เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 22-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 22 - 27 พ.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 22-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เศร้า โลมาปากขวดเกยตื้นหาดระยอง สุดยื้อสิ้นใจตาย คาดคลื่นซัดหลงทิศ

พบโลมาปากขวด ร่างกายอ่อนล้า หนัก 60 กก. เกยตื้นชายหาดระยอง จนท.เร่งช่วยเหลือ หวังส่งกลับน้ำลึก แต่ว่ายกลับฝั่ง ก่อนสิ้นใจตาย ระหว่างรอเคลื่อนย้ายกลับศูนย์พักฟื้น คาดหลงทิศ-กระแสน้ำพัดเกยตื้น



เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 21 พ.ค.63 นายสุเทพ เจือละออง ผอ.ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก รับแจ้งจาก รปภ.ของภูผาธารา พบปลาโลมาเกยตื้นบริเวณชายหาด ของบริษัทภูผาธารา จึงเดินทางมาตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ บริเวณดังกล่าวพบโลมาปากขวด อายุประมาณ 3-5 ปี น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม ความยาวประมาณ 2 เมตร ยังมีชีวิตอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเร่งให้ความช่วยเหลือ และนำกลับลงทะเลหลายครั้ง แต่ก็ว่ายกลับมายังฝั่งตามเดิม จากนั้นทีมสัตว์แพทย์ได้มาตรวจดู พบว่าโลมาตัวดังกล่าวมีอาการเหนื่อยอ่อน จึงเตรียมเคลื่อนย้ายไปพักรักษาที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรและชายฝั่ง อ่าวมะขามป้อม ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง สุดท้ายไม่รอด ตายขณะที่รอการขนย้าย

ด้าน นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่รู้สาเหตุว่าโลมาเกยตื้นได้อย่างไร แต่ขณะนี้ทางฝั่งตะวันออกมีคลื่นลมแรง อาจทำให้โลมาหลงทิศหรือถูกกระแสน้ำพัดเข้าฝั่งเกยตื่น


https://www.thairath.co.th/news/local/east/1850328


*********************************************************************************************************************************************************


ผลจากการปิดเกาะ 4 ปี แนวปะการัง "เกาะยูง" เจริญเติบโตดี ไร้การฟอกขาว

จนท.ฝ่ายวิจัย อช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ลงดำน้ำสำรวจปะการัง "เกาะยูง" พบเจริญเติบโตดี ปกคลุมพื้นที่กว่า 70% หลังปิดเกาะนาน 4 ปี โดยไร้การฟอกขาว มีสัตว์น้ำนานาชนิดหากิน



ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.63 เจ้าหน้าที่ฝ่ายศึกษาวิจัย อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ลงดำน้ำสำรวจแนวปะการังบริเวณเกาะยูง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ที่ระดับความลึกประมาณ 3 เมตร พบปะการังปกคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 70 ส่วนใหญ่เป็นปะการังเขากวางวัยอ่อน มีสภาพการเจริญเติบโตสมบูรณ์ดี

นอกจากนี้ยังมีปะการังโคโลนีชุดเก่า ที่เจริญเติบโตเพิ่มขึ้น ไม่พบปะการังมีการฟอกขาว รวมทั้งมีสัตว์ทะเลนานาชนิดอาศัยหากินบริเวณแนวปะการังเป็นจำนวนมาก เช่น ปลาสลิดหินลายบั้ง หอยมือเสือ และเม่นหนามยาว เป็นตัวบ่งชี้ว่าระบบนิเวศน์เริ่มฟื้นตัวจนใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ สาเหตุที่แนวปะการังบริเวณเกาะยูงมีสภาพเจริญเติบโตได้ดีขึ้น สืบเนื่องมาจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศปิดเพื่อต้องการฟื้นฟูแนวปะการังมาตั้งแต่ปี 2558 เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี เพื่อฟื้นฟูแนวปะการังที่ได้รับความเสียหายจากกิจกรรมการท่องเที่ยว

จากการสอบถามทาง จนท.อุทยานฯ ทราบว่า ที่ผ่านมาแนวปะการังบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างจากภาวะน้ำทะเลร้อนขึ้น ส่งผลให้แนวปะการังมีการฟอกขาว รวมถึงการเข้าไปทำกิจกรรมของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก กรมอุทยานฯ เห็นว่าหากไม่ปิดเพื่อฟื้นฟู อาจจะส่งผลเสียหายจนยากจะฟื้นตัวได้ จึงประกาศปิดเกาะยูงตามมาตรการฟื้นทะเลกระบี่ให้กลับคืนมา โดยหลังจากนี้จะยังคงปิดเกาะยูงต่อไป เพื่อให้สภาพแวดล้อมกลับสู่สภาพเดิมมากที่สุด นอกจากนี้ทาง จนท.ยังนำเอากิ่งพันธุ์ปะการังบริเวณเกาะยูงไปใช้ในการปลูกฟื้นฟูในอ่าวมาหยาด้วย.


https://www.thairath.co.th/news/local/south/1850011

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 22-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


โควิดเป็นเหตุ! สัตว์ป่า-ทะเล สุดเริงร่า ทส.เตรียมสานต่อ .ปิดอุทยานทุกแห่งปีละ 3 เดือน.


ปลาโลมาอิรวดี โผล่ทะเลใกล้เกาะช้าง จ.ตราด

'วราวุธ' เตรียมมาตรการสั่งปิดอุทยานแห่งชาติทั้ง 157 แห่งทุกปี ยกเคสปิดช่วงโควิด 2 เดือน ธรรมชาติ ทั้งสัตว์ป่า สัตว์ทะเลหายากออกมาให้ยลโฉม ล่าสุดอยู่ระหว่างศึกษาหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่อุทยานฯ

หลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาดมากขึ้น ต่อมาทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตัดสินใจประกาศปิดการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยว จนเวลาผ่านไปราว 2 เดือน ซึ่งยังไม่มีกำหนดเปิดอุทยานฯ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายกับหลายประเทศ เมื่อพบเห็นสัตว์ป่า สัตว์ทะเลที่หาตัวได้ยากตามปกติ ออกมาปรากฏให้เห็น ทำให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ บันทึกภาพหายากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อย่างเช่น เลียงผา สัตว์ป่าสงวนออกมาเดินหากินบนหน้าผาอย่างสบายใจ หมีควายสัตว์ป่าคุ้มครองปีนต้นไม้ หรือหมีหมาเดินผ่าถนนแบบไม่สนใจใคร ละมั่งสัตว์ป่าสงวนออกมายืนกลางป่า ฝูงกระทิงออกมาเล็มกินหญ้ากันเป็นครอบครัวตามพื้นที่ชายป่า ยิ่งเป็นโขลงช้างป่าออกมาให้เห็นบ่อยกว่าปกติ แม้แต่นกเงือกซึ่งสะท้อนถึงความสมบูรณ์ของพื้นที่ป่าก็พบ เช่นเดียวกับสัตว์ทะเลหายาก เมื่อเจ้าหน้าที่ได้พบฝูงปลาโลมาอิรวดี ใกล้เกาะช้าง ปลาฉลามหูดำออกมาว่ายในบริเวณเกาะห้อง



เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่แนวคิดที่ วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หารือร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในการเร่งทำตารางกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับปิดอุทยานแห่งชาติทั้ง 157 แห่ง สำหรับการฟื้นฟูความสมบูรณ์ของผืนป่า สัตว์ป่า สัตว์ทะเลเป็นเวลา 3 เดือน

"ภาพรวมช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เราพบแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้น มีสัตว์ป่าออกมาหาอาหารและออกมารวมฝูงนอกพื้นที่มากขึ้น เช่นเดียวกับสัตว์ทะเลเพราะไม่มีมนุษย์เข้าไปรบกวนถิ่นที่อยู่อาศัย"

รมว.ทส.ยกตัวอย่างกรณีปิดอ่าวมาหยา ตั้งแต่ 1 มิ.ย.2561 ซึ่งขยายเวลาปิดยาวถึงปี 2564 ที่นี่เคยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากถึงวันละ 4,000 คน ทั้งที่มีศักยภาพรองรับได้เพียงวันละ 375 คน ทำให้แนวปะการังเสียหายจากการโดนเหยียบย้ำและสมอเรือ แต่พอมาถึงวันนี้เราได้พบฝูงฉลามหูดำกว่า 60 ตัวกลับมาอาศัย มีปูลมตามชายหาด ปะการังอ่อนเริ่มแตกหน่ออีกครั้ง



ด้าน ธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่าได้มีการประชุมและมีข้อสรุปว่าให้แต่ละอุทยานทั่วประเทศ จัดทำแผนการปิดอุทยานตามนโยบายของ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้พิจารณาปิดไม่ต่ำกว่า 2 เดือนต่อปี หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่

อีกนโยบายที่จะนำมาพิจารณาควบคู่กัน คือ การจำกัดนักท่องเที่ยวไม่ให้มากจนเกินไป แม้ที่ผ่านมาจะมีรายได้มาก โดยเฉพาะอุทยานทางทะเล แต่จะพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมากจนเกินไป ซึ่งไม่สอดคล้องกับนโยบาย ดังนั้น นอกจากปิดแล้วจะจำกัดปริมาณด้วย เพราะอุทยานไม่ได้ต้องการรายได้เป็นหลัก แต่เน้นการฟื้นฟูของทรัพยากรธรรมชาติด้วย

ตามปกติอุทยานทางทะเลจะปิดตามหน้ามรสุมอยู่แล้ว เช่น ฝั่งอันดามันจะเริ่มปิดตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.จนถึง ก.ค. ฝั่งอ่าวไทยจะปิดช่วงเดือน พ.ย.ถึง ธ.ค. ซึ่งแต่ละที่ปิดยาวไม่เท่ากัน และหลังจากนั้นให้แต่ละอุทยานพิจารณาว่าจะปิดเพิ่มเติมมากกว่านั้นหรือไม่ตามความเหมาะสม แต่อุทยานทางทะเลจะปิดไม่น้อยกว่าปกติที่ปิดอยู่แล้วในหน้ามรสุม แต่อาจจะปิดมากกว่าด้วยบางแห่ง



ส่วนอุทยานทางบกก็เช่นเดียวกันจะปิดไม่น้อยกว่า 2 เดือน แต่บางแห่งอาจจะปิดมาก 3-4 เดือน เช่น อุ้มผาง ทีลอซู เพราะเป็นพื้นที่ฝนมาก ซึ่งแต่ละแห่งจะมีการหารือกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้พิจารณาโดยอิงหลักวิชาการด้วย

"เราได้เห็นว่าช่วงโควิดมีสัตว์ป่าออกมาให้เห็นมากมายทั้งทางบกและทางทะเล ไม่ว่าฉลามหูดำ ฉลามวาฬ โลมา เสือ กระทิง ช้าง ฯลฯ ดังนั้น ผมจึงให้แต่ละอุทยานถ่ายภาพก่อนและหลังการปิด เพื่อจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เพราะบางแห่งไม่เคยปิดเลย" ธัญญา กล่าว


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000052927
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 22-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ของฝากจากโลมา ดำเอามาจากใต้ทะเล แลกอาหารกับมนุษย์

ของฝากจากโลมา - เอบีซี รายงานพฤติกรรมน่ารักของ "มิสทีก" โลมาหลังโหนกที่อาศัยในอ่าวทินแคน นอกชายฝั่งคูลูลา รัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย มีพัฒนาความแสนรู้ในช่วงที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดและนักท่องเที่ยวกักตัวอยู่กับบ้าน


ของฝากจากโลมา (Supplied: Barnacles Cafe And Dolphin Feeding)

โลมา เพศผู้ อายุ 29 ปีตัวนี้ นำสิ่งของจากใต้ทะเลมาฝากอาสาสมัคร ที่บาร์นาเคิลส์ คาเฟ่ และศูนย์ให้อาหารโลมาเป็นประจำทุกวัน

ลีน แมคเฟียสัน อาสาสมัครกล่าวว่ามิสทีกมีกิจกรรมใหม่ ไม่เหมือนเดิมระหว่างที่ศูนย์ให้อาหารโลมาปิดทำการระหว่างล็อกดาวน์ ด้วยการนำของขวัญจากทะเลมาฝากอาสาสมัครโดยวางของบนจะงอยปาก อาสาสมัครก็จะให้อาหารเป็นการตอบแทน โดยที่อาสาสมัครไม่ได้ฝึกเลย แต่กลับเป็นฝ่ายมิสทีกที่ฝึกอาสาสมัครแทน

โลมาแสนรู้ประคองสิ่งของไว้บนจะงอยปาก ถ้าทิ้งสิ่งของไกลเกินไป อาสาสมัครก็จะบอกว่า ยังไม่ดีพอ จากนั้น มันก็ดำน้ำลงไปและนำมาให้อาสาสมัครใหม่

สำหรับของฝากจากใต้ทะเล มีทั้งขวดต่างๆ ชิ้นส่วนโครงเรือ เปลือกหอย และไม้ และคงจะมีอีกมากมายที่โลมาน่ารักตัวนี้รอคอยที่จะมาฝากอาสาสมัคร


ของฝากจากโลมา (Supplied: Barnacles Cafe And Dolphin Feeding)

แมคเฟียสันกล่าวว่าตั้งแต่ปิดศูนย์ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม มิสทีก็นำของฝากมาให้มากขึ้นๆ บางวัน นำของมาให้ 10 ชิ้น ทีละชิ้นๆ และจะได้ปลาเป็นสิ่งตอบแทน

มิสทีกเป็นโลมาเพียงตัวเดียวในบรรดาโลมา 7 ตัวของโครงการป้อนอาหารโลมาที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ แต่มีโลมาเพศผู้อีกตัวหนึ่งที่ว่ายน้ำไปกับมิสททีกเพื่อหาของมาฝากอาสาสมัคร ซึ่งมันก็ได้ป้อนปลาเป็นรางวัลเช่นกัน

โครงการป้อนอาหารโลมาดึงดูดนักท่องเที่ยวประมาณ 200 คนต่อวันในช่วงวันหยุดของโรงเรียนและเปิดทำการตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม หลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้อีกครั้ง

มิสทีก ว่ายน้ำมาที่อ่าวทินแคน พร้อมกับแม่ ในปี 2534 และมีพฤติกรรมโดดเด่นเพราะมีเลือดนักสู้เต็มตัว มันมักต่อสู้กับโลมาเพศผู้ตัวอื่นและเคยถูกฉลามหัวบาตรโจมตีมาแล้วเมื่อปี 2550 ทำให้หางและครีบหลังแหว่งไปเล็กน้อย


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_4173412

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:20


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger