|
|
Share | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
#1
|
|||
|
|||
อยากทราบว่า ทำไมผมลงทะเลที่สัตหีบแล้วถึงได้มีผื่นและคัน และจะรักษายังไงดีครับ
สวัสดีครับ ปกติผมเป็นคนที่ชอบเล่นทำเลและดำน้ำอยู่แล้ว ชุดที่ใส่ก็เป็นเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นกับกางเกงเซิร์ฟธรรมดาไปเล่นทะเลมาก็ตั้งหลายที่ ดำน้ำสน๊อกเกิลก็เคยดำ เล่นตอนฝนพรำๆ ก็บ่อย ก็ไม่เคยเป็นอะไร แต่เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ไปสอบ Open Water ที่สัตหีบ ด้วยชุดที่ใส่ตามปกติ ไม่ได้ใส่เว็ทสูท อากาศครึ้มๆ พอลงไปลอยที่ผิวน้ำ เริ่มรู้สึกคันยิบๆ ตามแขน แต่คิดว่าเดี๋ยวสักพักคงหาย ก็ดำน้ำไปเรื่อยๆ ปรากฎพอขึ้นจากน้ำมา เริ่มปรากฎผื่นแดงและคันมาก อยากทราบว่าเกิดจากอะไร ทำไนเล่นน้ำทะเลที่อื่นแล้วไม่เป็น และจะรักษายังไงดีครับ
|
#2
|
|||
|
|||
จากที่อ่านหลายๆ ที่ มีพูดถึงแตนทะเล ไรทะเลบ้าง แต่ถ้าเกี่ยวกับสองอย่างนี้ ทำไมผมถึงไม่เคยเป็นมาก่อน และเพิ่งมาเป็นตอนครั้งนี้ เลยงงๆ ครับ อยากทราบเหตุผลที่แท้จริง จะได้หาทางป้องกันน่ะครับ
|
#3
|
|||
|
|||
บางเว็บก็พูดถึง dcs ทำให้เกิดผื่นคันได้ แต่ผมคิดว่า ดำน้ำ 16 เมตร แค่ 50 นาที ไม่น่าจะเป็น dcs ได้ และผื่นที่ปรากฎ ก็เป็นเฉพาะแขนเป้นส่วนใหญ่ ขามีบ้างเล็กน้อย แต่ทีใบหน้า และลำตัว ไม่มีเลยครับ
|
#4
|
||||
|
||||
ถ้าลงไปแล้ว...คันทันที ไม่น่าจะเป็น DCS หรือ Bends แน่นอนค่ะ แต่น่าจะแพ้พวกแพลงก์ตอน ลูกเล็กๆของสัตว์ทะเลประเภทแมงกะพรุนไฟ หรือแมงกะพรุนมีพิษอื่นๆ ซึ่งที่เราชอบเรียกเหมาๆกันว่า "แตนทะเล" ทะเลไหนๆก็มีแพลงก์ตอนแมงกะพรุนทั้งนั้น แต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาล สภาพดินฟ้าอากาศ และกระแสน้ำ ช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงที่แพลงก์ตอนแมงกะพรุน เข้ามาทางสัตหีบมากเป็นพิเศษ จึงทำให้ผิวส่วนที่ไม่มีอะไรปกปิดของคุณun_petit_garcon โดนเข้าไปเต็มๆ
__________________
Saaychol |
#5
|
||||
|
||||
วิธีป้องกันง่ายนิดเดียว ปิดร่างกายให้มิดชิดที่สุดเท่าที่จะทำได้ แค่ผ้ายืดไลก้าหรือชุด Skin Diving ก็ป้องกันเข็มพิษจากแมงกระพรุนไม่ว่าเล็กว่าใหญ่ได้แล้ว แต่ถ้าเป็นชุด Wetsuit จะดีกว่า เพราะช่วยป้องกันการสูญเสียความร้อนออกจากร่างกายแล้ว ยังป้องกันเข็มพิษจากสัตว์ทะเลประเภทแมงกะพรุน ไฮดรอยด์ และยังป้องกันการถูกขีดข่วนจากสิ่งมีคมได้ระดับหนึ่งด้วย ระวังอย่าให้มีช่องว่างให้น้ำไหลเข้าถูกตัวโดยตรง (ไม่ได้ผ่านการกรองของผ้าหรือชุดป้องกัน) กล่าวคือ ชุดอาจจะหลวมไป หรือชะเวิกชะวากมากไป
__________________
Saaychol |
#6
|
||||
|
||||
ส่วนวิธีการแก้ไขเมื่อถูกเข็มพิษของแมงกะพรุนหรือไฮดรอยด์ ก็คือ เมื่อขึ้นจากน้ำให้ราดบริเวณที่เป็นผื่นคันด้วยน้ำส้มสายชู หรือใช้สำลีชุบน้ำส้มสายชูเช็ด(ไปทางเดียวและอย่าใช้ด้านใดด้านหนึ่งเช็ดซ้ำวนไปวนมา ให้เปลี่ยนด้านของสำลี หรือใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ก้อนใหม่แทนก้อนเก่า) จากนั้นให้ใส่ยาทาแก้แพ้ เช่น Fenistil Gel (สองสายและพวกเรา SOS มีติดตัวเป็นประจำ) จะทำให้เย็นๆ ตุ่มหาย และหายคันได้ค่ะ ขอให้ดำน้ำได้ปลอดภัย มีความสุขสนุกสนานนะคะ
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 08-07-2013 เมื่อ 20:14 |
#7
|
|||
|
|||
หรือจะศึกษาบทความของหมอเอ๋ก้อได้ครับ
ผื่นคันเวลาไปดำน้ำ หรือ เล่นน้ำทะเล ( Sea bather's eruption หรือ แตนทะเลที่คนไทยนิยมเรียกกัน ) โดย สุขภาพกับการดำน้ำ โดยหมอเอ๋ (บันทึก) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2012 เวลา 11:10 น. ปัญหาที่หลายๆ ท่านน่าจะเคยเจอ เวลาไปเล่นน้ำทะเล ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ... หรือ จะเป็นการดำน้ำก็ตาม คืออาการผื่นคันตามผิวหนัง ในขณะที่อยู่ในน้ำ หรือ ขึ้นจากน้ำไม่นาน ... ชาวบ้านทั่วไป มักเรียกและเข้าใจว่า เป็นการคันจาก "แตนทะเล" ....... จริงๆแล้ว มันมีสาเหตุ จากอะไร และมีวิธีการรักษาอย่างไร ... วันนี้ จะมาคุยกันเรื่องนี้นะครับ สาเหตุ Sea bather's eruption หรือ แตนทะเลของคนไทย นั้น ... สาเหตุหลักๆ นั้นมักจะมาจาก การสัมผัสกับ ตัวอ่อนของสิ่งมีชีวิตในทะเล พวก Cerenterate เช่น ตัวอ่อนของ Anemone , ตัวอ่อนของแมงกระพรุน ซึ่งมีขนาดเล็กมาก แต่มี Nematocyte หรือเข็มพิษ ที่ทำให้เกิดอาการคัน แสบร้อนได้คล้ายก้บเวลาโดนแมงกระพรุน ....... ในกรณี ที่คนไทยเราเรียกว่า "แตนทะเล" นั้น ....... อาจจะทำให้สับสนกับคำว่า " Sea Warps " ของทางตะวันตก ที่หมายถึง แมงกระพรุนชนิด Chironex fleckeri ซึ่งจัดอยู่ในพวกแมงกระพรุนกล่อง ( Box jelly fish ) ที่มีพิษรุนแรง และพบว่ามีถิ่นอาศัยแถบ ออสเตรเลีย ฟิลลิปปินส์ ญี่ปุ่น ...... ส่วนในบ้านเรานั้น ไม่ได้เป็นถิ่นอาศัยตามธรรมชาติครับ ถ้าจะมีการพบหรือรายงานการพบเจอ น่าจะเป็นการมาตามกระแสน้ำโดยบังเอิญมากกว่า ... แต่ ในหัวข้อที่จะพูดถึงนี้ ต้องการจะอธิบายว่า "แตนทะเล" ของคนไทย เป็นคนละเรื่องกับ Sea Warps ของฝรั่งเค้านะครับ อาการ ในขณะที่ลงเล่นน้ำ หากใส่เสื้อผ้า หรือ Wet Suit ตัวอ่อนของ Cerenterate ที่ว่า จะเข้ามาติดอยู่ใต้เสื้อผ้า หรือ Wet Suit ... ติดอยู่ตามผิวหนังหรือเส้นผม ... อาจจะเกิดอาการคันขึ้นระหว่างอยู่ในน้ำเลยโดยมักเกิดในบริเวณที่เสื้อผ้าที่สวมใส่ไม่ได้ปกคลุม หรือ อาจจะเกิดเมื่อขึ้นจากน้ำ แล้วมีการไหลของน้ำออกจากเสื้อผ้า ,Wet Suit ทำให้มีช่องว่างระหว่างร่างกายกับชุดที่สวมใส่ลดลง ตัวอ่อนเหล่านั้นจึงสัมผัสกับผิวหนังมากขึ้น ประกอบกับอาจจจะมีแรงบีบมากขึ้น ... มีการถูไถบริเวณเสื้อผ้า รวมถึงชำระล้างร่างกายด้วยน้ำจืด ... จะเป็นการทำให้ Nematocyte ปลดปล่อยเข็มพิษออกมามากขึ้น ... ทำให้อาการแสบ คันตามร่างกายและผิวหนังนั้น มีมากขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ มักมีอาการคันภายใต้ชุดที่สวมใส่อยู่ อาการคันและผื่นมักเกิดตามหน้าอก ข้อพับแขน ขาหนีบเป็นต้น อย่างที่กล่าวข้างต้นว่า อาจจะรู้สึกเริ่มคันตั้งแต่อยู่ในน้ำ และคันมากขึ้นเมื่อขึ้นจากน้ำหรืออาบน้ำจืด อาการคันและผื่นอาจอยู่ต่อเนื่องยาวนานได้เป็นสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีความไวต่อการแพ้มากน้อยแค่ไหน ........ และ อาการคันมักจะปรากฏบริเวณน้ำตื้นๆหรือใกล้ๆผิวน้ำ การดูแลรักษา หากคิดว่า ตัวเองมีอาการคันจากการโดนตัวอ่อนของสัตว์ทะเลข้างต้น ... ให้ถอดเสื้อผ้า,Wet Suit ที่สวมใส่ แล้วชำระล้างร่างกายด้วยน้ำทะเล (ที่คิดว่าไม่มีตัวอ่อนเหล่านั้นอยู่้ ) ห้ามขัดถูบริเวณที่มีอาการคัน รวมถึง อย่าใช้ผ้าเช็ดตัว เช็ดหรือถูบริเวณนั้นๆด้วย ... ให้ใช้ น้ำส้มสายชู ผสมน้ำให้เจือจาง อาบหรือชำระล้างบริเวณที่คัน หลังจากนั้นอาจใช้ TA lotion ทาบริเวณนั้นต่อ วันละสองถึงสามครั้ง การทานยาแก้แพ้กลุ่ม Anti Histamine ก็อาจจะช่วยในการลดอาการผื่นคันลงได้เช่นกัน ... แต่หากอาการรุนแรงมากกว่านี้ เช่น มีไข้ตัวร้อน หน้าตาบวม หายใจติดขัด แนะนำให้รีบนำส่งโรงพยาบาลจะดีที่สุดครับ สำหรับ สาเหตุผื่นคันผื่นๆในการลงเล่นน้ำทะเลนั้น ก็อาจจะเกิดได้จากการโดนกัดโดยสัตว์กลุ่ม Crustacean เล็กๆ หรือ ปาราสิตในทะเลได้เช่นกัน ... แต่สาเหตุที่พบบ่อย นั้นมากจาก สัตว์กลุ่มที่ผมยกตัวอย่างมาข้างต้น ... ก็นำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆนักดำน้ำ ไว้ป้องกันและรักษาเบื้องต้นครับ ... ไปทะเลคราวหน้า จะได้ดูแลรักษาได้อย่างถูกวิธีครับ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย tik : 08-07-2013 เมื่อ 20:06 |
#8
|
|||
|
|||
ต้องขอบคุณคุณพี่ Tik และคุณพี่สายชลมากเลยนะครับ ที่ว่ามาเป็นอาการที่ตรงกันกับผมทุกประการเลย แต่ก็แอบสงสัยว่า ในเวลาที่เราคันคะเยอ คนอื่นที่ใส่เว็ทสูทแขนขาสั้นเขาไม่เป็นกัน ภูมิเราอ่อนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย -_-'''''
ตอนนี้ยาสูตรไหนก็เอาแล้วครับ คันไม่ไหวแล้วจริงๆ เล่นเอานอนไม่หลับงานการไม่ได้ทำกันเลยทีเดียว สำหรับสูตรยาที่ว่ามา จะลองไปหาซื้อหาทาดูพรุ่งนี้นะครับ ป.ล. หลังจากนี้ไปทะเลทุกครั้งคงต้องพก อสร ติดตัวไปด้วยเสียแล้ว เพิ่งรู้ว่านอกจากจะเร่งการย่อยสลายของหนามหอยเม่นได้ ล้างพิษแมงกะพรุนได้แล้ว ยังสามารถล้างคันจากพิษอื่นๆ ได้อีกด้วย |
#9
|
||||
|
||||
ถ้าไม่ได้ราดน้ำส้มตั้งแต่ต้น Nymatocyst น่าจะยังมีตกค้างอยู่...น่าจะไปหาหมอ เพื่อรักษา รับทั้งยาทาและยาทานมาใช้น่าจะดีกว่าค่ะ คนเราแต่ละคนแพ้สิ่งต่างๆไม่เหมือนกันค่ะ เราแพ้ คนอื่นอาจจะไม่แพ้ก็ได้นะคะ ขอให้หายเร็วๆค่ะ
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 09-07-2013 เมื่อ 16:44 |
#10
|
|||
|
|||
โดนมากับตัวจากประสบการณ์ ผมว่าเป็นแตนทะเลนะครับ ยิ่งเกาพิษยิ่งลาม ผมเคยคันแบบนอนไม่ได้ทั้งคืน สรุปทั้งตัวเป็นเม็ดเป็นร้อยๆ หาหมอทายา เกือบสามอาทิตย์กว่าจะหายอาการคัน ยิ่งโดนน้ำร้อนยิ่งคัน
|
|
|