เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 25-07-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน และประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ภาคใต้ และอ่าวไทยตอนบน

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "ทกซูรี" บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 26 ? 27 ก.ค. 66 หลังจากนั้นจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 28 - 29 ก.ค. 66 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าว โปรดตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 24 - 25 ก.ค. 66 ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก

ส่วนในช่วงวันที่ 26 ? 28 ก.ค. 66 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 29 ? 30 ก.ค. 66 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ภาคใต้ และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง ตลอดช่วง ทำให้บริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "ทกซูรี" บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 26 ? 27 ก.ค. 2566 หลังจากนั้นจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 28 - 29 ก.ค. 2566


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองสำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง ตลอดช่วง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 25-07-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


ทำไมพบ 'ปลาพญานาค' บริเวณน้ำตื้นบ่อยขึ้น? ทั้งที่เป็นสัตว์น้ำลึก

รู้หรือไม่? "ปลาพญานาค" หรือ "ปลาริบบิ้น" ซึ่งเป็นปลาทะเลน้ำลึกที่ไม่ได้พบเจอได้ง่ายๆ แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากลับมีคนพบเห็นพวกมันบริเวณน้ำตื้นมากขึ้น จนเกิดการตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นใต้ท้องทะเล




Key Points:

- Oarfish หรือปลาริบบิ้น หรือปลาพญานาค เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึกประมาณ 1,000 เมตร ทำให้พบเห็นได้ยากบริเวณน้ำตื้น

- ในแถบเอเชียมีความเชื่อว่าหากพบเห็นปลาพญานาคบริเวณน้ำตื้น อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังจะเกิดภัยพิบัติ แต่ก็ไม่ได้มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องนี้

- เหตุผลสำคัญที่พบเห็นปลาน้ำลึกบริเวณผิวน้ำมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่พวกมันกำลังอพยพย้ายถิ่นที่อยู่ เนื่องจาก ?ภาวะโลกร้อน? ส่งผลให้น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงไปด้วย แม้ในทะเลลึกที่แสงแดดส่องไม่ถึง


ได้ชื่อว่าเป็น "ปลาทะเลน้ำลึก" แน่นอนว่าพวกมันต้องมีถิ่นที่อยู่ ใต้ทะเลที่มีความลึกตั้งแต่ประมาณ 600-8,370 เมตร หรือเรียกได้ว่าเป็นส่วนของทะเลที่มีความลึกจนแสงอาทิตย์ส่องลงมาไม่ถึง แม้ว่าปลาน้ำลึกเหล่านี้จะมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่นักสำรวจสามารถศึกษาค้นพบได้ เพียงแค่ 2% เท่านั้น เพราะการลงไปสำรวจใต้น้ำลึกขนาดนั้นเป็นเรื่องยากและมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างมาก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมีรายงานการพบปลาน้ำลึกบริเวณน้ำตื้นมากขึ้น

เนื่องจากน้ำทะเล ณ จุดความลึกระดับนั้นเป็นห้วงน้ำที่ไร้แสง ส่งผลให้น้ำมีอุณหภูมิต่ำมาก อยู่ที่ประมาณ 3 องศาเซลเซียส จนถึงระดับติดลบ 1.8 องศาเซลเซียส รวมถึงมีแรงดันมหาศาลระหว่าง 2-100 เมกะปาสคาล นอกจากนี้ยังมีออกซิเจนต่ำอีกด้วย ส่งผลให้บรรดาปลาน้ำลึกต้องมีวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอดในสภาพแวดล้อมแบบสุดขั้ว จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่พวกมันมีหน้าตาแปลกประหลาดไม่เหมือนปลาทั่วไป และในบางสายพันธุ์ก็สามารถเรืองแสงได้ด้วย

โดยหนึ่งใน "ปลาน้ำลึก" ที่มีลักษณะโดดเด่นคงหนีไม่พ้น "Oarfish" บางคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไรนัก แต่ถ้ากล่าวถึง "ปลาพญานาค" แน่นอนว่าหลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นปลาที่ถูกนำมาผูกโยงเข้ากับความเชื่อและวัฒนธรรมของผู้คนในหลายประเทศ บางประเทศเชื่อว่าพวกมันคือปลาที่คอยแจ้งเตือนว่าจะเกิด "ภัยพิบัติ" ขึ้น หากมีคนพบเห็นมันขึ้นมาว่ายอยู่บริเวณน้ำตื้น และล่าสุดมีรายงานจาก USA today ว่า มีกลุ่มนักดำน้ำบังเอิญเจอปลาพญานาคที่ยังมีชีวิตว่ายอยู่บริเวณน้ำตื้นนอกชายฝั่งไต้หวันเมื่อไม่นานมานี้


ปลาพญานาค และคำทำนายภัยพิบัติ?

เมื่อพูดถึงความเชื่อเกี่ยวกับปลาริบบิ้นหรือปลาพญานาค พบว่าส่วนมากจะได้รับการพูดถึงในแถบภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และไทย เป็นต้น ว่ากันว่าถ้าหากใครได้พบเจอกับปลาชนิดนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าจะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด เพราะมีความเชื่อว่าปลาน้ำลึกเหล่านี้เมื่อพบเจอกับแรงสั่นสะเทือนหรือรอยแยกใต้ทะเลจะทำให้พวกมันตกใจและหนีขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้มีข้อพิสูจน์หรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในประเด็นดังกล่าว

สำหรับเรื่องเล่าเกี่ยวกับ "ปลาพญานาค" นั้น มีความแตกต่างกันออกไปตามประเทศที่พบเจอ เช่น ในญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าพวกมันคือ ผู้ส่งสารจากวังแห่งท้องทะเล โดยมีชื่อเรียกว่า Ryuuguu no Tsukai ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าพวกมันได้รับคำสั่งให้มาเตือนมนุษย์นั่นเอง และสำหรับชาวจีนเรียกปลาชนิดนี้ว่า "ปลามังกร" เนื่องจากมีรูปร่างที่คล้ายกับมังกรตามความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้าจีน

สำหรับลักษณะทั่วไปของปลาพญานาค เป็นปลากระดูกแข็ง ลำตัวยาวมากเป็นพิเศษ มีถิ่นที่อยู่อาศัยที่ความลึกประมาณ 1,000 เมตรใต้ท้องทะเล ทำให้พบเห็นได้ยาก (นอกจากพวกมันจะตายแล้วถูกซัดขึ้นมาเกยตื้นตามชายหาด) พวกมันมีความยาวสูงสุดถึง 9 เมตร และมีน้ำหนักมากที่สุดได้ถึง 300 กิโลกรัม เป็นปลาที่มีส่วนหัวขนาดใหญ่ ลำตัวแบนสีเงิน มีจุดสีฟ้าและดำเล็กน้อย มีครีบหลังสีชมพูแดง และมีอวัยวะคล้ายหงอนบนส่วนหัว จึงเป็นที่มาของชื่อไทยๆ ว่า "ปลาพญานาค" ตามความเชื่อของคนไทย

ขณะที่เหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยมีความเชื่อว่าปลาพญานาคเป็นผู้ทำนายภัยพิบัตินั้น มีหลายเหตุการณ์ด้วยกัน เช่น จากรายงานของ Reconstruction พบว่า เมื่อปี 2011 เคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20,000 คน และก็มีคนเชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์ที่มีผู้พบเห็นปลาพญานาคขึ้นมาว่ายน้ำอยู่บริเวณชายฝั่งญี่ปุ่นเมื่อช่วงปี 2010

ต่อมาในไต้หวันมีรายงานจาก Taiwan News ว่า ในปี 2020 ชาวประมงจับปลาพญานาคได้ที่นอกชายฝั่งอ่าวตงอ่าว เขตอี๋หลาน ที่อยู่ทางตะวันออกของไต้หวัน หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวถึงสองครั้งในบริเวณดังกล่าว

แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ในทางวิทยาศาสตร์ หลายคนก็ยังเชื่อว่าการพบเจอปลาพญานาคบริเวณน้ำตื้นนั้น นอกจากจะทำให้เตรียมรับมือกับภัยพิบัติได้ในเบื้องต้นแล้ว บางคนยังมองว่าอาจเป็นเพราะพื้นที่น้ำลึกใต้ทะเลกำลังมีปัญหาจึงทำให้พวกมันไม่สามารถอยู่อาศัยได้


ภาวะโลกร้อนทำให้พบ "ปลาน้ำลึก" บริเวณน้ำตื้นบ่อยขึ้น?

ในอดีตการพบซาก "ปลาน้ำลึก" หายากที่ตายแล้วมาเกยตื้นอยู่บริเวณชายหาดอาจไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้นอกจากจะพบซากปลาน้ำลึกเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังพบปลาน้ำลึกบางชนิดว่ายน้ำอยู่ "บริเวณน้ำตื้น" อีกด้วย

แน่นอนว่าการที่ปลาน้ำลึกขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่บริเวณน้ำตื้นนั้นไม่ใช่เรื่องปกติ เนื่องจากสภาพร่างกายของพวกมันเหมาะกับกระแสน้ำลึกที่มีแรงดันมากกว่ากระแสน้ำตื้น ดังนั้นหากขึ้นมาอยู่ที่น้ำตื้นพวกมันจึงมักจะตายอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอวัยวะภายในเกิดความเสียหาย (คล้ายๆ ตัวของมันระเบิดจากข้างใน) แต่ในปัจจุบันกลับมีการพบเจอปลาน้ำลึกในน้ำตื้นได้บ่อยขึ้น

ข้อสันนิษฐานจากนักวิจัยนานาประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น จากวารสาร Nature Climate Change ระบุว่า มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในถิ่นที่อยู่อาศัยของปลาน้ำลึกเหล่านั้น ซึ่งตอนนี้พวกเขามีข้อมูลจากสัตว์ทะเล 20,000 ชนิด และพบว่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกมากกว่า 1,000 เมตร เริ่มรวมตัวกันอพยพมาอยู่ใกล้ผิวน้ำมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20

นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้น เพราะสิ่งมีชีวิตที่อยู่อาศัยในความลึกตั้งแต่ 200-1,000 เมตร จะย้ายที่อยู่เยอะกว่าสัตว์น้ำตื้นประมาณ 4-11 เท่า

นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิฐานจากวารสาร Nature Ecology & Evolution อีกว่า จากการศึกษาการอพยพของแบคทีเรีย พืช รา และสัตว์มากกว่า 12,000 ชนิด พบว่าสัตว์ทะเลสามารถย้ายถิ่นฐานไปยังขั้วโลกเหนือได้เร็วกว่าสัตว์บกถึง 6 เท่า โดยเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกมันต้องรีบอพยพนั้นมาจากปัญหา ?ภาวะโลกร้อน? ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

โดย Anthony Richardson จาก University of Queensland ประเทศออสเตรเลีย หนึ่งในผู้เขียนงานวิจัยดังกล่าว ระบุว่า "การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมีความสำคัญต่อการควบคุมภาวะโลกร้อนอย่างมาก ซึ่งจะช่วยควบคุมการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิไม่ให้แปรปรวน แต่ปัจจุบันมนุษย์ยังคงปล่อยก๊าซคาร์บอนปริมาณมหาศาลอย่างต่อเนื่อง

อีกปัญหาหนึ่งก็คือ ความร้อนจากบริเวณผิวน้ำจะผสมลงไปในห้วงทะเลน้ำลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ "สัตว์น้ำลึก" เผชิญภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นจากภาวะโลกร้อน ซึ่งทางออกของเรื่องนี้อาจไม่สามารถแก้ไขได้ทันที แต่สิ่งที่ควรจะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนก็คือ ลดภัยคุกคามที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ รวมถึงการทำเหมืองใต้ทะเลและการทำประมงน้ำลึก

ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่า "ปลาพญานาค" จะเป็นนักพยากรณ์ภัยธรรมชาติจริงหรือไม่นั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับว่า พวกมันและปลาน้ำลึกชนิดอื่นกำลังพบเจอกับปัญหาถิ่นที่อยู่ถูกทำลาย จนต้องพยายามย้ายไปอยู่ที่อื่น ซึ่งหากมองอีกมุมหนึ่งภัยพิบัติที่ปลาพญานาคกำลังพยายามบอกพวกเราอยู่นั้นอาจหมายถึง "ภาวะโลกร้อน" ที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ก็เป็นได้


https://www.bangkokbiznews.com/environment/1079997

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:04


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger