วาฬบรูด้า

สายน้ำ · #1 28-02-2011

วาฬบรูด้า

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวพบวาฬบรูด้าอ่าวไทย ตายลอยเกยตื้นติดชายฝั่งเป็นข่าวมาถึง 2 ครั้ง คือวันที่ 18 ก.พ.54 พบวาฬบรูด้า เพศผู้ ยาวประมาณ 8 เมตร น้ำหนักประมาณ 1 ตัน ตายขึ้นอืดมาแล้วประมาณ 3-4 สัปดาห์ ที่บริเวณปากอ่าวแม่กลอง ห่างชายฝั่งประมาณ 1,500 เมตร ใกล้ดอนหอยหลอด แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. พบวาฬบรูด้า เพศเมีย มีขนาดใหญ่ หนักประมาณ 9-10 ตัน ลำตัวยาวประมาณ 12.60 เมตร ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน สภาพเปื่อยยุ่ย ลอยตายอยู่บริเวณปากคลองละแม พื้นที่ ม.9 ต.ละแม จ.ชุมพร

"วาฬบรูด้า" เป็นสัตว์น้ำเลือดอุ่น เลี้ยงลูกด้วยนม ต่างจากปลาที่ออกลูกเป็นไข่และเป็นสัตว์เลือดเย็น ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Balaenoptera brydei เป็นวาฬขนาดใหญ่ ชื่อสามัญว่า Bryde's Whale จัดอยู่ในวงศ์ Balaenopteridae

เป็นวาฬเพียงชนิดเดียวที่พบว่า อาศัยอยู่ประจำถิ่นในอ่าวไทย สามารถพบได้ในจังหวัดชายทะเลเกือบทุกจังหวัด แต่จะพบบ่อยที่ทะเลบ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์

ลักษณะ "วาฬบรูด้า" ลำตัวมีสีเทาดำ รูปร่างค่อนข้างเพรียว ส่วนหัวมีแนวสันนูน 3 สัน มีร่องใต้คาง 40-70 ร่อง เมื่อโตเต็มที่ลำตัวจะยาว 14-15.5 เมตร หนัก 20-25 ตัน

จุดเด่นของวาฬบรูด้า คือ ครีบหลังรูปโค้ง ตั้งอยู่ค่อนไปทางด้านปลายหาง และมีขนาดเล็กไม่สมส่วนกับขนาดตัว แพนหางวางตัวตามแนวราบ และมีรอยเว้าเข้าตรงกึ่งกลาง ครีบคู่หน้ามีปลายแหลม

วัยเจริญพันธุ์ อยู่ในช่วงอายุ 9-13 ปี จะออกลูกครั้งละ 1 ตัวทุก 2 ปี ตั้งท้องนาน 10-12 เดือน ระยะให้นมน้อยกว่า 12 เดือน ลูกวาฬแรกเกิดจะมีความยาวประมาณ 3-4 เมตร จะว่ายน้ำคลอเคลียกับแม่ไปตลอด เชื่อว่าวาฬบรูด้ามีอายุยืนถึง 50 ปี

กินอาหารโดยการกรอง เนื่องจากวาฬบรูด้าเป็นวาฬชนิดไม่มีฟัน แต่มีบาลีน (Baleen) มีซี่กรองคล้ายหวีสีเทา จำนวน 250-370 ซี่ อาหารส่วนใหญ่จึงเป็นแพลงตอน เคย ลูกปลา ปลาหมึก ปลาทู ปลากะตัก (ปลาไส้ตัน) เป็นต้น

เวลาจมตัวดำน้ำจะโผล่หัวเล็กน้อยแล้วทิ้งตัวจมหายไป โดยไม่ค่อยชูส่วนหางขึ้นมาเหนือน้ำ ปกติพบครั้งละ 1-2 ตัว ไม่พบการอพยพย้ายถิ่นฐานเป็นระยะทางไกล

วาฬบรูด้าเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ พบแพร่กระจายอยู่ทั่วโลกโดยเฉพาะในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน ในเขตละติจูด 40 องศาเหนือถึงใต้ จึงได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทย ห้ามค้าขายระหว่างประเทศ

ชื่อที่เรียกกันว่า "วาฬบรูด้า" มาจากการให้เกียรติแก่กงสุลชาวนอร์เวย์ ประเทศแอฟริกาใต้ ชื่อ โยฮัน บรูด้า (Johan Bryde)

เมื่อปีที่แล้ว วาฬบรูด้าจำนวนนับสิบตัวที่เข้ามาใกล้ชายฝั่งอ่าวไทยตอนใน สร้างปรากฏการณ์วาฬฟีเวอร์ ถึงขนาดแต่ละวันมีเรือจากสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี พาลูกค้าไปดูวาฬ หรือ Whale Watching วันละหลายสิบลำ

นาทีนี้วาฬบรูด้าเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่คนไทยเรียบร้อยแล้ว และเป็นข่าวไม่ว่าจะปรากฏตัวในลักษณะ "เป็น" หรือ "ตาย"

จาก .................. ข่าวสด คอลัมน์ที่ 13 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554

Thoto_Dive · #2 10-03-2011

เมื่อวานนี้มีตายอีก 1 ตัวแล้วครับ ที่ทับสะแก(9 มี.ค.) รวมๆคง 4 ตัวได้แล้วตั้งแต่ต้นปี
มันเกิดอะไรขึ้นอะครับ ปีที่แล้วมาเป็นๆ เป็นฝูง ปีนี้....
มีใครพอจะมาไขปริศนาบ้างครับ

สายน้ำ · #3 02-06-2011

พบแม่ลูกวาฬบรูด้าในอ่าวไทยแล้ว 3 คู่

กรมทรัพยากรทางทะเลฯ 1 มิ.ย. -กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ยืนยันฐานข้อมูลพฤติกรรมของวาฬบรูด้าในไทยดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนวาฬบรูด้าสองแม่ลูกซึ่งเกิดจากการผสมพันธุ์ในอ่าวไทยบริเวณท้องทะเลนอกชายฝั่ง จ.สมุทรสาคร มีชื่อแล้ว “แม่ข้าวเหนียว” และ “เจ้าส้มตำ”

นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ได้สำรวจวาฬบรูด้าบริเวณอ่าวไทยตอนบน ครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2554 และได้จำแนกประชากรวาฬบรูด้าโดยใช้ภาพถ่ายตำหนิบนครีบหลัง (Photo Identification) และใช้ตำหนิ หรือรอยแผลในส่วนอื่นๆ เช่น ตามลำตัว ปาก มาประกอบการพิสูจน์อัตลักษณ์ของวาฬแต่ละตัว สามารถจำแนกวาฬที่มีตำหนิแตกต่างกันได้ทั้งหมดจำนวน 15 ตัว ในจำนวนนี้เป็นแม่พร้อมลูกวัยอ่อนที่มีขนาดความยาวเพียง 4-6 เมตร จำนวน 3 คู่

การพบวาฬดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีแหล่งอาหารของวาฬบรูด้าที่อุดมสมบูรณ์ และยังเป็นบริเวณที่วาฬเข้ามาผสมพันธุ์ คลอดลูกและเลี้ยงดูลูกอ่อน ซึ่งปัจจุบันกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีข้อมูลการแพร่กระจายและพฤติกรรมของวาฬบรูด้าที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ อธิบดีได้ตั้งชื่อลูกวาฬน้อยตัวหนึ่งว่า “เจ้าส้มตำ” เจ้าส้มตำถูกสำรวจพบพร้อม “แม่ข้าวเหนีย” ครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2554 ที่บริเวณทะเลนอกชายฝั่งวัดกระซ้าขาว จังหวัดสมุทรสาคร เจ้าส้มตำมีความยาวลำตัวประมาณ 6 เมตร ส่วนแม่ข้าวเหนียวมีความยาวลำตัวประมาณ 12 เมตร ไม่พบตำหนิใด ๆ บนครีบหลังของแม่ข้าวเหนียว ส่วนเจ้าส้มตำมีรอยตำหนิขนาดเล็กที่สามารถสังเกตได้ชัดที่บริเวณครีบหลัง ซึ่งศูนย์วิจัยฯ จะได้ติดตามการเจริญเติบโตและการเคลื่อนย้ายของแม่ข้าวเหนียวและเจ้าส้มตำต่อไป

จาก .................... ข่าว อสมท. MCOT News วันที่ 1 มิถุนายน 2554

ดอกปีบ · #4 02-06-2011

การถูก "รู้จัก " และเป็นทรัพยากรในเรื่องของการท่องเที่ยว น่าจะมีส่วนช่วยในการอนุรักษ์วาฬชนิดนี้ในท้องทะเลไทยได้ดียิ่งขึ้นนะครับ

ชื่อน่ารักจริงๆ .. แม่ข้าวเหนียว กับน้องส้มตำ

NAMPUENG · #5 02-06-2011

อยากให้มี "น้องลาบ" เร็วๆๆ ^_______^//

สายชล · #6 02-06-2011

สองสายได้รับการเชิญชวนจาก น้องตึก...ดร.กาญจนา อดุลยานุโกศล นักวิชาการประมง ชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยทรัพยากรประมงชายฝั่งทะเล จ.สมุทรสาคร ให้ไปเฝ้าติดตามวาฬแกลบหรือบรูด้าฝูงนี้ ที่บริเวณท้องทะเลนอกชายฝั่ง จ.สมุทรสาคร ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลอีกหลายท่าน ในวันอังคารที่ 7 มิถุนายน นี้

ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้ดินฟ้าอากาศเป็นใจ ให้เราได้ออกไปชมน้องวาฬแกลบคู่แม่ลูก "แม่ข้าวเหนียว & น้องส้มตำ" และเพื่อนฝูง อย่างไร้คลื่นลมมารบกวน เพื่อจะได้เก็บภาพมาให้พวกเราได้ชมกันค่ะ

Kungkings · #7 02-06-2011

เป็นเรื่องที่น่ายินดี และน่าตื่นเต้นมากๆ เลยคะ พี่สองสายขา...

koy · #8 02-06-2011

ร่วมลุ้นให้ได้เจอ"ข้าวเหนียว และส้มตำ" นะครับ รอดูภาพหลายๆมุม

สายชล · #9 02-06-2011

ขอบคุณค่ะน้องกุ้ง...น้องก้อย...

เสียดายที่น้ำขุ่นควั่ก...ไม่อย่างนั้นจะขอลงไปถ่ายภาพใต้น้ำด้วยค่ะ...

สายชล · #10 07-06-2011

วันนี้ได้ไปชมวาฬบรูด้ามาแล้วค่ะ โดยไปขึ้นเรือที่บางตะบูน สมุทรสงคราม ฟ้าใส แดดเปรี้ยง ไม่มีทั้งฝนทั้งลม เราได้เห็นวาฬ 6-7 ตัว โดยมีคู่หนึงเป็นแม่ลูกกัน น่ารักมากๆค่ะ

ติดใจเสัยแล้วล่ะค่ะ...พรุ่งนี้เลยจะออกไปดูอีกครั้ง หวังว่าจะได้เห็นวาฬบรูด้ามากกว่าวันนี้