สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมฝ่ายตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง และภาคใต้ตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย ได้เคลื่อนลงสู่ช่องแคบมะละกา คาดว่าจะเคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามันในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝน ร้อยละ 20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 27 ? 29 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 2 องศาเซลเซียส ในขณะที่ในช่วงวันที่ 26 ? 27 พ.ย. 66 มีลมฝ่ายตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งเกิดขึ้นได้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซียมีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่าง และประเทศมาเลเซีย ลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 30 พ.ย. ? 2 ธ.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 ? 3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่มีลมฝ่ายตะวันออกพัดนำความชื่นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งเกิดขึ้นได้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 26 ? 27 พ.ย. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกฝั่งจนถึงวันที่ 29 พ.ย. 66 นี้ไว้ด้วย



******************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566) ฉบับที่ 8 (305/2566)

หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงจะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย ลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง และภาคใต้ตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เปิดภาพเตือนใจ "ซากเต่าทะเล" ผ่าชันสูตรเจอหมุด ตะปู จากกระทง

เปิดภาพเตือนใจ "ซากเต่าทะเล" ได้รับผลกระทบจาก "เทศกาลลอยกระทง" ผ่าชันสูตรเจอ หมุด ตะปู จากกระทง



วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 มีรายงานว่า ลอยกระทง 2566 ในปีนี้ ตรงกับวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งหลายคนได้ช่วยกันรณรงค์ยกเลิก "ลอยกระทง" ในทะเล

เช่นเดียวกับทางแฟนเพจ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ได้นำโพสต์ผลกระทบของการลอยกระทงเมื่อปีที่ผ่านมากลับมาโพสต์อีกครั้ง ระบุข้อความว่า เคสนี้เมื่อปีที่แล้ว จากผลกระทบของเทศกาลลอยกระทง ถ้าเก็บไม่ทัน หรือเก็บไม่หมด กระทงที่อยู่ตามแม่น้ำลำคลอง จะไหลไปรวมอยู่ในทะเล หรือกระทงอาจมาจากกิจกรรมทางทะเลอยู่แล้ว โพสต์เตือนความจำ กลัวว่าไม่นานก็จะลืมเลือน ?

โดยโพสต์เมื่อปีที่แล้ว ทางแฟนเพจ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ได้เผยภาพซากเต่าทะเล มีข้อความระบุว่า วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.30 น. ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ (ศอพต.) ได้รับแจ้งจาก พ.จ.อ.จุลทิตย์ ศรีอนันต์ (เจ้าหน้าที่กองพันรถสะเทินน้ำสะเทินบก) ว่าพบ "ซากเต่าทะเล" ขนาดใหญ่ลอยเกยตื้นที่บริเวณริมหาดกินรี (หาดขลอด) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทาง ศอพตฯ จึงได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปรับซาก และนำกลับมาผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ รพ.เต่าทะเล กองทัพเรือ ต่อไป

เบื้องต้น หลังจากที่สัตวแพทย์ประจำศูนย์ ศอพต. เข้าทำการตรวจสอบพบว่าเป็น "เต่าตนุ" (Chelonia mydas) ขนาดกระดองกว้าง x ยาว (90 x 96.5 cm.) เพศเมีย อายุประมาณ 20 ปี พบเลขรหัสไมโครชิพ 116918551A (อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเป็นเต่าจากที่ใด)



ผลการชันสูตร : สภาพซากเน่ามาก

- ไม่พบบาดแผลภายนอก ลำตัว

- อวัยวะหลายส่วนเริ่มเน่าสลาย

- ภายในระบบทางเดินอาหารพบ อาหารจำพวก สาหร่ายทะเล แมงกะพรุน ไข่ปลา

- พบขยะทะเล และสิ่งแปลกปลอมภายในระบบทางเดินอาหารจำนวนมาก เช่น หมุด ตะปู จากกระทง อวน เชือกไนลอน แผ่นพลาสติก อุดตันในลำไส้

รวมน้ำหนักเศษอวนขณะแห้ง มีน้ำหนักประมาณ 100 g. (แต่ถ้ารวมปะปนกับเศษอาหารและขยะอื่นๆ ภายในลำไส้จะมีน้ำหนักทั้งหมด มากกว่า 2 kg.)

สาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากสภาพซากเน่ามากเลยทำให้ไม่สามารถดูวิการ รอยโรค และบาดแผลอื่นๆ ได้ชัดเจน แต่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดจากการที่เต่าทะเลได้กินขยะทะเลเข้าไปจำนวนมาก ทำให้อุดตันอยู่ในระบบทางเดินอาหารตั้งแต่บริเวณกระเพาะอาหารไปจนถึงลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำให้ระบบทางเดินอาหารเกิดการอักเสบ ไม่สามารถย่อยอาหาร และขับถ่ายออกมาได้ตามปกติ จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เต่าทะเลจมน้ำเสียชีวิตในที่สุด


https://www.thairath.co.th/news/society/2743618

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


ผงะ! ขยะล้นหาดราชาน้อย พลาสติกเกลื่อนเกือบ 3 พันกิโล

ขยะพลาสติก ขวดน้ำ ล้นทะเลไทย ศรชล.ภาค 3 ร่วมเก็บขยะ เกาะราชาน้อย กับ "มนุษย์เงือก" ได้ขยะเกือบ 3พันกิโลกรัม



26 พ.ย.2566 ? ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3(ศรชล.ภาค3) เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ศรชล.ภาค 3 โดย น.อ.กฤษณ์ เคลือบมาศ รองผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดภูเก็ต (รอง ผอ.ศรชล.จว.ภูเก็ต) /น.อ.พิเชษฐ์ ซองตัน ผู้อำนวยการกองสารนิเทศ ศรชล.ภาค 3/น.อ.โสภณ ตั้งวิทย์โมนัย หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต (หน. ศคท.จว.ภูเก็ต) พร้อมกำลังพล ร่วมกิจกรรม เก็บขยะทะเล บริเวณ ณ หาดรังไก่หรือหาดไม้เจ็ด เกาะราชาน้อย ร่วมกับ น้องทราย สก๊อต ฉายา "มนุษย์เงือก" "นักอนุรักษ์และปกป้องท้องทะเล" โดยมีหน่วยงานหลายภาคส่วนเข้าร่วมกิจกรรม ได้รับการสนับสนุน เรือปะการัง ของ กระทรวงทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 เป็นพาหนะในการเดินทางไปยังเกาะราชาน้อย ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

โดยก่อนการเก็บขยะ น้องทราย สก๊อต ฉายา มนุษย์เงือก กล่าวว่า ขอขอบคุณทุก ท่าน ทุกภาคส่วนที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาร่วมใจกันเก็บขยะในครั้งนี้ การเก็บขยะชายหาดครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 5 ในแต่ละครั้งที่ผ่านมาสามารถเก็บขยะขึ้นมาได้มากกว่า 3,000 กิโลกรัม

ทั้งนี้ ในส่วนของ ศรชล.ภาค 3 ได้รับมอบให้เก็บขยะตามแนวโขดหิน ซึ่งมีความยากและอันตราย ทำให้หลายคนได้แผลกลับมา สามารถเก็บขยะตามชายหาด ขึ้นมาได้รวมทั้งสิ้น 2,950 กิโลกรัม ส่วนใหญ่เป็นขยะพลาสติก เช่น ขวดน้ำ เชือก อวน เป็นต้น ขยะทั้งหมดถูกลำเลียงมาขึ้นที่ท่าเรืออ่าวฉลอง และส่งต่อให้กับเทศบาลเพื่อนำไปทำลายตามวิธีการกำจัดขยะ ต่อไป.

https://www.thaipost.net/district-news/491164/

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


โลกร้อน ภูเขาน้ำแข็งหนัก 1 ล้านล้านเมตริกตันเคลื่อนตัว หวั่นกระทบสัตว์ทะเล



สัญญาณโลกร้อน โผล่มาอีกแล้ว เมื่อหนึ่งในภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง A23a เคลื่อนตัว ทำเอานักวิทยาศาสตร์ต้องจับตาใกล้ชิด หวั่นกระทบสัตว์ทะเล
นักวิทยาศาสตร์ รายงานเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ย.) ว่า "A23a" ภูเขาน้ำแข็งแอนตาร์กติก ที่มีพื้นที่เกือบ 4,000 ตารางกิโลเมตร มีขนาดใหญ่กว่านิวยอร์กซิตีประมาณ 3 เท่า และเป็นภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของโลก เคลื่อนตัวเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 30 ปี

ภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อไม่นานมานี้ เผยให้เห็นว่าภูเขาน้ำแข็งลูกดังกล่าว ที่มีน้ำหนักเกือบ 1 ล้านล้านเมตริกตัน กำลังเคลื่อนตัวผ่านตอนเหนือของคาบสมุทรแอนตาร์กติกอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีลมและกระแสน้ำแรง

โอลิเวอร์ มาร์ช นักธารน้ำแข็งจากบริติช แอนตาร์กติก เซอร์เวย์ เผยว่า ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่เคลื่อนตัวเป็นเหตุการณ์ที่เห็นได้ยาก ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์ จะจับตาดูวิถีเคลื่อนที่ของภูเขาน้ำแข็งนี้อย่างใกล้ชิด

เรื่องที่น่ากังวลคือ A23a หนึ่งในภูเขาน้ำแข็งที่เก่าแก่ที่สุด อาจเคลื่อนไปติดแผ่นดินที่เกาะเซาท์จอร์เจีย ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาต่อสัตว์ป่าในแอนตาร์กติกา เนื่องจากแมวน้ำ เพนกวิน และนกทะเลหลายล้านชีวิตดำรงเผ่าพันธ์ุบนเกาะแห่งนี้ และหาอาหารในทะเลโดยรอบ A23a จึงอาจขัดขวางการดำรงชีวิตของสัตว์กลุ่มดังกล่าว

ยกตัวอย่าง กรณีภูเขาน้ำแข็ง A68 สร้างความกังวลในปี 2563 ว่า อาจชนกับเซาท์จอร์เจีย แล้วทำลายสิ่งมีชีวิตที่อาศัยบนพื้นทะเลและตัดขาดการเข้าถึงอาหารเช่นกัน แต่ภูเขาลูกดังกล่าวกลับแตกออกเป็นส่วนเล็ก ๆ ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า A23a อาจมีจุดจบแบบนั้นเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม มาร์ชเตือนว่า ภูเขาน้ำแข็งขนาดนี้สามารถดำรงอยู่ได้เป็นเวลานานในมหาสมุทรตอนใต้ แม้อุณหภูมิสูงขึ้นก็ตาม และอาจเคลื่อนตัวไปทางเหนือสู่ตอนใต้แอฟริกา ซึ่งอาจกระทบการขนส่งได้


https://www.bangkokbiznews.com/world/1100718

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


แจงแล้ว จัด "ลอยกระทง ลงทะเล" มีทุ่นดัก-จนท.ดำน้ำเก็บกระทง ยันรักษ์ทะเล



เทศบาลตำบลสุนทรภู่ จ.ระยอง ยันจัดงานประเพณี "ลอยกระทง ลงทะเล" มุ่งรักษาสิ่งแวดล้อม ระบุ มีทุ่นดัก-จนท.ดำน้ำเก็บกระทงไม่ตกค้าง พร้อมดูแลความปลอดภัย นทท.เต็มที่ หลังเกิดกระแสดรามาในโซเชียล วิพากษ์วิจารณ์ว่า ลอยกระทงลงทะเล ไม่ควรเกิดขึ้น

26 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ศศิพัชร์ จิรัตติกานนท์ ผอ.กองการศึกษา เทศบาลตำบลสุนทรภู่ เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลสุนทรภู่ ได้จัดงานประเพณี "ลอยกระทง ลงทะเล" บริเวณแหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง ในค่ำคืนวันที่ 27 พ.ย.66 นี้ โดยเทศบาลตำบลสุนทรภู่ได้ตระหนักถึงวัฒนธรรมประเพณีลอยกระทงที่ยังต้องอนุรักษ์สืบสานไปพร้อมๆ กับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี และกระตุ้นเศรษฐกิจรากฐานให้พี่น้องประชาชน ซึ่งการจัดงาน ได้ส่งเสริมการร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง และสร้างรายได้จากการจำหน่ายอาหารทะเล สินค้าและอาหารพื้นถิ่น เมื่อมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าเที่ยวงาน กิจกรรมประเพณีลอยกระทงดังกล่าวจึงเกิดขึ้น

โดยบริเวณพื้นที่จัดงานริมหาดแหลมแม่พิมพ์ ได้มีการจัดโป๊ะลอยน้ำที่มีความแข็งแรงสำหรับให้พี่น้องประชาชนลอยกระทง และมีทุ่นล้อมรอบดัก และป้องกันกระทงลอยออกไปในทะเล เพราะลอยออกไปก็จะยากต่อการจัดเก็บ อีกทั้ง ได้มีเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำลงเก็บกระทงทั้งหมด ทันทีในช่วงเช้า เพื่อจะไม่มีหลุดลอดหรือตกค้างในทะเล ในส่วนความปลอดภัยทางน้ำมีเรือเร็ว พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยกว่า 10 คน สแตนด์บาย เพื่อให้ดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่มาร่วมลอยกระทงด้วย

น.ส.ศศิพัชร์ เปิดเผยอีกว่า อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมาไม่ได้มีการจัดงานลอยกระทง แต่ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างก็พากันมาลอยกระทงในทะเลตลอดแนว ส่งผลให้กระทงกระจัดกระจายในท้องทะเล ดังนั้น ในปีนี้ทางเทศบาลตำบลสุนทรภู่ เห็นว่าหากปล่อยให้เหมือนทุกปี ก็จะมีกระทงกระจายลอยเต็มทะเล ส่งผลกระทบต่อสภาพชายหาดและทำลายสิ่งแวดล้อม

ปีนี้จึงได้มีการจัดพื้นที่ลอยกระทงให้ พร้อมกันจัดงานสืบสานประเพณีและชวนท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ชุมชนไปพร้อมกัน ท่ามกลางการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์ตลอดแนวชายหาดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวรับทราบอย่างทั่วถึง ให้นำกระทงมาลอยในพื้นที่ที่จัดไว้ ก่อนหน้านี้ เกิดกระแสดรามาในโซเชียล เรื่องลอยกระทงลงทะเล ที่ชาวเน็ตส่วนใหญ่วิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่ควรเกิดขึ้น


https://www.nationtv.tv/news/social/378936501