#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ร่องมรสุมได้เลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ยังมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 11 ส.ค. 63 อนึ่ง พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ3 (โซนร้อน ซังมี)แล้ว มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวไปทางไต้หวันและอ่อนกำลังลงในวันที่ 10 ส.ค. 63 โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 9 - 11 ส.ค. 63 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 12 - 14 ส.ค. 63 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางด้านรับลมของบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อนึ่ง พายุระดับ 2 (พายุดีเปรสชัน) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงในช่วงวันที่ 9-10 ส.ค. 63 ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 9 - 11 ส.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ และลมกระโชกแรง สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
มอริเชียสประกาศภาวะฉุกเฉิน เรือเกยตื้นทำน้ำมันรั่วลงมหาสมุทรอินเดีย นายกรัฐมนตรีประเทศมอริเชียประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเรือขนสินค้าเกยตื้น จนทำให้น้ำมันรั่วไหลลงมหาสมุทรอินเดีย เสี่ยงกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์น้ำ สำนักข่าว บีบีซี กับ ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ปราวองด์ ฌูนโยธ แห่งประเทศเกาะ มอริเชียส ประกาศภาวะฉุกเฉินทางสิ่งแวดล้อมเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 7 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา หลังจากเรือขนสินค้าขนานใหญ่ที่เกยตื้นนอกชายฝั่งตั้งแต่เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ทำน้ำมันจำนวนมากรั่วไหลลงมหาสมุทรอินเดีย เรือดังกล่าวมีชื่อว่า 'เอ็มวี วาคาชิโอะ' ของบริษัท นากาชิกิ ชิปปิ้ง ประเทศญี่ป่น แต่ติดธงปานามา เกิดตื้นที่ 'ปอนเต เดอนี' (Pointe d'Esny) พื้นที่ชุ่มน้ำทางตะวันออกของมอริเชียส ตั้งแต่ 25 ก.ค. โดยจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติทางทะเล 'บลู เบย์' และชายหาดซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมายของเมืองมาเอบวร์ก ในตอนเกิดเหตุ เรือ วาคาชิโอะ ไม่ได้บรรทุกสินค้าใดๆ แต่มีน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่บนเรือร่วม 4,000 ตัน ซึ่งรั่วไหลออกมานับแต่นั้น โดยบริษัท นากาชิกิ ชิปปิ้ง ระบุว่า สภาพอากาศเลวร้ายและฝนที่ตกหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้น้ำมันรั่วไหลออกมาจากกราบขวาเรือที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งพวกเขาใช้มาตรการป้องกันน้ำมัน และนำทุ่นดักคราบน้ำมันไปลอยไว้รองเรือแล้ว อย่างไรก็ตาม น้ำมันที่รั่วไหลออกมาทำให้เกิดคราบน้ำมันสีดำปกคลุมผิวทะเลและพื้นดินโดยรอบ ส่งผลให้นายฌูนโยธต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และร้องขอความช่วยเหลือจากประเทศฝรั่งเศส โดยระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า "ประเทศของเราไม่มีทักษะและความชำนาญในการทำให้เรือที่เกยตื้นกลับมาเลยได้อีกครั้ง" ต่อมาในวันเสาร์ที่ 8 ส.ค. 2563 ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์ระบุว่า พวกเขากำลังส่งทีมและอุปกรณ์ควบคุมมลภาวะจากเกาะเรอูนิยง ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะมอริเชียส ไปช่วยเหลือแล้ว ด้านนาย แฮปปี้ คัมบูล ผู้จัดการอาวุโสด้านการรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมและพลังงานของ ?กรีนพีซ? องค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อม เตือนว่า เรือยักษ์ลำนี้ทำน้ำมันดีเซลหลายตันรั่วลงสู่มหาสมุทรอินเดีย ทำให้สัตว์ในพื้นที่อยู่ในความเสี่ยง "หลายพันสายพันธ์ุในน่านน้ำบริสุทธิ์ของ บลู เบย์, ปอนเต เดอนี และเมือง มาเอบวร์ก เสี่ยงจมน้ำตายเพราะมลพิษทางทะเล และจะทำให้เกิดผลร้ายแรงตามมาต่อเศรษฐกิจ, ความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพของมอริเชียส" https://www.thairath.co.th/news/foreign/1906603
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
สุดทึ่ง! อดีตหนุ่มโรงแรมเกาะลันตาไอเดียเจ๋ง! นำขยะที่คลื่นซัดเกยหาดมาสร้างสรรค์สร้างผลงาน เพิ่มมูลค่า ทำรายได้งาม กระบี่ - อดีตหนุ่มพนักงานโรงแรมที่เกาะลันตา เก็บขยะตามชายหาด รังสรรค์ สิ่งประดิษฐ์ เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ ลดขยะตามแหล่งท่องเที่ยว เผยทำด้วยใจรัก วันนี้ (8 ส.ค.) นายยุทธนา ดารากัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 424 ม.2 ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ได้นำขยะลอยทะเลที่ถูกคลื่นซัดมาติดอยู่ตามชายหาดเกาะลันตา มารังสรรค์สร้างชิ้นงาน สิ่งประดิษฐ์ เช่น พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.9 กำลังทรงงาน ว่าวไทย รูปปลาต่างๆ เช่น ปลาฉลาม ปลาโลมา ปลาใบ ปลาทูน่า เป็นต้น ซึ่งเป็นชิ้นงานที่ประดิษฐ์ขึ้นมาได้อย่างสวยงาม จัดวางขยะแต่ละชิ้นได้อย่างลงตัว ที่สำคัญผลิตจากขยะที่หลายคนมองว่าไร้ค่า จนปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย บ้างนำไปเป็นโคมไฟ วางประดับตามห้องรับแขกตามบ้าน ร้านอาหาร ส่วนราคาขึ้นอยู่แต่ละชิ้นงาน ยากง่ายแตกต่างกันไป ราคาเริ่มต้นที่ 1,500-5,500 บาท นอกจากนี้ ขึ้นอยู่กับขนาด หากยาว 1 เมตร ราคา 1,500 บาท ยาว 1.50 เมตร ราคา 3,000 บาท ยาว 2 เมตร ราคา 5,000 บาท ยาว 2.50 เมตร ราคา 8,500 บาท นายยุทธนา เปิดเผยว่า เดิมเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเกาะลันตา แต่ประสบปัญหาช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด ทำให้ต้องออกจากงาน ปัจจุบันช่วยภรรยาขายสินค้าออนไลน์ โดยก่อนเริ่มเดิมทีเมื่อ 4 ปีก่อน แนวคิดนี้จุดประกายมาจากเจ้าของโรงแรมที่เคยทำงาน ถามตนถึงจะทำอย่างไรกับขยะจำนวนมากที่ลอยมากับทะเล แล้วคลื่นซัดเข้าฝั่งกองเรียงรายตามแนวชายหาดในช่วงโลว์ซีซัน หน้ามรสุม ซึ่งเป็นคำถามว่า ขยะนี้จะทำให้เกิดประโยชน์อะไรได้บ้าง เป็นคำถามที่จุดประกายสู่ความคิดสร้างสรรค์ จนปัจจุบันเป็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นงานที่ทำมาจากขยะ สร้างรายได้ให้แก่ตน จนปัจจุบันนี้มีออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย ทำแทบไม่ทัน นายยุทธนา กล่าวอีกว่า ชิ้นงานชิ้นแรก คือพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.9 ที่ไม่ใช่งานวาดเขียน แต่ใช้วัสดุที่ลอยมาจากทะเล ทุกอย่างที่มาจากทะเล ทำขึ้นจากวัสดุธรรมชาติทางทะเล มีส่วนประกอบ เช่น ทราย ลูกมะเดื่อ ชิ้นไม้ มีเพียงบางส่วนที่ต้องซื้อมาเพื่อประกอบให้งานสมบูรณ์ หลังจากนั้นก็มีออเดอร์จากจังหวัดภูเก็ต เป็นปลากระเบน และชิ้นงานอื่นตามมาเรื่อยๆ โดยส่วนตัวเป็นคนไม่หยุดพัฒนา หาไอเดียใหม่ๆ สร้างชิ้นงานใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ โดยล่าสุดเป็นรูปว่าวไทย ปลาโลมา ปลาฉลาม เป็นต้น ทั้งนี้ ตนมีความเชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ ถ้ามีความพยายาม มุมานะอดทน เอาใจใส่ในงานที่ทำ อีกอย่างเป็นสิ่งที่ดี หาก 100 คนช่วยกันเก็บขยะมาผลิตสิ่งต่างๆ นำมาตกแต่งบ้าน ร้านอาหาร ผมเชื่อว่าทะเลบ้านเราจะน่าอยู่ยิ่งขึ้น สุดท้ายขอฝากชิ้นงานไว้ด้วยเผื่อใครสนใจ ปัจจุบันนอกจากชิ้นงานที่รับทำตามออเดอร์แล้ว ยังมีชิ้นงานบางส่วนที่จัดทำไว้ ซึ่งมีผู้สนใจเข้ามาชม บางท่านก็ซื้อกลับไปเป็นที่ระลึก https://mgronline.com/south/detail/9630000081257
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก บ้านเมือง
น่าทึ่ง! หนุ่มรังสรรค์สิ่งประดิษฐ์ จากขยะลอยทะเลเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ น่าทึ่ง อดีตหนุ่มพนักงานโรงแรมที่เกาะลันตา ผันตัวรังสรรค์ สิ่งประดิษฐ์ จากขยะลอยทะเล เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ ลดขยะตามแหล่งท่องเที่ยว เผยทำด้วยใจรัก คนอื่นมองสวยหรือไม่ ผมไม่รู้ แต่ส่วนตัวภูมิใจสามารถนำเศษขยะไร้ค่าให้มีมูลค่าได้ วันที่ 8 ส.ค.63 นายยุทธนา ดารากัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 424 ม.2 ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ชายผู้จุดประกายนำขยะลอยทะเล มารังสรรค์สร้างชิ้นงาน สิ่งประดิษฐ์ ประกอบด้วย รูปพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.9 ว่าวไทย รูปปลาต่างๆ เช่น ปลาฉลาม ปลาโลมา ปลาใบ ปลาทูน่า เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งเป็นชิ้นงานที่ผลิตขึ้นมาได้อย่างสวยงาม จัดวางได้อย่างลงตัว ที่สำคัญผลิตจากขยะที่หลายคนมองว่าไร้ค่า จนปัจจุบันมีออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย บ้างนำไปเป็นโคมไฟ วางประดับตามห้องรับแขกตามบ้าน ร้านอาหาร ส่วนราคาขึ้นอยู่แต่ละชิ้นงาน ยากง่ายว่ากันไป ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาท ถึง 5,500 บาท นอกจากนี้ขึ้นอยู่กับขนาด หากยาว 1เมตร ราคา1,500 บาท , 1.50ม.ราคา3,000 บาท , 2 เมตร ราคา5,000 บาท , 2.50ม. ราคา 8,500บาท นายยุทธนา ดารากัย เล่าว่า เดิมเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเกาะลันตา แต่ประสบปัญหาช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด ทำให้ต้องออกจากงานปัจจุบันช่วยภรรยาขายครีมออนไลน์ โดยก่อนเริ่มเดิมทีเมื่อ 4 ปีก่อน แนวคิดนี้จากเจ้าของโรงแรมที่เคยทำงาน มีคำถามตนถึงขยะทะเลจำนวนมากที่ลอยมากับทะเล แล้วคลื่นซัดเข้าฝั่งกองเรียงรายตามแนวชายหาดในช่วงโลซีซั่น หน้ามรสุม ซึ่งเป็นคำถามว่า ขยะนี้จะทำให้เกิดประโยชน์อะไรได้บ้าง เป็นคำถามที่จุดประกายสู่ความคิดสร้างสรรค์ จนปัจจุบันเป็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นงานที่ทำมาจากขยะ สร้างรายได้ให้กับตน จนปัจจุบันนี้มีออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย ทำแทบไม่ทัน นายยุทธนา ดารากัย เล่าต่ออีกว่า ชิ้นงานชิ้นแรก คือรูปพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.9 ที่ไม่ใช่งานวาดเขียน แต่ใช้วัสดุที่ลอยมาจากทะเล ทุกอย่างที่มาจากทะเล ทำขึ้นจากวัสดุธรรมชาติทางทะเล มีส่วนประกอบ เช่น ทราย ลูกมะเดื่อ ชิ้นไม้ มีเพียงบางส่วนที่ต้องซื้อมาเพื่อประกอบให้งานสมบูรณ์ หลังจากนั้นก็มีออเดอร์จากจังหวัดภูเก็ต เป็นปลากระเบน และชิ้นงานอื่นๆตามมาเรื่อย โดยส่วนตัวเป็นคนไม่หยุดพัฒนา หาไอเดียใหม่ๆ สร้างชิ้นงานใหม่ขึ้นมาเรื่อย โดยล่าสุดเป็นรูปว่าวไทย ปลาโลมา ปลาฉลาม เหล่านี้เป็นต้น ทั้งนี้ผมมีความเชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ ถ้ามีความพยายาม มุ่งมานะอดทน เอาใจใส่ในงานที่ทำ อีกอย่างเป็นสิ่งที่ดี หากร้อยคนช่วยกันเก็บขยะมาผลิตสิ่งต่างๆ นำมาตกแต่งบ้าน ร้านอาหาร ผมเชื่อว่าทะเลบ้านเราจะน่าอยู่ยิ่งขึ้น สุดท้ายขอฝากชิ้นงานไว้ด้วยเผื่อใครสนใจ ปัจจุบันนอกจากชิ้นงานที่รับทำตามออเดอร์แล้ว ยังมีชิ้นงานบางส่วนที่จัดทำไว้ ซึ่งมีผู้สนใจเข้ามาชม บางท่านก็ซื้อกลับไปเป็นที่ระลึก https://www.banmuang.co.th/news/region/201851
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|