เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 12-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 12 เมษายน 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 11 - 12 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 13 - 15 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงลดลง และมีอากาศร้อนขึ้น สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ฝั่งตะวันออกออกจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณบริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง แต่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีลมตะวันตกพัดเข้ามาปกคลุมทำให้มีฝนเพิ่มมากขึ้น

ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 17 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 11 - 12 และ 16 ? 17 เม.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 12-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


สะเทือนใจ! ทช.เผยภาพเต่าตนุ กินขยะพลาสติกเข้าไปจำนวนมาก สัตวแพทย์เร่งช่วยเหลือ

"กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" เผยภาพสะเทือนใจของที่เต่าตนุ ที่กินขยะถุงพลาสติกเข้าไปเป็นจำนวนมาก สัตวแพทย์ได้เก็บชิ้นส่วนขยะ เพื่อใช้เผยแพร่เป็นกรณีตัวอย่าง ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงผลกระทบของขยะ



เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เพจ "กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" เผยภาพสะเทือนใจของที่เต่าตนุตัวหนึ่ง กินขยะถุงพลาสติกเข้าไปเป็นจำนวนมาก โดยสัตวแพทย์ได้เก็บชิ้นส่วนขยะที่เต่าขับถ่ายออกมา เพื่อใช้เผยแพร่เป็นกรณีตัวอย่าง ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงผลกระทบจากขยะทะเลที่มีต่อเต่าทะเล

โดยทางเพจระบุข้อความว่า "ศูนย์?วิจัย? ทช. อ่าวไทย?ตอน?บน?ฝั่ง?ตะวันตก? นำภาพการรักษาอาการป่วยของเต่าตนุ ที่เกยตื้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 จากการติดเครื่องมือประมงโดยบังเอิญ บริเวณ ม.4 บ้านบางปลา ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยนายสัตวแพทย์พบว่า เต่าตนุตัวดังกล่าวกินขยะทะเลเข้าไปเป็นจำนวนมาก เช่น ถุงพลาสติก เชือก บรรจุภัณฑ์? และหลอดพลาสติก



โดยนายสัตวแพทย์ได้เก็บชิ้นส่วนขยะที่เต่าขับถ่ายออกมา เพื่อใช้เผยแพร่เป็นกรณีตัวอย่าง ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงผลกระทบจากขยะทะเลที่มีต่อเต่าทะเล และสัตว์ทะเลหายากชนิดอื่นๆ โดยกรม ทช. จะดูแลรักษาจนกว่าเต่าตนุจะหายป่วย และมีสุขภาพเเข็งเเรง ก่อนจะนำไปปล่อยกลับคืนสู่ทะเลต่อไป"


https://mgronline.com/onlinesection/.../9640000034641

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 12-04-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ


ตราดจี้จัดโซนจับหอยเม่น หวั่นทำลายระบบนิเวศพัง



"เกาะกูด" ตราด หวั่นกระแส นักท่องเที่ยวแห่ลิ้มลอง "หอยเม่น" ตัวละ50-100 บาท นายก อบต.ค้านจับขายเชิงธุรกิจ กลุ่มอนุรักษ์เตรียมประชาคมหมู่บ้านหาทางออก กำหนดโซนนิ่งของแต่ละหมู่บ้านแบบสมดุล

นายเดชาธร จันทร์อบ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวไทยโพสต์คลิปวิดีโอ แนะนำเมนูหอยเม่นที่เกาะกูด จังหวัดตราด เกรงว่าอาจจะมีกระแสนิยมรับประทานหอยเม่นแพร่ออกไปกว้างขวาง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อระบบเชิงนิเวศในทะเล เพราะหอยเม่นช่วยกำจัดน้ำและของเสียในทะเล หรือหากจับมาบริโภคมาก ๆ อาจจะทำให้สูญพันธุ์ได้เพราะนิยมบริโภคไข่หอยเม่น

ทั้งนี้ อบต.เกาะกูดได้มีหนังสือ การพูดคุยขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการร้านอาหาร นักดำน้ำ ให้งดการจับหอยเม่นให้นักท่องเที่ยวบริโภคสดเป็นเชิงธุรกิจ ซึ่งหลังจากการขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการร้านอาหารประเภทซีฟู้ดที่มีขายอยู่จำนวนไม่มากนักให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ยังต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ชาวประมง เนื่องจากหอยเม่นพบอยู่ทั่วไปทุกหมู่บ้าน รวมทั้งการเผยแพร่ทางโซเชียลที่ทำให้เกิดกระแสต้องการลิ้มลอง

"พื้นที่เกาะกูดไม่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ไม่มีกฎหมายห้าม ควบคุมกำหนดโทษ ไม่มีหน่วยงานทางการประมง และหอยเม่นไม่ใช่สัตว์สงวนห้ามจับ ห้ามมีไว้ในครอบครอง มีเพียงธรรมนูญเกาะกูดที่ไม่ใช่กฎหมาย ไม่มีบทลงโทษ อาศัยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของอำเภอตักเตือน และขอความร่วมมือ

หอยเม่นพบทั่วไปเขตชายฝั่งรอบเกาะที่มีจำนวนมาก คือ หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 6 แหล่งอาศัยอยู่ในเขตดำน้ำดูปะการัง บริเวณอ่าว เกาะห่างไกล การควบคุมจึงเป็นไปค่อนข้างยาก ความนิยมลิ้มลองหอยเม่นที่มีไข่มาจากกระแสโลกโซเชียล เริ่มจากนักท่องเที่ยวจีน ญี่ปุ่น มาถึงนักท่องเที่ยวไทยมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอช่วง 2 เดือนที่แล้ว ทำให้ร้านอาหารซีฟู้ดบางแห่งจับหอยเม่นที่มีไข่มาขังไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว หรือมีเรือบริการไปกินที่เกาะ จากที่ไม่มีราคาซื้อขาย ขายได้ตัวละ 50 บาท หรือ100 บาท" นายเดชาธรกล่าว

ทางด้านชาวบ้านท้องถิ่นเกาะกูดหมู่ที่ 3 ต.เกาะกูด กล่าวว่า การอนุรักษ์หอยเม่นในการทำประชาคมหมู่บ้าน ควรกำหนดโซนนิ่งของแต่ละหมู่บ้าน อย่างเช่น หมู่ 3 หมู่ 6 พบหอยเม่นมาก และต้องคำนึงถึงชาวบ้านให้ทำมาหากินตามวิถีชาวบ้านด้วย แต่ร้านอาหารซีฟู้ด รีสอร์ตทำเป็นธุรกิจ เมนูอาหารโพสต์ขายก็ไม่เห็นด้วย

เช่นเดียวกับชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.เกาะกูด กล่าวเพิ่มเติมว่า หอยเม่นหากให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติ ควรคำนึงถึงความพอดี ไม่ส่งเสริมให้บริโภคมากเกินไป และไม่ห้ามจับมาบริโภค โดยให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตชาวบ้านที่ส่วนใหญ่ที่เป็นประมงพื้นบ้านที่มีเรือเล็ก ๆ ได้ทำมาหากิน ที่ช่วงมรสุม 4-5 เดือนออกทะเลไม่ได้ เรือประมงพื้นบ้านหมู่ 3 และหมู่ 6 ประมาณ 20-30 ลำ ถ้าจัดระบบให้มีการเช่าเหมาเรือเที่ยวละ 4-5 คนไปกินหอยเม่นในทะเล ตามเกาะต่าง ๆ จะสร้างรายได้ลำละประมาณ 2,000-2,500 บาท และเป็นการจำกัดปริมาณการกินหอยเม่นได้ด้วย

ว่าที่เรือตรีจักรกฤช หงษ์ร่อน เลขาฯกลุ่มตัวแทนภาคประชาชนตำบลเกาะกูด กล่าวว่า ร้านอาหารที่นำหอยเม่นมาประกอบอาหาร บางแห่งผู้ประกอบการไม่ใช่คนพื้นบ้าน จ้างชาวประมงจับมาขายให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศตัวละ 50-150 บาท ในลักษณะรับผ่ารับประทานเนื้อ และไข่ ทั้งสด ปิ้ง ย่างทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดคล้ายวาซาบิ แต่ในช่วง 2-3 เดือนนี้มีนักท่องเที่ยวมากินไข่หอยเม่นเลียนแบบอูนิของญี่ปุ่น และทำคลิปลง Facebook สร้างกระแสให้อยากลองชิม จึงเกรงว่าจะมีการจับหอยเม่นมาเป็นเมนูอาหารเชิงพาณิชย์ เป็นผลกระทบต่อวงจรสัตว์ทะเล เนื่องจากหอยเม่นช่วยกำจัดของเสีย น้ำเสีย ทำความสะอาดปะการัง

ดังนั้น อบต.เกาะกูด กลุ่มตัวแทนภาคประชาชน กลุ่มอาสาสมัครทรัพยากรธรรมชาติเกาะกูด ตระหนักถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศในทะเล หากมีการบริโภคเชิงพาณิชย์ โดย อบต.เกาะกูดได้ขอความร่วมมือกับชาวบ้าน ร้านอาหารที่ชูเป็นเมนูอาหารการเผยแพร่ทางโซเชียล ได้รับความร่วมมืออย่างดี ?ส่วนกลุ่มภาคประชาชนทั้งหมด 6 หมู่บ้าน จะเร่งทำประชาคมภายในเดือนเมษายน แต่ละหมู่บ้านกำหนดชนิดสัตว์น้ำที่อนุรักษ์ ช่วงเวลาอนุญาตทำการประมง การกำหนดโซนนิ่ง

รวมทั้งวิธีการให้บริการหอยเม่นกับนักท่องเที่ยวในท้องทะเล เกาะ เพื่อไม่ให้กระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านเกาะกูด ซึ่งจะช่วยจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวและการบริโภคหอยเม่นด้วย รวมทั้งความเห็นอื่น ๆ เพื่อเสนอให้สภาตำบล อำเภอเกาะกูด และกำหนดไว้ในธรรมนูญเกาะกูดประกาศใช้ต่อไป? เลขาฯกลุ่มตัวแทนภาคประชาชนตำบลเกาะกูดกล่าว

นายสุเทพ อยู่ลออ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล จ.ระยอง ที่ดูแลพื้นที่ จ.ระยอง จันทบุรี ตราด กล่าวถึงหอยเม่นทางวิชาการว่า เป็นสัตว์น้ำที่ช่วยทำให้น้ำทะเลสะอาด ชอบอยู่ตามแนวปะการังในทะเล การมีหอยเม่นแสดงถึงความสมบูรณ์ของพื้นที่ ถ้าจับเฉพาะตัวโต ๆ ในปริมาณเหมาะสม เว้นจับในฤดูวางไข่ไม่ทำให้สูญพันธุ์

เชื่อว่าการบริโภคนี้ตามกระแสเลียนแบบญี่ปุ่น หรือกินโชว์จำนวนไม่มาก คนในท้องถิ่นไม่นิยม และบางคนอาจจะมีอาการแพ้ และการจับมีอันตรายหนามที่แหลมคมมาก จึงไม่ควรกินตามกระแส ต่างประเทศกินเพราะกุ้ง ปู ราคาแพง ด้วยหลักการนิเวศควรมีไว้บ้าง เกื้อกูลกัน ซึ่งตามกฎหมายหอยเม่นไม่ใช่สัตว์สงวน สามารถจับในพื้นที่ไม่ใช่พื้นที่อนุรักษ์ได้


https://www.prachachat.net/local-economy/news-646829

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:37


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger