#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีฝนบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ในวันนี้ ( 7 มี.ค. 64) ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 7 - 9 มี.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนี่งจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 10 ? 12 มี.ค. 64 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 7 - 9 มี.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
วัยรุ่นออสเตรเลียเสียชีวิต หลังโดนพิษแมงกะพรุนกล่อง ที่ชายหาดควีนส์แลนด์ วัยรุ่นชายชาวออสเตรเลียลงเล่นน้ำที่ชายหาดรัฐควีนส์แลนด์ โดนพิษแมงกะพรุนกล่องเสียชีวิต นับเป็นเหยื่อที่เสียชีวิตจากแมงกะพรุนสายพันธุ์นี้รายแรกในรอบ 15 ปี เมื่อวันที่ 5 มี.ค. เว็บไซต์ข่าว CNN รายงานว่า วัยรุ่นชายวัย 17 ปีเสียชีวิตหลังจากไปว่ายน้ำที่ชายหาดแพตเตอร์สัน พ้อยท์ ใกล้เมืองบามากา โดยไปสัมผัสโดนแมงกะพรุนกล่อง (Box jellyfish) แมงกะพรุนพิษที่มีพิษร้ายแรง เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา จากนั้นเขาได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 มี.ค. โฆษกของหน่วยกู้ชีพ "รอยัล ฟลายอิ้ง ดอกเตอร์ เซอร์วิส" ในออสเตรเลียเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัววัยรุ่นชายรายนี้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปส่งที่โรงพยาบาลทาวน์สวิล หลังได้รับแจ้งว่าผู้ป่วยรายนี้สัมผัสถูกแมงกะพรุนกล่องซึ่งมีพิษร้ายแรง และทราบว่าเขาเสียชีวิตใน 10 วันต่อมา ข้อมูลจากสำนักงานมหาสมุทรแห่งชาติของออสเตรเลียเปิดเผยว่า แมงกะพรุนกล่อง มีอยู่ประมาณ 50 สายพันธุ์ แต่หนึ่งในสายพันธุ์ที่มีพิษร้ายแรงถึงทำให้เสียชีวิตได้คือ Chironex fleckeri ในออสเตรเลีย ซึ่งนับเป็นสัตว์ทะเลมีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก ที่ผ่านมาเคยมีผู้เสียชีวิตจากการสัมผัสถูกพิษของมันแล้วกว่า 70 รายในออสเตรเลีย และสำหรับวัยรุ่นชายรายนี้เป็นเหยื่อรายแรกในรอบ 15 ปี. https://www.thairath.co.th/news/foreign/2044255
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
เสนอเปิดอ่าวมาหยากระตุ้นการท่องเที่ยว หลังปิดฟื้นฟูมานานเกือบ 3 ปี กระบี่ - จังหวัดกระบี่ เสนอเปิดอ่าวมาหยา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กระตุ้นการท่องเที่ยว หลังปิดฟื้นฟูมานานเกือบ 3 ปี โดยเสนอต่อคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร จากกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีการประกาศปิดอ่าวมาหยา แหล่งท่องเที่ยวระดับโลก เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ มาเป็นเวลานานเกือบ 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลและบนบก รวมทั้งปลูกปะการังทดแทนในส่วนที่ได้รับความเสียหายทั้งจากกิจกรรมการท่องเที่ยว และการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชน ได้มีการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเสนอให้มีการเปิดอ่าวมาหยาอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิด-19 เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่รู้จักกันทั่วโลก แต่จะมีมาตรการควบคุม เช่น กำหนดเขตการเข้ามาจอดเรือไว้โดยให้ลอยลำหน้าอ่าวมาหยา การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว มีการปลูกพันธุ์ไม้ป่าชายหาด เพื่อช่วยยึดหน้าดินป้องกันการพังทลายของเนินทรายหน้าหาด และในช่วงปิดอ่าวมาหยา พบมีผักบุ้งทะเลขึ้นปกคลุม และมีการติดตามการกัดเซาะชายหาดต่อเนื่อง รวมทั้งฟื้นฟูระบบนิเวศปะการังเสื่อมโทรมโดยการขยายพันธุ์ปะการังที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ซึ่งขยายพันธุ์ไปแล้ว 7 สกุล รวม 23,000 โคโลนี พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ จัดทำทางเดินยกระดับลดการเหยียบย่ำของนักท่องเที่ยว ห้ามเล่นน้ำบริเวณอ่าวมาหยา เปิดช่องทางให้เรือเข้าทางอ่าวโละซามะเท่านั้น เป็นต้น จังหวัดกระบี่ได้นำเสนอข้อมูลในด้านต่างๆ ให้ทางคณะกรรมาธิการธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับทราบ เพื่อนำสู่การแก้ไขปัญหา และส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสร้างรายได้สำคัญของประเทศ ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประชาชนในสถานการณ์การฟื้นตัวจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อไป สำหรับอ่าวมาหยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และที่ผ่านมา บริษัทถ่ายทำภาพยนตร์ต่างชาติชื่อดังได้ใช้อ่าวมาหยา เป็นโลเกชันในการถ่ายทำภาพยนต์ เรื่อง ?เดอะบีช? ด้วย ก่อนที่กรมอุทยานฯ ได้ประกาศปิดอ่าวมาหยาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 จนถึงปัจจุบัน เพื่อให้ธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู https://mgronline.com/south/detail/9640000021714
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
ไอ้เข้พุ่งงาบฉลาม ต่อหน้าต่อตา ยื้อแย่งนักเย่อปลากลางทะเล ไอ้เข้พุ่งงาบฉลาม ? เดลีเมล์ รายงานเบื้องหลังคลิปไวรัล นาทีจระเข้พุ่งงับฉลามที่ชาวประมงออสเตรเลียตกได้กลางทะเล สุดท้าย ฉลามก็ตกเป็นอาหารของจระเข้ผู้หิวโหยที่ขโมยปลาฉลามไปต่อหน้าต่อตา เจฟฟ์ เทร้าเวน อายุ 62 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ตอนนั้นตนอยู่บนเรือของแนต บาร์นส์ เพื่อนบ้าน ลอยลำอยู่ในทะเลห่างจากเมืองวินดัมไปทางตะวันตก 80 กิโลเมตร รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย จังหวะตกปลาฉลามครีบดำได้ ก็สาวเบ็ดดึงปลาขึ้น แต่จระเข้น้ำเค็ม คาดว่าเป็นวัยหนุ่ม ความยาวประมาณ 2.5 เมตร พุ่งงับฉลามไว้ไม่ยอมปล่อย คลิปวิดีโอที่นายเจฟฟ์ บันทึกไว้ได้เห็นภาพแนตพยายามสาวสายเอ็นขึ้นเรือ แต่จระเข้งับฉลามไว้ด้วยขากรรไกรอันทรงพลัง สุดท้าย นายแนตคิดว่าคงจะเย่อแพ้จระเข้แน่ จึงตัดสายเอ็นและปล่อยให้จระเข้ว่ายน้ำจากไปพร้อมกับอาหารไปริมแม่น้ำ ก่อนดำลงน้ำหายไป เจฟฟ์ อาศัยอยู่ที่เมืองคูนูเนอร์รา รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียกล่าวว่าหลังจากตกปลาได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง แนตตกฉลามครีบดำวัยรุ่นได้ตัวหนึ่ง ขณะที่สาวสายเอ็น จระเข้น้ำเค็มอยากกินฉลามขึ้นมาจึงกระโจนขึ้นเหนือผิวน้ำและงับฉลามไว้ จระเข้ไม่กลัวคน พวกมันมีความสุขที่อยู่ใกล้ๆ คน ช่างภาพชาวออสเตรเลียกล่าวว่าเป็นช่างภาพสัตว์ป่ามา 30 ปี เคยเห็นจระเข้มากมายแต่ไม่เคยเจอจระเข้แย่งเหยื่ออย่างนี้จึงตกใจมากและไม่อยากเชื่อว่าเห็นอะไรที่แข็งแกร่งและทรงพลังใกล้ๆ อย่างนี้มาก่อน เจฟฟ์กล่าวว่าอยู่ด้านข้างเรือ แม้ว่าใจจริงอยากจะจับแต่ไม่อยากถูกกัดนิ้วหาย จระเข้ดูสงบเมื่อนอนผึ่งแดดบนหาดโคลน แต่ถ้ามันหิวขึ้นมาจะจู่โจมรวดเร็วและทรงพลังดั่งสายฟ้าแลบ จระเข้ฉลาดมาก หากนักท่องเที่ยวทั่วไปตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน พวกจระเข้จะจ้องมองใกล้ๆ ขยับมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ กระทั่ง พวกมันว่ายน้ำมาใกล้และกัดเข้าที่ขาโดยที่คนไม่มีทางทำอะไรได้เลย https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_6078503
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก GREENPEACE
วาฬปิ๊กมี่ตัวน้อยในมหาสมุทรอินเดีย .................... โดย Willie Mackenzie เมื่อพูดถึงวาฬ เรามักจะนึกถึงวาฬที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งขนาดตัวของมันมีความยาวเทียบเท่ากับรถบัส ฝูงช้างหรือไดโนเสาร์ เรื่องราวที่เราจะเสนอต่อจากนี้อาจเซอร์ไพรซ์คุณเพราะเป็นเรื่องที่เราอาจคาดไม่ถึงเลยนั่นคือ วาฬปิ๊กมี่น้ำเงินที่อาศัยอยูในมหาสมุทรอินเดีย วาฬปิ๊กมี่น้ำเงินเป็นวาฬสายพันธ์ุหนึ่งของวาฬสีน้ำเงินที่อาศัยในแถบโลกเขตร้อน พวกมันมีความยาวเพียง24เมตร เมื่อเทียบกับญาติวาฬน้ำเงินที่มีความยาวประมาณ30เมตร อีกทั้งพวกมันยังมีน้ำหนักโดยรวมเพียงครึ่งหนึ่งของวาฬน้ำเงินทั้งหมดในแอนตาร์กติก เพิ่งจะมีการค้นพบวาฬสายพันธุ์ย่อยหลายชนิดเมื่อไม่นานมานี้ ในขณะที่วาฬสายพันธุ์ใหญ่โดยเฉพาะวาฬสีน้ำเงินนั้นถูกล่าในเชิงพาณิชย์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 และ 20 การค้นพบนี้ทำให้เราได้รู้ว่าการล่าวาฬกลายเป็นภัยคุกคามที่ทำให้จำนวนวาฬลดลง ทั้งประชากรโดยรวมและวาฬสายพันธุ์ท้องถิ่น เมื่อเหล่าประเทศที่ล่าวาฬในเชิงพาณิชย์วางแผนร่วมจัดตั้งคณะกรรมการล่าวางวาฬระหว่างประเทศในปีพ.ศ.2489 เราจึงทราบถึงจำนวนที่แท้จริงของวาฬที่ถูกล่า อย่างไรก็ตามก็ยังมีการโต้เถียงถึงการบันทึกจำนวนสายพันธุ์วาฬอยู่ ซึ่งปัจจุบันความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ก็แสดงให้เห็นว่า ที่ผ่านมาเรายังไม่รู้จักโลกของวาฬมากพอ ทั้งในเรื่องนิสัยการผสมพันธุ์รวมไปถึงการสื่อสารและวิถีชีวิตในฝูง ในปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีการค้นพบวาฬสายพันธุ์ใหม่ๆอยู่ วาฬปิ๊กมี่น้ำเงินโผล่ขึ้นเหนือน้ำที่มีความลึกถึง 250ไมล์ทางตะวันตกของมาปูโต เมืองหลวงประเทศโมซัมบิก ? Paul Hilton / Greenpeace แล้วจำนวนประชากรวาฬสำคัญต่อเราอย่างไร ? คำตอบคือ จากข้อมูลดังกล่าวทำให้เราได้ทราบว่าวาฬ(หรือสัตว์สายพันธุ์อื่นๆที่มีลักษณะเหมือนกัน) เป็นสัตว์ที่ไม่ได้มีเครือญาติมากมาย ยิ่งทำให้พวกมันอยู่ในความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์มากกว่าเดิม ดังนั้นการเปิดให้มีเขตคุ้มครองระบบนิเวศทางทะเลในมหาสมุทรโลกและการจำกัดการรบกวนของมนุษย์จะมีส่วนสำคัญเนื่องจากวาฬมีจำนวนประชากรที่น้อยมาก ผลจากการล่าวาฬเชิงพาณิชย์ทำให้จำนวนวาฬน้ำเงินทั่วโลกลดลงเหลือประมาณร้อยละหนึ่งจากจำนวนก่อนหน้านี้ และเราอาจจะสูญเสียจำนวนประชากรวาฬสายพันธุ์ย่อยต่างๆโดยที่เราไม่รู้ตัว นิทรรศการความหวังแห่งท้องทะเล ณ สถานีกลางโคเปนเฮเกน โดยแสดงให้เห็นถึงความสวยงามและภัยคุกคามที่มหาสมุทรโลกกำลังเผชิญ ? Mathilde Grafstr?m / Greenpeace วาฬปิ๊กมี่ที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรอินเดียมีลักษณะแตกต่างจากเครือญาติวาฬที่อยู่อาศัยในแอนตาร์กติก เพราะว่าพวกมันต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามของอุตสาหกรรมในมหาสมุทร ถูกรบกวนจากมลพิษทางเสียงในมหาสมุทร เช่นเรือขนาดใหญ่และการทำลายถิ่นอาศัยของพวกมัน ซึ่งนับว่าเป็นภัยอันตรายที่รุนแรงต่อความเป็นอยู่ของวาฬชนิดดังกล่าวและยังมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกด้วย วาฬน้ำเงินปิ๊กมี่กำลังว่ายน้ำผ่านแสงที่ลอดลงมาในน้ำทะเล ? Greenpeace / Paul Hilton ในขณะเดียวกัน เรารู้ดีว่าสัตว์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ต้องการสิทธิในการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องการพลังจากคนทั่วโลกที่จะมาช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและทำให้มหาสมุทรมีความอุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต เหล่าวาฬปิ๊กมี่ตัวน้อยมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ เราจำเป็นต้องปกป้องมหาสมุทรที่เป็นดั่งบ้านของวาฬเพื่ออนาคตที่อุดมสมบูรณ์ วาฬคือสัตว์ทะเลที่มีอายุยืนยาวและสัตว์ที่สามารถเดินทางไกล เราต้องมั่นใจว่าพื้นที่อันกว้างใหญ่ในมหาสมุทรจะเป็นเขตคุ้มครองทางทะเลที่คอยปกป้องพวกมัน เป็นแหล่งอาหาร แหล่งเพาะพันธุ์และเป็นพื้นที่ในการฟื้นฟูสายพันธุ์สัตว์ทะเล เราขอขอบคุณเสียงสนับสนุนจากประชาชนทั่วโลกที่ทำให้มีการสั่งห้ามการล่าวาฬเชิงพาณิชย์ในระดับโลกในปีพ.ศ.2529 ซึ่งในตอนนี้เราต้องการความร่วมมือจากทั่วโลกอย่างเร่งด่วนอีกครั้ง เพื่อสร้างเขตคุ้มครองระบบนิเวศทางทะเลและมหาสมุทรโลกเพื่อการปกป้องวาฬและถิ่นอาศัย โดยเรืออาร์กติกซันไรส์ของกรีนพีซเดินทางไปยังมหาสมุทรอินเดียเพื่อสำรวจภัยคุกคามในมหาสุมทรและเรียกร้องต่อผู้นำโลกในการปกป้องวาฬ ซึ่งตอนนี้มีผู้เข้าร่วมถึง3.5ล้านคนจากทั่วโลก ร่วมลงนามในการร้องเรียนการปกป้องวาฬและมหาสมุทรที่เป็นดั่งบ้านของเหล่าวาฬกันเถอะ https://www.greenpeace.org/thailand/...my-blue-whale/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|