ ก็ถูกทิ้งระเบิด โดยกองทัพเยอรมัน ก็ได้ทำให้นาฬิกาดาราศาสตร์เสียหายและพร้อมทั้งทำลายรูปปั้นต่างๆอีก แม้นว่าจะผ่านเรื่องแย่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นถูกทำลายให้เสียหาย หรือผ่านเหตุการณ์ไฟไหม้ แต่ทุกครั้งที่ผ่านเรื่องร้ายๆ ก็จะยังคงได้รับการบูรณะดูแลให้ดีขึ้นใหม่ในที่สุด เสียงระฆังดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในศตวรรษที่ 20

[Super_Srinuanray]

ความสวยงามที่ได้ถูกการบรรจงสร้างสรรค์โดยบรรพชน ก็ยังคงเป็นอมตะ และ เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาแวะเวียน เฝ้ารอเยี่ยมชมได้ทุกวัน โดยไม่ขาดสาย

[Super_Srinuanray]

ส่วนประกอบของนาฬิกาดาราศาสตร์
นาฬิกาดาราศาสตร์ตัวนี้ ได้ประกอบไปด้วยกัน วงกลมใหญ่ 2 วง
ที่วงกลมด้านบนเรียกว่า Astronomical Dial
และวงกลมด้านล่างเรียกว่า The Calendar dial

[Super_Srinuanray]

ด้านบนเรียกว่า Astronomical Dial ประกอบไปด้วยวงกลม อีก 3 วง

วงเล็กที่สุดเป็นสัญลักษณ์แห่งจักรราศี ทั้ง 12 ซึ่งเข็มของวงนี้จะหมุนตามการเคลื่อนไหวของดวงดาว

วงที่รองลงมา เป็นสัญลักษณ์แทนพระอาทิตย์

และวงสุดท้าย แทนดวงจันทร์ ซึ่งเข็มจะเคลื่อนไหวแสดงการหมุนของดวงจันทร์ ส่วนเข็มมือชี้ก็จะบอกเวลาใน 1 วัน

[Super_Srinuanray]

ซึ่งทุก 1 ชม. ก็จะมีช่องหน้าหน้าต่างด้านซ้ายและช่องหน้าต่างด้านขวาเปิดพร้อมๆกับมีบรรดาเหล่านักบุญในสมัยอดีตกาลออกมาเยี่ยมผู้ที่มาเฝ้าชม

[Super_Srinuanray]

ช่องหน้าต่างด้านซ้ายประกอบไปด้วยนักบุญ St.Jude , St.Andrew ,St.James ,St.Thomas , St.John และ St.Barnabas

ช่องหน้าต่างด้านขวาประกอบไปด้วยนักบุญ St.Peter , St.Matthew , St.Philip , St.Paul , St.Simon และSt.Bartholomew

[Super_Srinuanray]

หลังจากที่เข็มได้เดินมาครบ 1 ชม. ก็จะมีรูปปั้นโครงกระดูกที่สื่อถึงความตาย ไปดึงสายให้กลไกทำงาน เสียงระฆังก็จะดัง ก้องไปทั่วลาน ส่วนช่องหน้าต่างก็จะเปิด ให้รูปปั้นนักบุญ ข้างละ 6 คนหมุนล้อมรอบวงกลมด้านใน ซึ่งจะผ่านช่องหน้าต่างนี้

และสุดท้ายและแม่ไก่สีทองก็จะออกมาขันให้เสียงเท่าที่เวลาในนั้นบอก เช่น 11 โมงเช้า ก็จะขัน 11 ครั้งเป็นต้น หลังการบอกเวลาของแม่ไก่สีทอง เสียงปรบมือฮือฮาของนักท่องเที่ยวก็ดังขึ้นมาพร้อมๆ กัน เป็นที่สนุกสนาน

น่าตื่นเต้นดีนะ น่าทึ่งมากที่คนโบราณ มีความสามารถเก่งกาจขนาดนี้

[Super_Srinuanray]

ส่วนวงกลมด้านล่างเรียกว่า The Calendar dial ก็จะมีวงกลมเล็กๆด้านในสุดเป็นรูปหอคอยที่ประดับด้วยลวดลาย วงกลมล้อมรองวงเล็ก ก็จะบอก 12 ราศรี

ส่วนวงกลมใหญ่ก็จะบอกถึงเทศกาลสำคัญในเดือนนั้นๆ

ส่วนขีดเล็กๆที่ล้อมรอบวงใหญ่ บอกถึง วันที่ ,วันที่เรียกวันที่ เช่น จันทร์ อังคาร ฯลฯ ,วันฉลองในเดือนั้นๆ , และบอกปี