#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคกลาง โดยมีฝนฟ้าคะนองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 25 ? 26 มี.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ และภาคกลาง โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 27 ? 31 มี.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด และจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 25-26 มีนาคม 2563 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ไขความลับวาฬและโลมาว่ายน้ำสร้างหุ่นยนต์ Credit : Lehigh University สักวันหนึ่งหุ่นยนต์ใต้น้ำอาจเลียนแบบสิ่งมีชีวิตอย่างปลาได้ โดยเฉพาะมีลักษณะเหมือนโลมาปากขวดหรือวาฬเพชฌฆาต ซึ่งจะให้ข้อมูลตั้งแต่สุขภาพของปลาหรือสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ หุ่นยนต์ประเภทนี้ต้องมีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ มีความคล่องแคล่วสูงและซ่อนตัวได้เงียบเชียบ การพัฒนายานยนต์ใต้น้ำจึงจำเป็นมากที่ต้องเข้าใจวิธีการว่ายน้ำของโลมาและวาฬอย่างลึกซึ้ง ล่าสุดวิศวกรด้านวิศวกรรมเครื่องกลและกลศาสตร์มหาวิทยาลัยลีไฮ ในสหรัฐอเมริกา เผยการวิจัยรูปแบบและประสิทธิภาพการว่ายน้ำของสัตว์ทั้ง 2 ชนิด ด้วยการจำลองเชิงตัวเลขการสั่นที่ครีบหางของวาฬและโลมา 5 สายพันธุ์ เพื่อคาดการณ์จำนวนการเคลื่อนไหวของครีบที่ถูกปรับให้เข้ากับรูปร่างที่เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับสัตว์ เพราะครีบหางของสัตว์อย่างวาฬและโลมามีรูปร่างที่หลากหลาย วิธีการขยับครีบของพวกมันก็แตกต่างกันไป ทีมวิจัยเผยว่า การสร้างแบบจำลองเพื่อทำนายประสิทธิภาพนั้น ขึ้นอยู่กับรูปร่างและการเคลื่อนไหวของร่างกาย โดยจะให้สมการการออกแบบขั้นพื้นฐานในการสร้างหุ่นยนต์ใต้น้ำที่ทำหน้าที่เหมือนวาฬหรือโลมา ซึ่งปัจจุบันสมการเหล่านี้ยังไม่มี และเครื่องจักรที่มีอยู่ก็ขนาดใหญ่มาก ดังนั้น หุ่นยนต์เลียนแบบโลมาและวาฬจะช่วยนักวิจัยทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับวิธีที่สัตว์ว่ายน้ำ และเข้าใจพฤติกรรมของพวกมันได้ดีขึ้น รวมถึงจะใช้ตรวจจับเรือดำน้ำ ติดตามผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลต่อประชากรปลา. http://www.thairath.co.th/news/foreign/1802746
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ปิดเกาะสีชัง-เกาะล้าน ?! ชลบุรี? เข้มป้องกันยอดผู้ป่วยโควิด-19? หลังติดเชื้อสูงถึง? 38? ราย ศูนย์ข่าว?ศรี?ราชา? - ?มติคณะกรรมการ?ป้องกันโรคติดต่อชลบุรี? สั่งปิดการท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง?-เกาะล้าน ไม่อนุญาต?ให้เรือท่องเที่ยวเทียบท่า? พร้อมปิดโซนซูเปอร์มาร์เกตในห้างสรรพสินค้า? และจะให้เปิดเฉพาะร้านขายยาและร้านขายอาหาร (แบบกลับบ้าน) ?เท่านั้น หลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่งถึง? 38? ราย? วันนี้? (25? มี.ค.)? นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการ?ป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดต่อ?ร้ายแรง? จ.ชลบุรี?? ได้เผยถึงจำนวน?ผู้ติดเชื้อโควิด-19? สะสมล่าสุดในพื้นที่ว่า? มีมากถึง 38 รายแล้ว? และยังอยู่ในระหว่างตรวจรอผลอีกจำนวน 75 ราย ทำให้มีความจำเป็นต้องเรียกประชุมคณะกรรมการป้องกันโรคติดต่อ จ.ชลบุรี? เพื่อพิจารณาว่าสมควรที่จะสั่งปิดการท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง อ.ศรีราชา? และเกาะล้าน อ.บางละมุง รวมถึงห้างสรรพสินค้าเพิ่มหรือไม่? โดยมติที่ประชุมได้มีความเห็นชอบมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่มเติม? ด้วยการให้ปิดห้างสรรพสินค้าโดยจะเปิดเฉพาะโซนซูเปอร์มาร์เกต? ร้านขายยา? และร้านขายอาหาร (แบบกลับบ้าน)? เท่านั้น รวมทั้งมีความเห็นชอบให้ปิดการท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง? โดยไม่อนุญาตให้เรือโดยสารนำนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะ? รวมทั้งให้ปิดสวนสาธารณะ และตั้งด่านคัดกรองทุกจุด? โดยให้มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย https://mgronline.com/local/detail/9630000030373
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
ลด ละ เลิก พฤติกรรมทำโลกร้อน จากบทความที่แล้วได้นำเสนอเรื่องราวของ ปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเกิดขึ้นจากการผันแปร เปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโดยมีเหตุจากอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น มาจากการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศโลกที่มีก๊าซเรือนกระจกในปริมาณสูง (Greenhouse effects) เก็บกักรังสีความร้อนจากผิวโลก แล้วคายรังสีความร้อนกลับลงมาทำให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยก๊าซเรือนกระจก ประกอบไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน ก๊าซไนตรัสออกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไซด์ ก๊าซโอโซน สารคลอโรฟลูออโรคาร์บอน และฮาโลคาร์บอน โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นก๊าซที่มีความเข้มข้นสูงสุดในชั้นบรรยากาศ ข้อมูลจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า ในปี 2018 ความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ อยู่ที่ 407.8 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm) สูงกว่าปี 2017 ซึ่งอยู่ที่ 405.5 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm) ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาจากไหน? ทุกกิจกรรมในชีวิตของมนุษย์ต่างก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ อาทิ การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในภาคขนส่ง การผลิตในภาคอุตสาหกรรม กระบวนการผลิตพลังงานไฟฟ้า เมื่อความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามเป็นต้น ในชีวิตประจำวัน เราสามารถลดละการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างไรบ้าง 1. ร่วมกันเพิ่มพื้นที่สีเขียว-ลดการเผาป่า เพราะต้นไม้จะดึงเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศมาปรุงเป็นอาหารต้นไม้ 1 ต้น จะเก็บก๊าซคาร์บอนอยู่ในเนื้อไม้ประมาณ 50% เช่น ถ้าปลูกไผ่รวก 1 ต้น แล้วเติบโตจนกระทั่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงอก 130 เซนติเมตร ไผ่รวกต้นนี้จะมีปริมาณกักเก็บคาร์บอนได้ 7,146.25 กิโลกรัม การเผาป่า เผาพื้นที่เกษตร นอกจากจะสร้างมลพิษทางอากาศอย่างฝุ่น PM 2.5 แล้ว ยังทำลายป่าซึ่งเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สำคัญอีกด้วย 2. ลดขยะ-ลดก๊าซเรือนกระจก ข้อมูลจากสรุปสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย ปี 2561 โดยกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า คนไทยสร้างขยะอยู่ที่ 1.15 กิโลกรัม/คน/วัน เพิ่มขึ้น0.02 กิโลกรัม จากปี 2560ซึ่งอยู่ที่ 1.13 กิโลกรัม/คน/วัน เฉพาะในกรุงเทพฯ มีขยะมูลฝอยเกิดขึ้นกว่า 4.85 ล้านตัน แต่มีขยะที่คัดแยกนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เพียง 0.92 ล้านตัน หรือ 19% ของปริมาณขยะในกรุงเทพฯ ส่วนจำนวน 3.93 ล้านตันที่เหลือนำไปฝังกลบ โดยหลุมฝังกลบขยะ เป็นแหล่งกำเนินของก๊าซมีเทนที่มีศักยภาพจะทำให้โลกร้อนมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า หยิบเอากฎ 3R มาใช้เพื่อจัดการขยะในชีวิตประจำวัน คือ Reduce ลดปริมาณการสร้างขยะใหม่ Reuse นำกลับมาใช้ซ้ำ เช่น ถุงพลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ได้หลายครั้ง ขวดแก้วที่สามารถล้างทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ใหม่และRecycle คัดแยกขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ ออกมาล้างทำความสะอาดเพื่อส่งกลับเข้าระบบรีไซเคิล เช่น กระป๋อง ขวดน้ำพลาสติก กล่องนม เพื่อให้ขยะเหล่านี้ไม่ถูกฝังกลบไปอย่างสูญค่า 3. ลดใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่จำเป็น หันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประหยัดไฟฟ้า เบอร์ 5 บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ควรเลือกขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน หันมาใช้ไฟฟ้าผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด 4. ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ตรวจสภาพรถอยู่เสมอ การใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยเฉพาะรถเครื่องยนต์ดีเซล ปล่อยก๊าซคาร์บอนประมาณ 2.7 กิโลกรัม ต่อลิตร ขณะที่เครื่องยนต์เบนซินจะปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ประมาณ 2.3 กิโลกรัมต่อลิตร ผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวอาจเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงชีวมวล เช่น แก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซล ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าดูแลรักษาเครื่องยนต์ หรือหันมาใช้บริการขนส่งมวลชน ด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) แม้จะช่วยในแง่ของการลดมลพิษจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แต่ขณะเดียวกันยังมีประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของแบตเตอรี่ลิเทียมที่ยังต้องหาทางออก 5. ร่วมมือประหยัดน้ำ และจัดการน้ำเสีย ภัยแล้งที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ คือ ผลกระทบจากเอลนีโญ เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต การหันมาให้ความสำคัญกับคุณค่าของน้ำ โดยใช้น้ำประปาเท่าที่จำเป็น อาทิ การปิดน้ำขณะฟอกสบู่ ตอนถูแชมพูขณะสระผม หรือตอนที่ถูสบู่ขณะล้างมือ ไม่เปิดน้ำทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์จะสามารถประหยัดน้ำไปคนละ 9 ลิตร ต่อ 1 นาที เพื่อสงวนทรัพยากรน้ำไว้ใช้ยามขาดแคลน นอกจากนี้ยังต้องร่วมบำบัดน้ำเสียที่เกิดขึ้นจากการอุปโภคด้วยเพราะน้ำเสียก่อให้เกิดก๊าซมีเทน ถ้าทุกครัวเรือนร่วมกันบำบัดน้ำเสียเบื้องต้นก่อนปล่อยออกสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะจะสามารถช่วยเหลือสภาพแวดล้อมโดยรวม ประเทศไทยซึ่งถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนในสังคมต้องหันมาดูแลสภาพแวดล้อมอย่างจริงจัง ลด ละ เลิก พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ลดการอุปโภค บริโภคทรัพยากรที่ไม่จำเป็นเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ให้เลวร้ายมากไปกว่านี้ https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_3821008
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
ภูเก็ตประกาศ'เคอร์ฟิว'ห้ามออกจากที่พักตั้งแต่ 17.00-24.00 น.วันนี้ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ออกประกาศฉบับที่ 2/2563 เรื่อง ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวในการเคลื่อนไหว เคลื่อนที่ หรือรวมกลุ่มนอกสถานที่พำนัก โดยหนังสือระบุว่า "สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COMD-19) เป็นการระบาดใหญ่และให้ทุกประเทศเพิ่มมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้สูงขึ้น แต่ปัจจุบันยังคงพบการระบาดมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น อันส่งผลกระทบ ต่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19)ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ยกระดับมาตรการเข้มงวดและเร่งด่วน เพื่อควบคุมไม่ให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดออกไปในวงกว้าง ตามมาตรการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2563 และมาตราการเข้มงวดอื่นๆ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตอย่างเคร่งครัด ทั้งมาตรการป้องกันและสกัดกั้นการนำเชื้อเข้าสู่พื้นที่ และมาตรการการยับยั้งการระบาดภายในพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้ออกประกาศกำหนดให้ปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) จำนวน 3 ฉบับ เป็นลำดับอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น เพื่อเป็นการดำเนินการตามมาตรการ การเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันโรคติดต่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 22, 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ในคราวประชุมครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2553 จึงขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาพำนักอาศัยในโรงแรม คอนโด อาคารชุด สถานที่พัก หรือสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะเดียวกันให้ได้ใช้ชีวิตประจำวันโดยปกติ โดยมิให้ออกนอกบริเวณเขตพื้นที่สถานที่พำนักนั้นไปยังสถานที่อื่นใด ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 25 มีนาคม 2563 นี้" https://www.naewna.com/local/481752
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#6
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย
ปราณบุรีพบซากเต่าตนุลอยตายเป็นตัวที่ 2 ในรอบเดือน ประจวบคีรีขันธ์ 25 มี.ค.- พบซากเต่าตนุลอยมาเกยหาดปราณบุรี ตัวที่ 2 ในรอบเดือน พบเป็นเต่าตนุ ไม่ทราบเพศและอายุ หนัก 8-10 กก. กำลังเน่าเปื่อย ตามตัวไม่สามารถบอกได้ว่ามีบาดแผลหรือไม่ คาดน่าจะตายมา 10 วัน พบซากเต่าตนุลอยมาเกยหาดปราณบุรี ห่างจากจุดชมวิวหาดนเรศวร 300 เมตร ช่วงบ้านปรือน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครต้องใช้ไม้งัดซากเต่าที่จมอยู่ในทรายขึ้นมา พบเป็นเต่าตนุ ไม่ทราบเพศและอายุ ยาว 16 นิ้ว กว้าง 12 นิ้ว หนัก 8-10 กก. กำลังเน่าเปื่อย กระดองกำลังร่อน ตามตัวไม่สามารถบอกได้ว่ามีบาดแผลหรือไม่ คาดว่าน่าจะตายมา 10 วัน ทั้งนี้ นับเป็นเต่าตนุลอยเกยหน้าหาดปราณบุรี ตัวที่ 2 ในรอบเดือน. https://tna.mcot.net/view/5e7b70fae3f8e40af942a454
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|