#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2566
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำ ปกคลุมบริเวณประเทศจีนตอนใต้และประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่ลมใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนมากบริเวณด้านรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ แต่ยังคงมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย ฝุ่นละอองในระยะนี้ : ประเทศไทยมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง เนื่องจากมีฝนตกและยังคงมีการระบายของอากาศดี กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไปในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 28-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย วันที่ 22 - 27 พ.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลางตลอดช่วง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร และบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมในช่วงวันที่ 23 - 27 พ.ค. 66 และขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมที่จะเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
"กรมทะเลชายฝั่ง" สั่ง ยกระดับสำรวจ ป้องกัน "วาฬบรูด้า" สูญพันธุ์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวง ทส.สั่ง ยกระดับการสำรวจและป้องกัน ?วาฬบรูด้า? สูญพันธุ์ และสัตว์ทะเลหายาก เพื่อให้เป็นทรัพยากรอันล้ำค่า คู่ประเทศไทย วันที่ 21 พ.ค. จากกรณี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ทะเลหายากในน่านน้ำไทย เนื่องจากเป็นแหล่งทรัพยากรที่มีคุณค่าสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศท้องทะเล และเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีชีวิตที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็น พร้อมทั้งช่วยยกระดับการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ในการนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนินการสำรวจสัตว์ทะเลหายากทั้งทางเรือ ทางอากาศ และนำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการสำรวจ โดยพบสัตว์ทะเลหายากในน่านน้ำไทย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ โลมาและวาฬ 27 ชนิด พะยูน 1 ชนิด และเต่าทะเล 5 ชนิด ทั้งนี้ ในบริเวณชายฝั่งทะเล จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ พบสัตว์ทะเลหายาก จำนวน 7 ชนิด ได้แก่ วาฬบรูด้า โลมาอิรวดี โลมาหัวบาตรหลังเรียบ โลมาหลังโหนก เต่าตนุ เต่ากระ และฉลามวาฬ จากการสำรวจเชิงลึกพบว่า "โลมาอิรวดี" จะพบในพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม "โลมาหัวบาตรหลังเรียบ" จะพบมากในพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ "ปลาฉลามวาฬ" จะพบบ่อยในพื้นที่เกาะทะลุ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในส่วนของ "วาฬบรูด้า" นั้น เป็นหนึ่งในสัตว์ป่าสงวน ตามพระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายากชนิดที่พบแพร่กระจายตลอดแนวชายฝั่งของอ่าวไทย โดยจะพบบ่อยในพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เเละเพชรบุรี นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช.) กล่าวหลังจากนำสื่อมวลชนลงพื้นที่วันนี้ (วันที่ 19 พฤษภาคม 2566) ณ ชายฝั่งทะเลจังหวัดสมุทรสาคร ว่า ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งนั้นเป็นมรดกทางธรรมชาติ และเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ที่ต้องช่วยกันดูแลรักษาให้คงความอุดมสมบูรณ์ไว้ โดยเฉพาะสัตว์ทะเลหายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ หากไม่ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการนิยมล่องเรือดู "วาฬบรูด้า" จำนวนมากในบริเวณ "อ่าวไทยตัว ก" ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดผลกระทบกับ "วาฬบรูด้า" เนื่องจากวาฬบรูด้าเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบการถูกรบกวน แต่จากการที่มีเรือนำเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมเป็นประจำทุกวัน ทำให้วาฬเกิดความคุ้นเคย หลายครั้งพบว่าเรือนำเที่ยวเข้าไปในระยะที่ใกล้ จนอาจเป็นอันตราย หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบและรบกวนพฤติกรรมของวาฬในธรรมชาติ หากไม่รีบยับยั้งการกระทำแบบนี้ ในอนาคตวาฬบรูด้าในประเทศไทยอาจจะสูญพันธุ์ โดยที่ผ่านมากรม ทช. ได้ดำเนินการศึกษารวบรวมข้อมูลสถานการณ์สภาพปัญหาและผลกระทบจากการท่องเที่ยวชมวาฬบรูด้า พร้อมทั้งยื่นเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ เพื่อให้ออกเป็นประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง มาตรการคุ้มครองวาฬบรูด้าจากกิจกรรมท่องเที่ยว พ.ศ. ?.. ต่อไป นางสุมนา ขจรวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนินการสำรวจสัตว์ทะเลหายาก ทั้งทางเรือ ทางอากาศ และติดตามการรายงานจากสื่อออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินแนวโน้มจำนวนประชากร และจัดทำฐานข้อมูลสัตว์ทะเลหายากในประเทศไทย เพื่อเป็นการยกระดับความสำคัญของสัตว์ทะเลหายากบางชนิดให้เป็นสัตว์สงวนและสัตว์คุ้มครอง รวมถึงดำเนินการช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากเกยตื้น เพื่อรักษาฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ทะเลหายาก ก่อนปล่อยคืนสู่ท้องทะเล ตลอดจนการชันสูตรสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นเพื่อหาสาเหตุ และแนวทางป้องกันเพื่อลดการสูญเสีย พร้อมทั้งดำเนินการสร้างเครือข่าย และอบรมเครือข่ายในการช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นเบื้องต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นและลดอัตราการเสียชีวิตได้ โดยปัจจุบันได้มีการดำเนินงานศึกษาวิจัย อาทิ การศึกษาด้านพันธุศาสตร์ การสะสมโลหะหนักในสัตว์ทะเลหายาก ผลกระทบขยะทะเลต่อสัตว์ทะเลหายาก และการติดตามการเดินทางของสัตว์ทะเลหายาก เป็นต้น โดยการดำเนินงานทั้งหมดนั้น ควบคู่ไปกับการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่พี่น้องประชาชน ในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก รวมไปถึงทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้คงอยู่ในระบบนิเวศอย่างสมดุล และยั่งยืนสืบไป "ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้สนับสนุนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู รักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้คงความอุดมสมบูรณ์ เพื่อเป็นมรดกของประเทศไทย ในโอกาสนี้ รรท.อทช. ฝากถึงพี่น้องประชาชนในเรื่องของการท่องเที่ยวทะเลหรือเที่ยวชมวาฬบรูด้า ว่า "ควรเก็บภาพเป็นความทรงจำ มิใช่เก็บเอาทรัพยากรทางทะเล" พร้อมทั้งขอให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้คำนึงถึงธรรมชาติเป็นหลัก รักเสมือนคนในครอบครัว และช่วยปฏิบัติตามข้อระเบียบกรมฯ อย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ นายอภิชัย กล่าวทิ้งท้าย. https://www.thairath.co.th/news/local/central/2695689
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|