#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 1-4 เมษายน 2563 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกจะมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับผลกระทบก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 30 - 31 มี.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป โดยมีฝนคะนองบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก หลังจากนั้นในวันที่ 1 - 4 เม.ย. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกจะมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 30 - 31 มี.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดอย่างต่อเนื่องไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 1 - 4 เม. ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
ออกจากหลุมแล้ว 77 ตัวลูกเต่ามะเฟืองหลุมที่ 7 ฝั่งอันดามัน วันที่ 28 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับแจ้งจากนายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 ว่า ช่วงวันที่ 26 -28 มีนาคม 2563 ที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ไข่เต่ามะเฟือง ซึ่งเป็นหลุมที่ 7 ของฝั่งอันดามันได้ฟักออกมาเป็นตัว โดยลูกเต่ามะเฟืองได้ฟักออกจากไข่ รวมแล้ว 75 ตัว จากจำนวนไข่ทั้งหมด 105 ฟอง ซึ่งลูกเต่าชุดนี้ใช้เวลาถึง 3 วันจึงจะทยอยออกจากหลุมไข่ ซึ่งวันที่ 26 ลูกเต่าได้ออกมาจากหลุม 26 ตัว วันที่ 27 ออกมา 45 ตัว กระทั่งเช้าวันนี้คือวันที่ 28 มีนาคม ลูกเต่าออกมาอีก 3 ตัวรวม 3 ชุด ซึ่งยอดรวมมีลูกเต่าฟักออกจากไข่และเดินกลับสู่ทะเลแล้วจำนวน 77 ตัว ซึ่งการดำเนินงานครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการทดลองปล่อยให้ลูกเต่าออกมาจากหลุมฟักไข่เองเป็นไปตามกระบวนการตามธรรมชาติ ซึ่งได้ผลเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ได้ลูกเต่าที่สดชื่นแข็งแรงออกมาจากหลุม เพาะฟักลูกเต่าโดยทุกตัวคลานลงทะเลในทันทีที่ออกมา ทั้งนี้ แม่เต่ามะเฟืองได้ขึ้นมาวางไข่ที่ชายหาดท้ายเหมืองเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 บริเวณหน้าวิทยาลัยการอาชีพท้ายเหมือง จำนวน 105 ฟอง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการย้ายไข่เต่ามาเพาะฟักบริเวณที่ทำการอุทยานฯ เนื่องจากหากไว้ยังจุดเดิมเกรงจะไม่ปลอดภัย รวมระยะเวลาในการเพาะฟักถึงวันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นเวลา 55 วัน โดยยังมีไข่ที่เหลืออีก 30 ฟองที่ยังไม่ฟักออกมาจากหลุม ทางเจ้าหน้าที่จะเฝ้ารอต่อไปอีก 2 วันแต่หากยังไม่ฟักออกมา ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการขุดหาไข่ที่เหลือพร้อมกับทำการเก็บข้อมูลต่อไป โดยเต่ามะเฟืองหลุมนี้เป็นหลุมที่ 7 ซึ่งยังคงมีหลุมไข่เต่ามะเฟืองรอออกเป็นตัวอีกจำนวน 3 หลุมคือที่บ่อดาน อ.ท้ายเหมือง เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า และหาดไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต https://www.naewna.com/likesara/482475
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|